นครบาลแถลงโชว์จับ “อาฉี” อดีตตำรวจ สน.ดุสิต ผู้ต้องหาแก๊งหมูบิน ร่วมกับพวกอ้างตัวเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติดบุกค้นบ้านเหยื่อกวาดทรัพย์เรียบ แถมบังคับกดเอทีเอ็มได้เงินไปอีกจำนวนมาก และขู่ยัดยาเรียกเงินค่าไถ่ตัวเหยื่อที่ถูกจับไปขังกรรโชกทรัพย์ ขณะที่ “ผู้การแต้ม” เผย กำลังเร่งตามจับพรรคพวกที่เป็น “จ.ส.ต.” มาดำเนินคดี หลังรวบตัวมาได้แล้ว 3 ราย
วันนี้ (27 มิ.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล 1 พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 แถลงการจับกุมนายสหภาพ หรือ อาฉี โพธิ์ขาว อายุ 38 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปราบปราม สน.ดุสิต ตามหมายจับที่ 784/2545 ผู้ต้องหาแก๊งหมูบิน หรือ แก๊งผู้กองแร๊ป ปล้นทรัพย์ ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2554 ผู้ต้องหา หรือฉายาว่า อาฉี อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต ได้ร่วมกับ ด.ต.ธัตเศรษฐ์ ฤกษ์จิตธนารักษ์ อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บก.น.1 ด.ต.ชาญชัย จงรักษ์ อดีตตำรวจสังกัด กก.สส.บก.น.1 และ จ.ส.ต.จงวุฒิ จางวาง อายุ 40 ปี อดีตตำรวจสังกัด สน.ดุสิต ได้แอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด บุกเข้าตรวจค้นบ้านพักของ น.ส.ภมรมาศ (ไม่ทราบนามสกุล) พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินมีสร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 สลึง 1 เส้น เงินสด จำนวน 6,000 บาท เงินยูโร จำนวน 200 ยูโร อีกทั้งยังบังคับให้ น.ส.ภมรมาศ กดเงินสดจากเอทีเอ็มไปอีก 53,000 บาท รวมทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 80,000 บาท หลังจากนั้น แก๊งดังกล่าวยังบังคับให้ น.ส.ภมรมาศ พาไปตรวจค้นบ้านพักของ นายสมพงษ์ ใบเจริญ พร้อมรื้อค้นเอาทรัพย์สิน ได้เงินสดประมาณ 60,000 บาท และทองรูปพรรณ หนัก 5 บาท 1 เส้น แล้วจับทั้งคู่ใส่กุญแจมือพาขึ้นรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีขาว ไม่ทราบทะเบียน พาขับออกไปแล้วโทรศัพท์ติดต่อมาที่แม่ของนายสมพงษ์ ให้โอนเงินสดจำนวน 200,000 บาท และได้ข่มขู่จะยัดยาบ้า 10 เม็ด แต่ได้มีการเจรจาต่อรองขอลดเงินเหลือจำนวน 30,000 บาท จึงโอนเงินให้ไป ต่อมาทางกลุ่มคนร้ายจึงปล่อยตัวนายสมพงษ์ลงย่านดินแดง และเมื่อกลับมาบ้าน นายสมพงษ์ และ น.ส.ภมรมาศ จึงเข้าแจ้งความที่ สน.ดอนเมือง ซึ่งได้ทำการสอบสวนจนกระทั่งออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสืบสวนจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 3 คน และยังคงหลบหนีอยู่อีก 1 คน คือ จ.ส.ต.จงวุฒิ จางวาง อดีตตำรวจสังกัด สน.ดุสิต
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวมีฉายาว่า “แก๊งหมูบิน” หรือ “แก๊งผู้กองแร๊ป” โดยมีอดีตนายตำรวจ ซึ่งถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้เป็นหัวหน้าแก๊ง โดยจะเลือกเอาเป้าหมายที่เคยมีประวัติพัวพันกับยาเสพติด ซึ่งเมื่อมีสายลับมาแจ้งให้ทราบถึงเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้ต้องหากับพวกก็จะรวมตัวกันออกไปจับกุม ก่อนกรรโชกเอาเงินมาแบ่งกัน เพื่อแลกกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งจะติดตามผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (27 มิ.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล 1 พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 แถลงการจับกุมนายสหภาพ หรือ อาฉี โพธิ์ขาว อายุ 38 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปราบปราม สน.ดุสิต ตามหมายจับที่ 784/2545 ผู้ต้องหาแก๊งหมูบิน หรือ แก๊งผู้กองแร๊ป ปล้นทรัพย์ ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2554 ผู้ต้องหา หรือฉายาว่า อาฉี อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต ได้ร่วมกับ ด.ต.ธัตเศรษฐ์ ฤกษ์จิตธนารักษ์ อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บก.น.1 ด.ต.ชาญชัย จงรักษ์ อดีตตำรวจสังกัด กก.สส.บก.น.1 และ จ.ส.ต.จงวุฒิ จางวาง อายุ 40 ปี อดีตตำรวจสังกัด สน.ดุสิต ได้แอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด บุกเข้าตรวจค้นบ้านพักของ น.ส.ภมรมาศ (ไม่ทราบนามสกุล) พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินมีสร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 สลึง 1 เส้น เงินสด จำนวน 6,000 บาท เงินยูโร จำนวน 200 ยูโร อีกทั้งยังบังคับให้ น.ส.ภมรมาศ กดเงินสดจากเอทีเอ็มไปอีก 53,000 บาท รวมทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 80,000 บาท หลังจากนั้น แก๊งดังกล่าวยังบังคับให้ น.ส.ภมรมาศ พาไปตรวจค้นบ้านพักของ นายสมพงษ์ ใบเจริญ พร้อมรื้อค้นเอาทรัพย์สิน ได้เงินสดประมาณ 60,000 บาท และทองรูปพรรณ หนัก 5 บาท 1 เส้น แล้วจับทั้งคู่ใส่กุญแจมือพาขึ้นรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีขาว ไม่ทราบทะเบียน พาขับออกไปแล้วโทรศัพท์ติดต่อมาที่แม่ของนายสมพงษ์ ให้โอนเงินสดจำนวน 200,000 บาท และได้ข่มขู่จะยัดยาบ้า 10 เม็ด แต่ได้มีการเจรจาต่อรองขอลดเงินเหลือจำนวน 30,000 บาท จึงโอนเงินให้ไป ต่อมาทางกลุ่มคนร้ายจึงปล่อยตัวนายสมพงษ์ลงย่านดินแดง และเมื่อกลับมาบ้าน นายสมพงษ์ และ น.ส.ภมรมาศ จึงเข้าแจ้งความที่ สน.ดอนเมือง ซึ่งได้ทำการสอบสวนจนกระทั่งออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสืบสวนจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 3 คน และยังคงหลบหนีอยู่อีก 1 คน คือ จ.ส.ต.จงวุฒิ จางวาง อดีตตำรวจสังกัด สน.ดุสิต
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวมีฉายาว่า “แก๊งหมูบิน” หรือ “แก๊งผู้กองแร๊ป” โดยมีอดีตนายตำรวจ ซึ่งถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้เป็นหัวหน้าแก๊ง โดยจะเลือกเอาเป้าหมายที่เคยมีประวัติพัวพันกับยาเสพติด ซึ่งเมื่อมีสายลับมาแจ้งให้ทราบถึงเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้ต้องหากับพวกก็จะรวมตัวกันออกไปจับกุม ก่อนกรรโชกเอาเงินมาแบ่งกัน เพื่อแลกกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งจะติดตามผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป
