xs
xsm
sm
md
lg

“โฆษก ทภ.2” ลั่น! ไม่สนคำสั่งศาลโลก - ยันทหารไทยไม่ถอนกำลังพ้น “เขาวิหาร”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว  โฆษก ทภ.2
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โฆษกกองทัพภาค 2 ลั่น! ศาลโลกมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว “เขาพระวิหาร” ตามคำร้องเขมรออกมาเช่นใดจะไม่ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่อ้างสิทธิเดิมของไทยเด็ดขาด ยันปักหลักรักษาพื้นที่และอธิปไตยของชาติอย่างเต็มที่ ชี้รอฟังคำสั่ง “ผบ.ทบ.” แต่เพียงผู้เดียว ระบุหากเขมรเปิดฉากโจมตีก่อนพร้อมตอบโต้หนักทันที ขอให้ ปชช.มั่นใจ “ทภ.2” มีศักยภาพพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนทุกรูปแบบ เตรียมเสริมกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์หากจำเป็น

วันนี้ (18 ก.ค. ) พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งวันนี้ศาลโลกจะอ่านคำวินิจฉัยมาตรการคุ้มครองชั่วคราวกรณีคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2505 ที่ฝ่ายกัมพูชาได้ยื่นฟ้องขอให้ศาลโลกตีความและมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวที่บริเวณเขาพระวิหาร โดยเฉพาะการสั่งให้ไทยถอนกำลังทหารจากพื้นที่และห้ามทำกิจกรรมทางทหารของไทยทั้งหมดในทันทีในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) ว่า ขณะนี้ยังเป็นไปตามปกติกำลังทหารทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายของกัมพูชากำลังเฝ้ารับฟังคำตัดสินของศาลโลกกรณีที่กัมพูชาขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวปราสาทเขาพระวิหารว่าจะออกมาในรูปแบบใด

ส่วนกระแสข่าวที่ฝ่ายทหารกัมพูชามีการเสริมกำลังพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์เข้ามาตามแนวชายแดนนั้น ในเรื่องนี้ความเป็นจริงแล้วทางทหารกัมพูชามีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกำลังกันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ไม่เชิงว่าเป็นการเสริมกำลัง เนื่องจากห้วงที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวต่างๆ ตามแนวชายแดนมาอย่างต่อเนื่อง พบว่าการเคลื่อนไหวทุกครั้งไม่ได้เป็นการเสริมกำลัง เป็นเพียงการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกำลังในพื้นที่เท่านั้น รวมถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ เช่น รถถัง หรือจรวดบีเอ็ม 21 ก็ยังมีอยู่ในพื้นที่เช่นเดิม ไม่ได้เป็นการส่งเข้ามาเสริม

ทางด้านฝ่ายไทยเองนั้นยังเป็นกำลังพลที่มีหน้าที่ป้องกันแนวชายแดนตามปกติ และไม่มีการเสริมกำลังใดๆ เพิ่มเติม เนื่องจากกองทัพภาคที่ 2 มีความมั่นใจว่ากำลังที่มีอยู่ตามแนวชายแดนขณะนี้สามารถปกป้องรักษาอธิปไตยของประเทศได้

พ.อ.ประวิทย์กล่าวต่อว่า ส่วนการกำชับกำลังพลทหารประจำอยู่ในพื้นที่ชายแดนนั้น ทางผู้บังคับบัญชาในทุกระดับได้มีคำสั่งชัดเจนและกำชับอยู่ตลอดเวลาว่า ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทนอดกลั้น ไม่ให้สนใจการยั่วยุของฝ่ายทหารกัมพูชา และทหารไทยต้องไม่เป็นฝ่ายที่เปิดฉากการปะทะ แต่หากฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน ทหารไทยต้องตอบโต้อย่างเต็มที่เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งยืนยันว่า ทางกองทัพภาคที่ 2 มีการเตรียมพร้อมทั้งในส่วนของกำลังและอาวุธยุทโธปกรณ์ไว้อย่างเต็มที่

สำหรับการดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ขณะนี้ได้มีการลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนให้รับทราบถึงข้อมูลข้อเท็จจริงและสถานการณ์ต่างๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ทุกอย่างที่อาจเกิดขึ้น แต่ไม่ให้ตื่นตระหนกตกใจเกินเหตุ

“ทางทหารได้มีการจัดชุดคุ้มครองประชาชนที่ออกไปทำกินในพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในพื้นที่ล่อแหลม ซึ่งมีอยู่ประมาณ 40 จุด ตลอดแนวชายแดนเพื่อคอยดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย รวมถึงหลุมหลบภัยหรือแผนการอพยพต่างๆ กรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ถูกเตรียมการไว้พร้อมแล้ว ทั้งนี้ยืนยันว่าขวัญกำลังใจของประชาชนในพื้นที่รวมทั้งกำลังพลของไทยขณะนี้ดีเยี่ยม” พ.อ.ประวิทย์กล่าว

พ.อ.ประวิทย์กล่าวอีกว่า หากศาลโลกมีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราวปราสาทเขาพระวิหารตามที่กัมพูชาร้องขอ ทางกองทัพภาคที่ 2 ก็ยังคงยืนยันในจุดยืนเดิมตามคำสั่งของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และทาง พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ได้สั่งการลงมาอย่างชัดเจนว่า จะยังคงรักษาอธิปไตย และรักษาพื้นที่ที่ทางกองทัพภาคที่ 2 ดูแลอยู่ในปัจจุบัน เพราะเราถือว่าพื้นที่ที่ทางกองทัพภาคที่ 2 เข้าไปควบคุมอยู่ในขณะนี้ ถึงแม้ขณะนี้จะยังไม่มีความชัดเจนหรือมีการปักปันเขตแดนที่แน่ชัด แต่ถือว่าเป็นพื้นที่อ้างสิทธิที่ทางกองทัพภาคที่ 2 เข้าไปดูแลมาเป็นระยะเวลานานแล้ว

ดังนั้น ไม่ว่าศาลโลกจะมีคำตัดสินออกมาอย่างไรกำลังทหารของกองทัพภาคที่ 2 ก็จะอยู่ดูแลพื้นที่ที่ไทยอ้างสิทธิอยู่เช่นเดิม เพื่อรักษาพื้นที่และอธิปไตยของประเทศชาติเช่นดังเดิม และจะขอรับฟังคำสั่งจากผู้บัญชาการทหารบกซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพภาคที่ 2 แต่เพียงผู้เดียวว่าจะมีการสั่งการใดๆ ลงมา แต่ในขั้นต้นจะยึดถือคำสั่งเดิมที่จะปักหลักรักษาอธิปไตยในพื้นที่อ้างสิทธิอย่างเต็มที่ จนกว่าผู้บัญชาการทหารบกจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

หากศาลโลกมีคำตัดสินคุ้มครองชั่วคราวปราสาทเขาพระวิหาร และเป็นเหตุให้ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากโจมตีฝ่ายไทยนั้นทางกองทัพภาคที่ 2 ก็พร้อมที่จะตอบโต้กลับไปอย่างเต็มที่เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ และมั่นในว่ากำลังที่มีอยู่ในพื้นที่ขณะนี้เพียงพอที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกรูปแบบ แต่หากมีความจำเป็นที่จะต้องเสริมกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ทางกองทัพภาคที่ 2 ก็มีการเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้วและไม่จำเป็นที่จะต้องร้องขอกำลังจากหน่วยอื่นแต่อย่างใด

“ศักยภาพของกำลังพลและอาวุธต่างๆ ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้มีการฝึกทบทวนและเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา จึงขอให้ประชาชนชาวไทยเชื่อมั่นว่ากองทัพภาคที่ 2 พร้อมที่จะรับมือกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน” พ.อ.ประวิทย์กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น