แม่จีนสุดปวดร้าว! ยอมรับผิด หลังปลิดชีพลูกแฝดที่พิการแต่กำเนิด

ไชน่า เดลี - ฮั่น ฉวินเฟิง คุณแม่บุญน้อย ทุกข์ใจอย่างสาหัส หลังปลิดชีวิตลูกแฝดของตน ด้วยว่าไม่อาจทานทนเห็นลูกตนเองซึ่งป่วยเป็นโรคสมองพิการ ต้องมีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมานในภายหน้า

สื่อจีนรายงาน(3 มิ.ย.) ว่า เหตุการณ์อันน่าสลดครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ปีที่ผ่านมา(2553) นางฮั่น ฉวินเฟิง คุณแม่วัย 37 ปี ได้ให้ยานอนหลับแก่ลูกแฝดของตนที่ป่วยเป็นโรคสมองพิการแต่กำเนิด จากนั้นก็จับกดน้ำในอ่างอาบน้ำที่บ้านในเมืองตงก่วน มณฑลก่วงตง(กวางตุ้ง) ต่อมา เธอพยายามฆ่าตัวตาย ด้วยการกินยาเบื่อหนู และยาฆ่าแมลง แต่โชคยังดีที่สามีของเธอมาพบเข้าเสียก่อน จึงรีบพาเธอส่งโรงพยาบาลได้ทัน

นางฮั่น ได้ยอมรับสารภาพในข้อหาฆาตกรรมลูกแฝดของตน ระหว่างการไต่สวนสาธารณะ ที่ศาลประชาชนเมืองตงก่วน มณฑลก่วงตง เมื่อวันพฤหัส(2 มิ.ย.) โดยเผยว่า “หากฉันมีโอกาสอีกสักครั้ง ฉันจะไม่ทำแบบนี้แน่นอน ฉันอยากจะขอความช่วยเหลือจากสังคม แทนที่จะมาลงทัณฑ์กัน”

นางฮั่น เผยต่อว่า “จริงๆแล้ว ฉันไม่ได้ต้องการฆ่าลูกตนเอง แต่ฉันกังวลว่า ในอนาคต หากฉันอายุมากขึ้นจนดูแลพวกเขาไม่ไหว หรือ ต้องจากโลกนี้ไป ชีวิตของลูกแฝดทั้งสอง จะอยู่อย่างไร”

ซย่า เหลียงเหิง ทนายความของนางฮั่น เผยว่า “มันยากที่จะเข้าใจว่า นางฮั่นได้เผชิญกับแรงกดดันและความทุกข์ทรมานมากขนาดไหน หลังจากที่เธอพบว่า ลูกแฝดของตนพิการทางสมองแต่กำเนิด คงมีไม่กี่คนที่กล้าแม้แต่จะเหลียวมองเด็กเหล่านั้น แต่นางฮั่นได้ดูแลเด็กแฝดทั้งสองมาตลอด”

เมื่อ 2 ปีที่แล้ว(2552) นางฮั่น อดีตเสมียนธนาคารท้องถิ่นในเมืองตงก่วน ได้ลาออกจากงานเพื่อมาดูแลลูกแฝดของตน เนื่องจากรับภาระค่าจ้างพี่เลี้ยงไม่ไหว

ที่ผ่านมา นางฮั่นและสามีได้พาลูกแฝดไปพบแพทย์ตามโรงพยาบาลมีชื่อต่างๆ ในเมืองตงก่วน มณฑลก่วงตง แต่แพทย์และผู้เชี่ยวชาญทุกคน ต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า มีความหวังอันริบหรี่ ที่อาการป่วยของเด็กแฝดนี้ จะหายเป็นปกติ

สามีของนางฮั่น กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า “ภรรยาของผมต้องเผชิญกับแรงกดดันอันสาหัส หลังจากให้กำเนิดลูกแฝดทั้งสอง ผมหวังว่าศาลจะให้โอกาสแก่ภรรยาและครอบครัวอันโชคร้ายของผม”

ทั้งนี้ ศาลยังไม่มีคำตัดสินต่อคดีดังกล่าว ขณะที่ ชาวจีนรวมทั้งสิ้น 558 คน ได้ลงนามในหนังสือเรียกร้องความเมตตาแก่นางฮั่น และยื่นต่อศาล

หลิว เหวินจวิน พนักงานออฟฟิศคนหนึ่งในเมืองตงก่วน เผยกับไชน่าเดลี ว่า “ฮั่น ควรได้รับโทษสถานเบากว่าคดีฆาตตกรรมทั่วไป เพราะตัวเธอเองก็เป็นเหยื่อของชีวิตเหมือนกัน ฉันรู้สึกเห็นใจเธอและครอบครัว และฉันก็เข้าใจในความทุกข์ระทมที่เธอได้เผชิญมาตลอดในรอบ 2 ปีมานี้ คดีนี้ไม่ควรตัดสินเฉกเช่นเดียวกับคดีฆาตกรรมทั่วไป มันค่อนข้างแตกต่างกัน”

หวัง เหอผิง ศาสตราจารย์ด้านการศึกษาพิเศษแห่งมหาวิทยาลัยอีสต์ ไชน่า นอร์มัล เผยในรายงานล่าสุดของ ลีกัล เดลี ว่า “ผลจากการวิจัยล่าสุดพบว่า มีประชาชนชาวจีนราว 3-4 ล้านคน ป่วยเป็นโรคพิการทางสมอง โดยในแต่ละปี มีผู้ป่วยรายใหม่ราว 60,000 คน”