พิจิตร - ผู้ว่าฯพิจิตร จับมือกรมป่าไม้-บริษัทไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง ร่วมปลูกป่า 50 ไร่ 1 หมื่นต้น ถวายองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เผยเมืองชาละวันในอดีตเต็มไปด้วยผืนป่า แต่วันนี้กลับเหลือพื้นที่ป่าแค่ 8 พันไร่ หรือ 1%ของพื้นที่ทั้งจังหวัด
วันนี้ (8 ก.ค.) นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้เป็นประธานในพิธีตาม “โครงการ 84 ป่าชุมชนปลูกต้นไม้ถวายพ่อ” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาส พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 ณ ป่าชุมชน บ้านเขาโล้น หมู่ที่ 6 ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมป่าไม้-บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ในการที่ร่วมกันปลูกป่าบนพื้นที่ 50 ไร่ เป็นไม้ 9 ชนิด อันได้แก่ ไม้มะรุม ไม้มะขวิด ไม้สะเดา ไม้ขี้เหล็ก ไม้พยุง ไม้สัก ไม้ประดู่ ไม้ยูคาลิปตัส ไม้มะขามป้อม เป็นจำนวน 1 หมื่นต้น
ซึ่งการปลูกต้นไม้ครั้งนี้ได้มีประชาชนข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา รวมถึงพนักงานฝ่ายสิ่งแวดล้อมเหมืองแร่ชาตรี ของบริษัท อัครา ไมนิ่ง จำนวนเกือบ 300 คน ร่วมงานที่ถือเป็นหนึ่งในโครงการปลูกต้นไม้ลดภาวะโลกร้อนและสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับคืนสู่ธรรมชาติ และ ให้เป็นป่าที่สร้างความชุ่มชื้นและเรียกฟ้าขอฝนให้ตกต้องเป็นไปตามฤดูกาล
ในโอกาสนี้ นายสุวิทย์ ได้กล่าวถึง พระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อ พ.ศ.2444 คือ เมื่อ 110 ปีที่แล้ว ที่พระองค์ท่านเคยเสด็จฯมาจังหวัดพิจิตรและทรงบันทึกข้อความตอนหนึ่งไว้ว่า เมืองพิจิตรเป็นเมืองที่มีป่าไม้แน่นทึบหนามาก จนกระทั่งเกินกำลังของราษฎรที่จะโค่นแผ้วถางป่าที่จะสร้างเมืองพิจิตร
ฉะนั้น ตัวเมืองพิจิตรจึงเล็กเพียงนิดเดียว เนื่องจากผืนป่ากว้างใหญ่มาก เพราะในสมัยก่อนการจะแผ้วถางป่าต้องใช้แรงงานคน และมีดขวานในการถางป่าเท่านั้น ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังมีรากฐานและร่องรอยความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าให้เหลือให้เห็นอยู่เพียง ที่อุทยานแห่งชาตินครไชยบวร ตำบลท่าเสา อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ที่ยังคงมีต้นยางนาขนาดใหญ่หลายคนโอบอยู่ถึง 1,080 ต้น และที่วนอุทยานเมืองเก่า ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ก็ยังปรากฏให้เห็นว่ามีต้นยางนาขนาดใหญ่และต้นไม้เก่าๆ ที่ขึ้นทึบหนาแน่นและต้นใหญ่ให้ได้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์เป็นจริงไปตามบันทึกของ ร.5 ในสมัยนั้น ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าในอดีตเมืองสระหลวงหรือเมืองโอฆะบุรีที่เป็นจังหวัดพิจิตรได้จนถึงทุกวันนี้อดีตนั้นสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้
แต่เหตุที่ป่าหมดไปก็เพราะเมื่อประมาณปี พ.ศ.2510 เกิดเหตุการณ์ป่าแตก หรือเป็นยุคแห่งช่วงให้สัมปทานตัดไม้ ประกอบกับมีเทคโนโลยีเครื่องจักรกลและเลื่อยยนต์เข้ามา จึงทำให้ง่ายต่อการทำลายป่า และป่าไม้ก็ราบเรียบพนาสูญ จนในวันนี้พื้นที่ 2.8 ล้านไร่ของจังหวัดพิจิตร เหลือผืนป่าไม้อยู่เพียงประมาณ 8 พันไร่ เท่านั้น หรือเทียบเท่าเหลือเพียง 1% จากในอดีต
ฉะนั้น ในวันนี้ชาวจังหวัดพิจิตรและคนไทยทุกคนจึงถือโอกาสขอร่วมเฉลิมฉลองในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 ด้วยการหันมาช่วยกันปลูกต้นไม้ปลูกป่าชุมชนสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นดินเพื่อลดภาวะโลกร้อน และคืนธรรมชาติเพื่อเป็นการทำความดีถวายแด่ในหลวงในวโรกาสดังกล่าว
