“ผู้บัญชาการทหารบก” โยนดีเอสไอสรุปผลช่างภาพยุ่นตาย โต้สื่อถามรอดครหาฆ่า ไล่ไปหาข้อเท็จจริงให้จบก่อนค่อยว่ากัน ด้าน ผบ.พล.ร.2 รอ.ยันไม่มีเจ้าหน้าที่ใช้อาก้าปราบแดงสมรภูมิคอกวัว ชี้มีแค่เอ็ม 16 กับปืนทาโวร์
วันนี้ (28 ก.พ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์ถึงผลสรุปอย่างไม่เป็นทางการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีนักข่าวญี่ปุ่นที่ถูกกระสุนอาวุธปืนอาก้าจนเสียชีวิตในเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารและกลุ่มคนเสื้อแดงที่สี่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 ที่ผ่านมาว่า หากดีเอสไอระบุอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น ตนจะทราบได้อย่างไร เพราะเป็นเรื่องของดีเอสไอ ซึ่งหน่วยทหารที่ใช้อาวุธปืนอาก้ามีใช้เฉพาะที่ชายแดน ในพื้นที่ กทม.ไม่มีใช้อยู่แล้ว เมื่อถามว่าหากผลสรุปว่าเป็นอาวุธปืนอาก้าสบายใจหรือไม่ เพราะทหารจะได้ไม่ถูกกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนถามว่า แล้วเรื่องนี้มันจบหรือยัง ยุติแล้วหรือยัง เมื่อเรื่องยังไม่จบก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย เพราะขณะนี้เองยังไม่จบ พูดกันไปพูดกันมา เมื่อเช้าก็มีคนออกมาโต้ตอบเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่ใช่อาวุธปืนอาก้า ดังนั้น ต้องไปหาข้อเท็จจริงให้จบเสียก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน ตอนนี้ไม่มีใครผิดใครถูก อย่างไรก็ตาม หน่วยทหารไม่จำเป็นต้องออกมาชี้แจง หากจะให้ชี้แจงก็เชิญมาเราพร้อมจะชี้แจงตามกฎหมาย ดังนั้นขณะนี้ต้องให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ด้าน พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผบ.กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) ในฐานะผู้คุมกำลังเข้าปฏิบัติการขอคืนพื้นที่บริเวณสี่แยกคอกวัว กล่าวว่า ในเหตุการณ์หน่วยทหารที่เข้าขอคืนพื้นที่จากผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่บริเวณสี่แยกคอกวัว ยืนยันว่าไม่มีการใช้อาวุธปืนอาก้าของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ทหารจาก พล.ร.2 รอ.ไม่มีอาวุธปืนอาก้า มีใช้แค่อาวุธปืนเอ็ม 16 เอ 2 เท่านั้น ที่เป็นอาวุธประจำกาย ส่วนกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ก็ใช้เฉพาะปืนทาโวร์เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า สำหรับกระสุนปืนขนาด 7.62 มม.ที่มีการระบุว่าเป็นกระสุนที่ทำให้ผู้สื่อข่าวญี่ปุ่นเสียชีวิตจากเหตุขอคืนพื้นที่บริเวณสี่แยกคอกวัวนั้น จากการตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธของกองทัพ พบว่า จะใช้ได้กับปืนเอเค-47 หรืออาก้า ที่มีประจำการในหน่วยทหารชายแดน โดยเฉพาะหน่วยทหารพรานบางหน่วย ปืนเซกาเซ่ และปืนกลจาน ที่จีนเคยให้เขมรแดงเคยใช้ในช่วงสงครามเย็น ซึ่งขณะนี้ยังมีแพร่หลายอยู่บริเวณชายแดนกัมพูชา ในขณะที่เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับข้อมูลปืนระบุว่า ปืนเล็กยาว 05 นาโต้ก็สามารถใช้กระสุนปืนขนาดดังกล่าวได้ โดยปืนรุ่นดังกล่าวจะใช้ในหน่วยปฏิบัติการพิเศษของตำรวจ เป็นต้น
ขณะที่จากการตรวจสอบข้อมูลจากกองทัพบก พบว่า นอกจากอาก้าที่มีประจำการในหน่วยทหารพรานแล้ว ยังมีการเบิกจ่ายไปใช้กับหน่วยปกติ ในปัจจุบันมีประจำการรวมทั้งหมด 2 หมื่นกระบอก ในส่วนของทหารพราน เป็นปืนในอัตราที่ยังใช้เป็นอาวุธประจำกายของทหารพรานบริเวณชายแดน ในขณะที่หน่วยปกติ จะถือเป็นปืนนอกอัตรา ซึ่งเบิกจ่ายไปเพื่อใช้ฝึกทหารเกณฑ์ หน่วยละ 5-10 กระบอก และกระสุนที่ใช้จะมีการจัดซื้อทุก 2 ปี ซึ่งจากข้อมูลพบว่าหน่วยทหารราบมีการเบิกจ่ายกระสุนเพื่อการฝึกทุกปี