ผู้ว่าฯพิจิตรยกทีมเดินสายพบผู้นำท้องถิ่น-ย้ำหมุดภักดีสถาบัน-ปลุกเลือกตั้ง

พิจิตร - เจ้าเมืองชาละวัน ยกทีมเดินสายแจงนโยบายผู้นำท้องถิ่น ย้ำจงรักภักดีเทิดทูนสถาบัน-วางตัวเป็นกลางเลือกตั้ง ส.ส. พร้อมตั้งเป้าปลุกคนใช้สิทธิให้ได้ 80%

นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรและคณะที่ประกอบด้วย, นายมานพ อัศวอาชากุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร, นายนพรัตน์ ตั้งกิตติถาวร ปลัดจังหวัดพิจิตร, นายณรงค์ รักร้อย หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพิจิตร และอีกหลายภาคส่วน ได้เปิดเผยว่า ตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ใช้เวลาในการเดินสายจัดเวทีประชุมเสวนา โครงการยุทธศาสตร์จังหวัดพิจิตรของปี 54/56 ร่วมกับนายอำเภอและกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนนายก อบต. และผู้นำท้องถิ่นต่างๆใน 12 อำเภอของจังหวัดพิจิตร

โดยได้ให้ยุทธศาสตร์จังหวัดพิจิตร คือ ให้เป็นดินแดนแห่งการผลิตข้าวคุณภาพปลอดสารพิษและลดต้นทุนการผลิต โดยมุ่งเน้นติดอาวุธทางการเรียนรู้ด้านการเกษตรให้กับชาวนา ดังนั้น ขอให้นโยบายของท้องถิ่นต้องวางแผนให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของจังหวัด มุ่งเน้นการพัฒนาแหล่งน้ำด้วยการขุดลอกคูคลอง ห้วย หนอง คลอง บึง ให้ใช้เป็นที่กักเก็บน้ำหรือแก้มลิง ซึ่งนอกจากจะบรรเทาน้ำท่วมได้แล้ว ยังสามารถแก้ปัญหาภัยแล้งและนำน้ำมาใช้เพื่อการเกษตร ถือเป็นการเปลี่ยนน้ำเป็นเงินได้ด้วยการทำการเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง เพื่อจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น

อีกทั้งยังให้นโยบายว่าในปีนี้เป็นปีมหามงคลที่จะเวียนมาบรรจบครบอีกวาระหนึ่งในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา จึงขอให้ทุกท้องถิ่นจัดโครงการอันเป็นประโยชน์กับประชาชนและสร้าง รวมถึงส่งเสริมสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นการทำความดีถวายในหลวง

และขอให้ผู้นำชุมชนต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน รวมถึงให้เร่งตบแต่งสถานที่ทำการของท้องถิ่นรวมถึงโรงเรียน วัดวาอาราม บ้านเรือนราษฎร ว่าควรสนับสนุนให้ประดับธงชาติและธงตราสัญลักษณ์กันให้พร้อมเพียงและดูสวยงาม เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีของพสกนิกรชาวไทย

นอกจากนี้ ยังฝากเตือนผู้นำชุมชนที่ล้วนมีอิทธิพลทางความคิด ว่า ช่วงการเลือกตั้งสส.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ขอให้ข้าราชการทุกคนวางตัวเป็นกลางและอย่าได้ริทำตัวเป็นหัวคะแนน หากมีการถูกร้องเรียนและสอบสวนได้ว่าทำผิดก็จะมีการลงโทษอย่างเด็ดขาด

อีกทั้งขอให้เร่งประชาสัมพันธ์ตั้งเป้าให้ประชาชนมาใช้สิทธิลงคะแนนให้ได้อย่างน้อย 80% เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดประชาธิปไตย