เตือนแก๊งกรรโชกทรัพย์สร้างสถานการณ์รถเชี่ยวชน เรียกค่าเสียหายเกินจริง

กาฬสินธุ์ - แก๊งกรรโชกทรัพย์บนถนนหลวงบุกกาฬสินธุ์ ใช้อุบายสร้างเหตุโดนเฉี่ยวชนบนท้องถนนก่อนกรรโชกทรัพย์ ด้านตำรวจพื้นที่ระบุมีกรณีเดียวกันตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพกว่า 20 ราย

วันนี้ (7 ก.ค.) ที่ สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายเสถียรศักดิ์ มงคลสมพร อายุ 63 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าเรือ เลขที่ 104 ม.3 ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ได้เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อ พ.ต.ท.อนุวัตร แก้วจันทา รอง ผกก.สส.สภ.ยางตลาด กรณีเกิดอุบัติเหตุและถูกคู่กรณีเรียกร้องค่าเสียหายสูงเกินจริง แต่ตกลงกันไม่ได้ สุดท้ายนัดเจรจาที่ สภ.ยางตลาด แต่ชิ่งหนีไป

นายเสถียรศักดิ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6ก.ค.ที่ผ่านมาเวลา 14.30 น.ตนได้ขับรถยนต์กระบะสีน้ำตาล-แดง ทะเบียน นข 1485 กาฬสินธุ์ มาตามถนนถีนานนท์ (ยางตลาด-กาฬสินธุ์) เพื่อที่จะไปรับนักเรียนหลังเลิกเรียน พอขับมาถึงถนนบริเวณด้านหน้าโรงเรียนลำปาววิทยาคาร มีรถเก๋งสีบรอนซ์คันหนึ่ง ทะเบียน จ.นครราชสีมา จำหมายเลขไม่ได้ ขับช้าๆ ขวางอยู่ด้านหน้า ตนจึงขับเข้าเลนขวาเพื่อจะขับแซงขึ้นไป จู่ๆ ได้มีรถกระบะสีบรอนซ์ (จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้) ขับจี้มาทางด้านหลัง พร้อมบีบแตรไล่ขอทางเสียงดังยาว ตนจึงได้หักรถหลบออกเลนซ้าย ซึ่งเป็นจังหวะที่จะแซงรถเก๋งคันหน้าพอดี รถเก๋งคันนั้นกลับเร่งความเร็วพุ่งพรวดขึ้นมาชนที่บริเวณล้อหลังด้านซ้ายรถตน

โดยเจ้าของรถเก๋งทราบชื่อภายหลัง นายเทพบดินทร์ บุตรสีชา อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 8 ม.5 ต.น้ำแพร่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ อ้างว่าร่องรอยทั้งหมด เกิดจากการเฉี่ยวชน และได้เรียกร้องให้ตนชดใช้เป็นจำนวนเงิน 2 หมื่นบาท ซึ่งตนไม่ยอมจ่ายเพราะจำนวนเงินสูงเกินไป จึงได้ต่อรองราคาและลดลงเหลือที่ 8 พันบาท

แต่ถ้าจะให้ตนชดใช้ค่าเสียหายต้องไปเจรจากันที่ สภ.ยางตลาด ซึ่งเป็นเจ้าของท้องที่ แต่คู่กรณีไม่ยอม ยืนยันจะให้ตนจ่ายเงินตรงจุดที่เกิดเหตุท่าเดียว ซึ่งตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง อีกทั้งยังเชื่อว่ารูปการณ์ที่เกิดอุบัติเหตุ และร่องรอยของรถคู่กรณีที่ได้รับความเสียหายนั้น มันขัดกับความเป็นจริง น่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ เพื่อเรียกเงินมากกว่า

ด้าน พ.ต.ท.อนุวัตร แก้วจันทา รองผกก.สส.สภ.ยางตลาด กล่าวว่า กรณีดังกล่าว หากเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นธรรมดา คู่กรณีสามารถตกลงกันได้ หรือไม่อย่างนั้นก็เรียกบริษัทประกันภัยฯมาดำเนินการตามขั้นตอน แต่ในรายนี้ยังไม่ถือว่าเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ เนื่องจากยังไม่ได้มีการชดใช้ เพียงแต่คู่กรณีขอความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยข้อสรุปคือยอมความกันไป ไม่มีการชดใช้แต่อย่างใด

“ตามที่วิเคราะห์จากรูปการณ์แล้ว อาจเป็นไปได้ที่จะมีการสร้างสถานการณ์ โดยให้รถเก๋งเป็นตัวล่อ และให้รถกระบะเป็นตัวไล่รถของเหยื่อ เพื่อสร้างเหตุการณ์ให้เกิดการเฉี่ยวชนแล้วถือโอกาสเรียกรับความเสียหาย ส่วนว่าจะเป็นขบวนการหรือไม่อย่างไร จะได้ตรวจสอบต่อไป ในกรณีนี้เจ้าหน้าที่ได้บันทึกประจำวันและปรับคู่กรณีของนายเสถียรศักดิ์ โดยข้อหาสร้างสถานการณ์ ก่อนจะปล่อยตัวกลับไป”

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ในพื้นที่มีอุบัติเหตุกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณ 20 ครั้ง ซึ่งผู้เสียหายยอมชดใช้และไม่ได้แจ้งความ จึงขอเตือนให้ระมัดระวังโดยเฉพาะผู้หญิงหรือผู้สูงอายุ ที่อาจจะตกเป็นเหยื่อของแก๊งกรรโชกทรัพย์ได้ หรือหากเกิดกรณีดังกล่าว สามารถเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบทันที ก่อนที่จะสูญเงินไปให้กับแก๊งกรรโชกทรัพย์หรือขบวนการสร้างสถานการณ์เรียกเงินบนถนนดังกล่าว