ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตร.แม่ลาว เชียงราย จับยาบ้า 3 แสนเม็ด หลังคนร้ายแหกด่านก่อนพุ่งลงทุ่งนาจนมุม เผยเตรียมส่งไปพะเยาแต่โดนซิวก่อน ด้าน บก.สส.ภาค 5 จับพ่อค้าอาวุธที่ลำพูนพร้อมเอ็ม 16 -เครื่องกระสุน พบมีเอี่ยวคดีฆ่าโหดตำรวจสืบสวนลำพูน แต่ถูกปล่อยตัว ก่อนกลับมาค้าอาวุธต่อก่อนโดนรวบตัว
วันนี้ (7 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เป็นประธานในการแถลงข่าวการจับกุมยาบ้าจำนวนกว่า 300,000 เม็ด ในพื้นที่ จ.เชียงราย และการจับกุมอาวุธปืน พร้อมผู้ต้องหาคดีฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จ.ลำพูน
สำหรับคดีการจับกุมยาบ้าที่ จ.เชียงราย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.00 น.โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ลาว จ.เชียงรายได้รับแจ้งจากสายว่า จะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดลำเลียงยาเสพติดหลีกเลี่ยงด่านตรวจ จึงได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจ-สกัด บริเวณถนนสายบ้านหัวทุ่ง-บ้านผาบ่อง ม.10 ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ต่อมามีรถยนต์โตโยต้า วีโก้ สีเทา หมายเลขทะเบียน บว-4815 เชียงราย ซึ่งตรงตามที่ได้รีบรายงานวิ่งผ่านมา จึงได้ขอทำการตรวจค้น แต่รถคันดังกล่าวไม่ยอดหยุดและขับหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตาม
จนกระทั่งพบรถคันดังกล่าวเสียหลักพุ่งลงข้างทางบริเวณกลางทุ่งนาบ้านสันมะแฟน ม.6 ต.ธารทอง อ.พาน จ.เชียงราย จึงได้ควบคุมตัวคนขับรถ ทราบชื่อในเวลาต่อมาว่านายสมชัย อภิปรีชาชาญ อายุ 50 ปี อยู่บานเลขที่ 213 ม.8 ต.ทานตะวัน อ.พาน จ.เชียงราย มาสอบสวนที่ สภ.แม่ลาว
จากการตรวจสอบรถคันดังกล่าว พบถุงหิ้วรวม 30 ถุง ภายในแต่ละถุงมียาบ้าซึ่งบรรจุในซองพลาสติกสีฟ้า ห่อด้วยกระดาษสาและพลาสติกใส พันด้วยเทปกาวแล้วบรรจุเรียงกันรวมจำนวน 5 มัด รวมยาบ้าทั้งหมดที่พบประมาณ 300,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ข้างกระบะท้ายรถใต้พื้นปูกระบะ จึงได้ควบคุมตัวนายสมชัยเป็นผู้ต้องหา และทำการสอบสวน ทราบว่านายสมชัยรับจ้างขนยาบ้าดังกล่าวจากชายไม่ทราบชื่อ โดยรับเงินค่าจ้างส่วนหนึ่งมาแล้วจำนวน 7,000 บาท ก่อนจะนำยาบ้าทั้งหมดมาจาก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เพื่อไปส่งที่บริเวณสี่แยกแม่ต๋ำ ต.แม่ต๋ำ อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา เมื่อถึงที่หมายจะมีผู้มารับยาบ้าดังกล่าวอีกทอดหนึ่ง และจะได้รับเงินค่าจ้างส่วนที่เหลือ แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ดักสกัดและจับกุมได้ก่อน
ส่วนคดีการจับกุมอาวุธปืนที่ จ.ลำพูนนั้น บก.สส.ภ.5 ได้ทำการจับกุม นายสุรพงษ์ จำปาที อยู่บ้านเลขที่ 9/35 ม.4 ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.ลำพูน บริเวณสถานีขนส่ง จ.ลำพูน พร้อมของกลางได้แก่ ปืนเล็กยาวเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 20 นัด กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 20 นัด อุปกรณ์ติดลำกล้องส่อง จำนวน 2 ชิ้น และอุปกรณ์เก็บเสียงปืน 1 ชิ้น
จากการสืบสวนทราบว่า นายสุรพงษ์ เคยถูกจับกุมในคดีฆ่า ส.ต.อ.พัฒน์ ธัญสม อายุ 33 ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองลำพูน เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2549 ด้วยการยิงที่ศีรษะ แล้วใช้มีดกรีดท้องเอาอวัยวะภายในออก จากนั้นจึงนำก้อนหินใส่แทนเพื่อถ่วงน้ำหนัก ก่อนจะนำศพผู้เสียชีวิตไปทิ้งในอ่างเก็บน้ำแม่สาร บ้านจำขี้มด หมู่ 2 ต.ศรีบัวบาน อ.เมือง จ.ลำพูน โดยมีสาเหตุจากการที่ผู้ตายมีความขัดแย้งกับนายสุรพงษ์ในเรื่องการค้าอาวุธ แต่ต่อมาถูกปล่อยตัวเนื่องจากครบระยะเวลาการฝากขัง ประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถทำสำนวนยื่นฟ้องได้ทัน
ทั้งนี้ ภายหลังจากถูกปล่อยตัวแล้ว นายสุรพงษ์ยังคงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าอาวุธ และไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่ง อีกทั้งล่าสุดได้ปิดกิจการร้านทำกรอบรูปบริเวณถนนเจริญราษฎร์ ในตัวเมืองลำพูนลง ส่วนอาวุธที่เตรียมนำมาขายในครั้งนี้นั้น นายสุรพงษ์ได้ลักลอบนำอาวุธดังกล่าวมาจาก จ.ขอนแก่น โดยมีการขนมาก่อนหน้านี้แล้วหนึ่งรอบในช่วงปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งอาวุธดังกล่าวเมื่อนำมาจำหน่ายให้กับผู้ซื้อในพื้นที่จะมีราคาอยู่ที่กระบอกละประมาณ 40,000 บาท
