xs
xsm
sm
md
lg

“จเรตำรวจ” ย้ำ ตร.วางตัวเป็นกลางศึกเลือกตั้งใหญ่-ลั่นพบทำผิด กม.เชือดเด็ดขาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ท.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาเป็นประธานเปิดการฝึกทดสอบยิงปืนประจำปี 2554 ของ สตช. ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3  ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา วันนี้ ( 22 มี.ค.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - สตช.เปิดฝึกทดสอบยิงปืนเสริมเขี้ยวเล็บให้กำลังพล ตร.ภาค 3 โคราช ด้านจเรตำรวจแห่งชาติ เผยยุค “ผบ.ตร.” มีจุดยืนชัดเจนให้ ตร.วางตัวเป็นกลางทางการเมืองในศึกเลือกตั้งใหญ่ ระบุมีการร้องเรียนพฤติกรรม ตร.เข้ามาทุกพื้นที่ ส่วนใหญ่อยู่ กทม.ย้ำ หากพบ ตร.ทำผิด กม.พร้อมเชือดขั้นเด็ดขาด

วันนี้ (22 มี.ค.) ที่ลานด้านหน้าโรงฝึกยุทธวิธี ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 ถ.สุรนารายณ์ ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกทดสอบยิงปืนประจำปี 2554 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยมีหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งกำลังพลเข้าร่วมทดสอบการยิงปืนจากทั่วประเทศกว่า 300 นาย ทั้งนี้ เพื่อให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

สำหรับการฝึกทดสอบยิงปืนประจำปี 2554 มีทั้งหมด 2 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทปืนยาว ซึ่งใช้อาวุธปืนยาว กระสุนปืนเล็กยาวขนาด 5.56 มม.แบบ M.16 หรือ H.K.33, ปืนลูกซองยาว ใช้ปืนลูกซองยาวประจำกาย กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 และ ประเภทปืนพก จัดทดสอบ 2 ระบบ คือ N.R.A และ L.P.T โดยใช้ อาวุธปืนพกลูกโม่ขนาด .38 นิ้ว และ .357 นิ้ว ลำกล้องยาวไม่เกิน 4 นิ้ว, อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม.และ .40 นิ้ว ซึ่งมีการทดสอบทั้งประเภททีมและบุคคล

พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ความสำคัญในการฝึกยิงปืนอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันปัญหาการก่ออาชญากรรมคนร้ายมักใช้อาวุธปืนในการประกอบเหตุ ตำรวจจึงต้องมีการฝึกฝนในการใช้อาวุธปืนเพื่อปฏิบัติในการระงับยับยั้งและปราบปราบผู้กระทำผิดตามกฎหมายที่กำหนดให้ โดยเฉพาะการป้องกันตัวไม่ให้เกิดการสูญเสียหรือเกิดการบาดเจ็บ ซึ่งอาวุธปืนก็เป็นอาวุธประจำกายของตำรวจที่ต้องได้รับการฝึกฝนเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ที่กรุงเทพฯ และทาง ผบ.ตร.ได้ระดมกำลังตำรวจจากทุกภาคไปใช้ในการรักษาความสงบเรียบร้อย เนื่องจากกำลังของตำรวจนครบาลไม่เพียงพอ เพื่อให้ความสงบเรียบร้อยเกิดขึ้น จึงทำให้ต้องเลื่อนการฝึกทดสอบยิงปืนออกมาจากเดิมกำหนดจัดขึ้นตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา

ต่อข้อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจวางตัวเป็นกลางทางการเมืองในช่วงที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งใหญ่ ส.ส. อีกไม่กี่เดือน นั้น พล.ต.อ.สถาพร กล่าวว่า เรื่องนี้ทาง ผบ.ตร.ได้กำชับมาโดยตลอดในการประชุมประจำเดือนกับทุกกองบัญชาการว่า ตำรวจต้องวางตัวเป็นกลางในทางการเมือง จะต้องไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรวมทั้งพรรคการเมืองต้องให้ความเป็นธรรม และเป็นกลางอย่างแท้จริงไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้กล่าวย้ำในเรื่องนี้เช่นกัน เพื่อให้สถานการณ์บ้านเมืองเราดีขึ้นเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และสมานฉันท์ด้วย

อย่างไรก็ตาม หากพบว่าข้าราชการตำรวจวางตัวไม่เป็นกลาง มีระเบียบปฏิบัติชัดเจนอยู่แล้ว ตั้งแต่มาตรการเบาไปหาหนัก เริ่มจากการให้ออกนอกพื้นที่ การตั้งกรรมการสอบสวน หรือหากทำความผิดตามกฎหมายอาญาก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาได้ หากผิดวินัยก็ดำเนินการทางวินัยทั้งร้ายแรงและไม่ร้ายแรง

ขอยืนยันว่า ในยุคนี้ ท่าน พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เป็น ผบ.ตร.มีจุดยืนชัดเจนในการให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติตัวในการวางตัวเป็นกลางทางการเมืองอย่างแท้จริง หากข้าราชการตำรวจคนใดมีญาติพี่น้องหรือคนในครอบครัวลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ก็สามารถยื่นความจำนงต่อผู้บังคับบัญชาขอย้ายตัวเองออกนอกพื้นที่ได้ เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องการวางตัวไม่เป็นกลาง และเพื่อความสบายใจ แต่หากนักการเมืองขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยก็พร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่เช่นกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับการร้องขอ” พล.ต.อ.สถาพร กล่าว

ส่วนกรณีที่ข้าราชการตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการกระทำผิดกฎหมายนั้น พล.ต.อ.สถาพร กล่าวว่า ผู้กระทำผิดต้องได้รับผิดรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เช่น กรณีที่ จ.อุบลราชธานี ที่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการโจรกรรมรถยนต์ ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาโดยให้ออกจากตำรวจไว้ก่อนและสืบสวนสอบสวนตามขบวนการของกฎหมาย

“ที่ผ่านมา มีการร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำผิดเข้ามาที่สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติมากพอสมควร ซึ่งได้มอบหมายผู้ใต้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นให้ตรวจสอบดูแล มีการกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างชัดเจนทุกลำดับชั้น ซึ่งเรามีสายงานจเรตำรวจในทุกระดับ เราจะใช้จเรในสายงานเครือข่ายเหล่านี้ตรวจสอบภาพลักษณ์ของตำรวจเพื่อให้มีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น ส่วนการร้องเรียนมีโดยทั่วทุกภาค แต่ส่วนใหญ่มักจะพบมากที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะการตั้งด่านตรวจ พฤติกรรมของตำรวจจราจร เป็นต้น” พล.ต.อ.สถาพร กล่าว
พล.ท.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ







กำลังโหลดความคิดเห็น