xs
xsm
sm
md
lg

คุมฝากขัง “นายดาบ” อุ้มเหยื่อรีดเงิน-ค้านประกัน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

 ด.ต. ธัตเศรษฐ์ หรือแจ้ ฤกษ์จิตธนวงษ์ อายุ 40 ปี อดีต ผบ.หมู่ อก.บก.น.1 ผู้ต้องหาคดีร่วมกันปล้นทรัพย์
ตำรวจดอนเมือง ควบคุมตัว “ดาบตำรวจ” นอกรีตร่วมกับพวกอ้างเป็น ป.ป.ส.ปล้นทรัพย์-รีดเงินชาวบ้าน ฝากขังศาล 2 คดี พร้อมค้านประกัน หวั่นหลบหนี

วันนี้ ( 20 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ร.ต.ท.หญิง จารุวรรณ ราชูศรี พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ควบคุมตัว ด.ต. ธัตเศรษฐ์ หรือ แจ้ ฤกษ์จิตธนวงษ์ อายุ 40 ปี อดีต ผบ.หมู่ อก.บก.น.1 ผู้ต้องหาคดีร่วมกันปล้นทรัพย์ มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรก

โดยคำร้องฝากขังสรุปว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหากับพวกอีก 3 คน ประกอบด้วย ด.ต.ชาญชัย จงรักษ์ จ.ส.ต.สหภาพ โพธิ์ขาว และ จ.ส.ต.จงวุฒิ จางวาง ได้ร่วมกันเข้าไปในบ้านเลขที่ 5 ซอยเลียบคูนายกิม 29 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม.และควบคุมตัว นายสมพงษ์ หรือ แม็ก ใยเจริญ และญาติอีก 2 คน ผู้เสียหาย จากนั้นได้รื้อค้นนำทรัพย์สินหลายรายการ เช่น สร้อยข้อมือทองคำ แหวน เงินสด รวมมูลค่า 200,000 บาทเศษ ไปพร้อมกับควบคุมตัวนายสมพงษ์ขึ้นรถไปแล้วโทรศัพท์กลับมาที่บ้านให้ญาติโอน เงินจำนวน 30,000 บาท มาให้ แล้วจึงปล่อยตัวนายสมพงษ์กลับมาเข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์, กรรโชกทรัพย์ และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้เมื่อวันที่ 19 พ.ค.โดยในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาครบกำหนดแล้ว แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เพราะต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีก 7 ปาก และรอผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือ ฯลฯ จึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้ 12 วัน ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 พ.ค.นี้ โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกัน เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปข่มขู่พยาน

ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้พนักงานสอบสวนสน.ดอนเมืองยังได้ยื่นคำร้องขออำนาจศาลฝากขัง ด.ต.ธัตเศรษฐ์ อีก 1 คดี เป็นเวลา 12 วัน และคัดค้านการประกันตัว ทั้งนี้ ในกรณีเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ผู้ต้องหากับพวกได้อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.แล้วเข้าไปในบ้านของ น.ส.ภมรมาศ ภิญโญ ผู้เสียหาย เลขที่ 34/98 หมู่บ้านเวียงเทพ แขวงและเขตดอนเมือง กทม. และได้รื้อค้นเอาทรัพย์สินเป็นเงินยูโร โทรศัพท์มือถือ สร้อยคอทองคำ รวมมูลค่าประมาณ 30,000 บาท ไปจากนั้นบังคับพาผู้เสียหายไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม และให้บิดาผู้เสียหายโอนเงินมาให้อีกรวมทั้งสิ้น 53,000 บาท ก่อนหลบหนีไป
กำลังโหลดความคิดเห็น