ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจภาค 5 โชว์ผลงานชิ้นโบแดง รวบผู้ช่วย ผญบ.ห้วยน้ำดัง ขนเฮโรอีนอัดแท่ง 123 แท่ง หนัก 43 กก.มูลค่าในตลาดต่างประเทศกว่า 700 ล้าน จากแม่ฮ่องสอน นัดส่งของลำพูน ผู้ต้องหาสารภาพรับจ้างขนเที่ยวละ 5 แสน บอกทำมาแล้ว 2 ครั้งแต่เที่ยวนี้ไม่รอด ผบช.ภ.5 ลั่นตามลากคอผู้อยู่เบื้องหลังต่อให้ถึงที่สุด
วันนี้ (8 ก.ค.) พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ผบช.ภ.5 ,นายพรเทพ เอี่ยมประไพ ผอ.ปปส.ภ.5 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายมงคล รุ่งการเจริญ อายุ 32 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านห้วยน้ำดัง อยู่บ้านเลขที่ 25/1 หมู่ที่ 5 ต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และ นายสุรชัย ธนรัตน์ศิริกุล อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/1 หมู่บ้านเดียวกัน พร้อมของกลางเฮโรอีนอัดแท่ง 123 แท่ง หนัก 43 กิโลกรัม, รถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีเทา ทะเบียน ตฐ 2977 กรุงเทพมหานคร เงินสด 23,520 บาท กล้องวิดีโอ 1 ตัว และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง
พล.ต.ท.ชัยยะ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ป.ป.ส.ภาค 5 ทหาร กกล.ผาเมือง ร่วมกันวางแผนติดตามความเคลื่อนไหวเครือข่ายยาเสพติด กระทั่งวันที่ 7 ก.ค.54 สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนย้ายเฮโรอีนผ่านบริเวณถนนสายทุ่งหัวช้าง-แม่อาว หมู่ 1 ต.ตะเคียนปม อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน จึงสั่งการให้ตั้งจุดตรวจสกัดขึ้น
ต่อมาพบเห็นรถกระบะของผู้ต้องหาขับผ่านมาตามเส้นทางมาจาก อ.เมือง จ.ลำพูน มุ่งหน้าไป อ.เถิน จ.ลำปาง จึงเรียกให้หยุด ตรวจค้นพบเฮโรอีนซุกซ่อนอยู่ที่ท้ายกระบะเป็นจำนวนมาก
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับจ้างขนเฮโรอีนจาก จ.แม่ฮ่องสอน ไปส่งให้กับผู้ว่าจ้างในเขตพื้นที่ จ.ลำพูน โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 5 แสนบาท โดยเมื่อไปถึงจุดนัดหมายก็แค่นำไปวางไว้ตามจุดที่นัดกันไว้ แล้วจะได้รับเงินในภายหลัง ที่ผ่านมาผู้ต้องหาเคยทำมาแล้ว 2 ครั้งแต่ครั้งนี้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้
พล.ต.ท.ชัยยะ กล่าวต่อไปว่า เฮโรอีนทั้งหมดที่จับกุมได้ในครั้งนี้ เมื่อถูกนำไปขายที่ต่างประเทศจะมีราคาเพิ่มขึ้น 10 เท่าตัว คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 700 ล้านบาท หลังจากนี้ก็จะขยายผลทางคดี ตามจับขบวนการที่อยู่เบื้องหลัง เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ระบุอีกว่า ตำรวจภาค 5 มีมาตรการคุมเข้มเรื่องยาเสพติดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดเวลา โดยมีด่านตรวจถาวรในพื้นที่ภาค 5 กว่า 100 ด่าน แต่ระยะหลังกลุ่มผู้ค้าจะพยายามเลี่ยงเส้นทางที่มีการตั้งด่านตรวจ หันไปใช้เส้นทางระหว่างหมู่บ้านมากขึ้น จึงต้องมีการเพิ่มจุดตรวจขึ้นเช่นกัน