xs
xsm
sm
md
lg

วอนช่วย “น้องน็อต” พิการแต่เกิด ซ้ำพ่อป่วยรายได้แม่ไม่พอซื้อนม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น้องน็อตพิการมาตั้งแต่เกิด ต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น พ่อที่เคยเป็นเสาหลักป่วยทำงานไม่ได้ เหลือแต่แม่ทำงานรับจ้างมีรายได้ไม่พอซื้อนม-รักษาพยาบาลลูก
มหาสารคาม - วอนช่วยเหลือน้องน็อตวัย 3 ขวบ 7 เดือน พิการแต่กำเนิด ซ้ำพ่อป่วยไม่สามารถทำงานหนักได้ ต้องคอยอยู่ดูแลลูกชายพิการ ส่วนแม่รับจ้างเหมาเย็บเสื้อโหลได้เงินเดือนละพันกว่าบาท วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 16 ต.งัวบา อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาพบกับ นายดำรง นาบำรุง อายุ 38 ปี และนางสาวจันทร์เพ็ญ ดุสิต อายุ 35 ปี พ่อและแม่ของน้องน็อต ด.ช.ภัทรพล นาบำรุง อายุ 3 ปี 7 เดือน ที่เป็นโรคสมองพิการมาแต่กำเนิด

โดยพ่อแม่ของน้องน็อตเปิดเผยว่า มีลูก 2 คน คนโตอายุ 9 ขวบ ส่วนน้องน็อตน้องคนเล็ก มีอาการผิดปกติ ตั้งแต่เกิดมา คือจะมีอาการซึม ไม่ดูดนม หลังจากแม่คลอดได้เพียง 1 สัปดาห์ ก็ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาสารคามอย่างต่อเนื่อง ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา โดยการไปแต่ละครั้งแพทย์ก็นำเข้าห้องไอซียูตลอด ล่าสุดเมื่อปี 2553 แพทย์ได้เจาะคอ เพื่อให้น้องน็อตหายใจได้สะดวก

นายดำรง นาบำรุง พ่อของน้องน็อตบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อก่อนเป็นเสาหลักของบ้าน ทำงานรับจ้างมาโดยตลอด แต่เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาตนมีอาการวิงเวียนศีรษะ เหมือนโลกหมุนอยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถทำงานหนักได้ จึงได้ลาออกมาอยู่กับบ้าน ส่วนแม่ของน้องน็อต ต้องไปรับจ้างเย็บผ้าในหมู่บ้าน เป็นงานจ้างเหมา ได้เงินเดือนละประมาณพันกว่าบาท พอน้องน็อตเกิดก็มีอาการผิดปกติ ซึ่งตอนนี้ชีวิตความเป็นอยู่ลำบากมาก เพราะน้องน็อตต้องกินนมวันละ 4 ครั้ง เฉลี่ยแล้ว 3 วันต่อ 1 กล่อง ค่านมราคากล่องละ 175 บาท ซึ่งต้องให้นมทางสายยาง ทุก 3 ชั่วโมง โดยแพทย์ได้เจาะคอให้น้องน็อตหายใจได้สะดวกขึ้น ซึ่งจะต้องทำความสะอาดวันละ 2 ครั้ง เมื่อถึงเวลาอาบน้ำ น้องน็อตจะมีอาการเกร็งทุกครั้ง ส่วนเวลานอนต้องให้นอนตะแคง เพื่อไม่ให้เป็นแผลกดทับ แต่พอเวลาน้องน็อตตื่น จะมีอาการเกร็งและกระตุก โดยพ่อจะต้องคอยอยู่ดูแลตลอดเวลา ไม่สามารถไปไหนได้เลย

เพราะบางครั้งน้องน็อตสำลักหรือมีเสมหะก็ต้องคอยเอาลูกยางดูดเสมหะออก เพื่อให้น้องหายใจได้ดีขึ้น โดยน้องน็อตเป็นเด็กร่าเริง มีอารมณ์ขัน หากไม่มีอาการไอ หรือเกร็ง ก็จะยิ้มอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่สามารถพูดได้ และตาก็มองไม่เห็น จะรับรู้ได้ก็เพียงแต่เสียงเท่านั้น

พ่อของน้องน็อตกล่าวต่อว่า สิ่งที่ต้องการมากที่สุดตอนนี้ก็คือ เงินที่จะมาซื้อนมให้ลูกกิน เพราะเดือนหนึ่ง น้องน็อตต้องกินนมถึง 12 กล่อง เป็นเงินถึง 2,000 กว่าบาท ยังไม่รวมค่าเดินทางที่จะต้องพาน้องน็อตไปหาหมอในตัวจังหวัด และค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก แต่ก็ยังดีที่ไม่ต้องเสียค่าหมอ รวมถึงอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ โดยทางโรงพยาบาลมหาสารคาม ได้ให้ยืมเครื่องดูดเสมหะมา 1 เครื่อง ซึ่งสิ่งที่อยากได้ก็คือ เครื่องออกซิเจน และเบาะลม ให้ลูกชายนอน เพื่อที่จะได้ไม่เป็นแผลกดทับ ซึ่งได้เคยยื่นเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ ชีวิตความเป็นอยู่ตอนนี้ถือว่าลำบากมาก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาดูแล ต่อชีวิตให้กับครอบครัวด้วย

โดยผู้ใจบุญ สามารถร่วมบริจาคเงินได้ที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขามหาสารคาม ชื่อบัญชี นางสาวจันทร์เพ็ญ ดุสิต เลขที่บัญชี 101-1-42858-2
กำลังโหลดความคิดเห็น