เอเอฟพี - ผู้พยายามลักลอบเข้าเมืองเกือบ 200 คน จมน้ำเสียชีวิต ขณะเรือขนผู้อพยพลำหนึ่งเกิดเหตุไฟไหม้กลางทะเลแดง ระหว่างทางจากซูดานข้ามไปยังซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันอังคาร (5) สำนักข่าวซูดานมีเดียเซนเตอร์รายงาน
“ผู้คนกว่า 197 รายจากประเทศแถบนี้จมน้ำเสียชีวิตกลางทะเลแดงในเขตน่านน้ำซูดาน หลังเกิดเหตุไฟไหม้เรือลำหนึ่ง ซึ่งลักลอบขนย้ายผู้อพยพเดินทางไปยังซาอุดีอาระเบีย” ซูดานมีเดียเซนเตอร์ สำนักข่าวอิสระภายในประเทศ รายงานอ้างอิงข้อมูลจากทางการ
ด้านโฆษกสำนักงานตำรวจซูดานยอมรับกับเอเอฟพี ว่า “ข้อมูลที่ซูดานมีเดียเซนเตอร์รายงานนั้นถูกต้อง” แต่ปฏิเสธการเปิดเผยรายละเอียด โดยอ้างว่ายังไม่ได้รับรายงานเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวซูดานมีเดียเซนเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ซูดานสามารถบุกจับกุมชาวเยเมน 4 ราย เจ้าของเรือสัญชาติคิวบาที่เกิดเหตุไฟไหม้กลางทะเล วานนี้ ถึงรังบัญชาการในเขตโตการ์ (Tokar) ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากท่าเรือซูดานไปทางใต้ประมาณ 150 กิโลเมตร
นอกจากนี้ การจับกุมดังกล่าวยังสามารถขัดขวางแผนการลักลอบขนผู้อพยพอีกกว่า 247 ชีวิตผ่านทางชายฝั่งเขตโตการ์ได้อีกหนึ่งคดี โดยเหยื่อการค้ามนุษย์จำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวซูดาน เอริเทรีย ชาด และไนจีเรีย
ทั้งนี้ ตลอดแนวชายฝั่งและเขตชายแดน 875 กิโลเมตรของ เอริเทรีย เอธิโอเปีย ชาด และอียิปต์ ซูดานเป็นจุดส่งต่อชาวแอฟริกันอพยพที่ต้องการลักลอบข้ามไปยังฝั่งคาบสมุทรอาหรับทางเรือ หรือ ข้ามไปยังอิสราเอลด้วยทางบก ที่สำคัญ
ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติประเมินว่ามีชาวเอริเทรียลี้ภัยมากกว่า 100,000 คนพักพิงอยู่ในซูดานเหนือ และส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในค่ายพักตามแนวชายแดนทางตอนหนือของซูดานที่เชื่อมต่อกับเอริเทรีย
ขณะเดียวกัน ความรุนแรงประกอบกับวิกฤตความแห้งแล้งในโซมาเลีย ส่งผลให้ผู้คนมากกว่า 135,000 คนตัดสินใจอพยพออกจากโซมาเลียในปีนี้ เฉพาะเดือนมิถุนายนเดือนนี้ชาวโซมาเลียละทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิดมากถึง 54,000 คน และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยยูเอ็นรายงานว่าชาวแอฟริกันกว่า 10 ล้านคนในจงอยแอฟริกา (Horn of Africa) หรือดินแดนฝั่งแอฟริกาตะวันออก กำลังประสบความภาวะแห้งแล้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 60 ปี