ศูนย์ข่าวศรีราชา - กำลังพลหมู่เรือปราบโจรสลัดโซมาเลีย จำนวน 368 นาย วิ่งขึ้นสู่ยอดเขาแหลมปู่เจ้า บวงสรวง ถวายเครื่องสังเวย ยิงปืน ขอพรอันประเสริฐ แด่เสด็จเตี่ย ให้มีชีวิตรอดปลอดภัยระหว่างปฏิบัติภารกิจปราบโจรสลัดบริเวณอ่าวเอเดน ชายฝั่งโซมาเลีย ตลอดระยะเวลา 140 วัน
วันนี้ (10 ก.ค.) นาวาเอก ภราดร พวงแก้ว ผู้อำนวยการกองยุทธการ กองเรือยุทธการ และนาวาเอก ธานินทร์ ลิขิตวงศ์ รองเจ้ากรมยุทธการทหารเรือ ซึ่งเป็นผู้บังคับหน่วยเรือปราบปรามโจรสลัด ได้นำกำลังพลข้าราชการ และพลทหาร จำนวน 368 นาย วิ่งขึ้นยอดเขาแหลมปู่เจ้า เพื่อถวายเครื่องสักการะ บวงสรวงเครื่องเซ่นเครื่องสังเวย พร้อมขอพรอันประเสริฐ แด่ดวงพระวิญญาณ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (เสด็จเตี่ย)
ทั้งนี้ เพื่อให้การเดินทางเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจในการปราบปรามโจรสลัด กับกองกำลังผสมทางเรือนานาชาติ ในการให้ความคุ้มครองเรือประมง และเรือสินค้า ตลอดจนให้ความช่วยเหลือลูกเรือที่ถูกปล้นจากโจรสลัด ที่เดินเรือผ่านพื้นที่อ่าวเอเดน และชายฝั่งโซมาเลีย อันเป็นจุดล่อแหลมต่อภัยโจรสลัด เป็นไปด้วยความราบรื่น กำลังพลมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เดินทางโดยปลอดภัยทั้งไป และกลับ และในโอกาสนี้ ผู้บังคับหมู่เรือเดินทางได้ยิงปืน จำนวน 19 นัด พร้อมกับกำลังพลร่วมกันร้องเพลงเดินหน้า เพลงถอนสมอ และเพลงทหารเรือ ถวายเสด็จเตี่ยอีกด้วย
นาวาเอก ภราดร พวงแก้ว ผู้อำนวยการกองยุทธการ กองเรือยุทธการ เป็นผู้บังคับหน่วยเรือปราบปรามโจรสลัด กล่าวว่า วันนี้นับเป็นโอกาสดีที่กำลังพลประจำเรือหลวงสิมิลัน และเรือหลวงนราธิวาส ซึ่งเป็นหมู่เรือที่เข้าร่วมในภารกิจปราบโจรสลัด ได้มีความพร้อมจนถึงขีดสุด จึงถือโอกาสนี้นำกำลังพลทั้งหมด วิ่งขึ้นเขาแหลมปู่เจ้า ซึ่งเป็นที่ตั้งศาล พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือเสด็จเตี่ย และเหล่าทหารเรือต่างเชื่อกันว่าศาลแห่งนี้ เป็นที่สถิตดวงพระวิญญาณของพระองค์ท่าน ที่มีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก เพื่อสักการะ ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ก่อนออกเดินทางจากท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2554
จากความสำเร็จในครั้งที่ผ่านมา รัฐบาลไทยจึงได้มอบหมายให้กองทัพเรือจัดกำลังเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจในการปราบปรามโจรสลัดเป็นครั้งที่ 2 ณ บริเวณอ่าวเอเดน และชายฝั่งโซมาเลีย อันเป็นจุดล่อแหลมต่อภัยโจรสลัด เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญในการเดินเรือ จากมหาสมุทรอินเดียผ่านทะเลแดง เข้าสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นประตูจากทวีปเอเชียสู่ทวีปยุโรป ทำให้มีเรือสินค้าและเรือประมงเดินทางผ่านเข้าออกบริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก แต่ต้องเผชิญกับโจรสลัดที่ทำการปล้น และยึดเรืออยู่บ่อยครั้ง ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจอันส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของหลายประเทศ ที่มีกิจการทางทะเลในบริเวณดังกล่าว และที่ผ่านมา มีเรือไทยถูกโจรสลัดปล้นยึดเรือมาแล้วหลายครั้ง
พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้จัดกำลังทางเรือและอากาศยานประกอบกำลังเป็นหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด โดยกำลังที่เข้าร่วมปฏิบัติการ ประกอบด้วย เรือหลวงสิมิลัน และเรือหลวงนราธิวาส พร้อมเฮลิคอปเตอร์ แบบเบลล์ 212 และชุดซีลทีมจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ โดยเรือทั้งสองลำพร้อมกำลังพล จำนวน 368 นาย จะออกเดินทางโดยใช้ระยะเวลาในการเดินเรือประมาณ 20 วัน จึงจะเข้าสู่พื้นที่ปฏิบัติการ โดยมีห้วงระยะเวลาปฏิบัติภารกิจในอ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลีย จำนวน 140 วัน ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจและเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2554 นี้
