เจ้าของโรงเรียนเสริมสวยคุณโจ โร่แจ้งตำรวจถูกขู่ฆ่า

ผู้บริหารโรงเรียนเสริมสวยคุณโจ แจ้งความตำรวจ สน.ท่าข้าม อ้างถูกชายอ้างตัวเป็นมือปืนโทรศัพท์ข่มขู่เอาชีวิตถึง 3 ครั้ง ตำรวจเชื่อฝีมือแก๊งกรรโชกทรัพย์

วันนี้ (14 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.นางกานต์รวี เอี่ยมชมนาค อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 6 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ผู้บริหารโรงเรียนเสริมสวยคุณโจ ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ชาญณรงค์ ศรีสืบ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ท่าข้าม ว่าถูกผู้ชายอ้างตัวเป็นมือปืนโทรศัพท์มาข่มขู่เอาชีวิตถึง 3 ครั้ง

นางกานต์รวีเปิดเผยว่า เมื่อประมาณเวลา 20.00 น.ของวันที่ 12 พ.ค.54 ได้มีผู้ชายซึ่งตนไม่ทราบว่าเป็นใครโทรศัพท์เข้ามาที่มือถือของตนพร้อมกับบอกว่า “อาจารย์ระวังตัวให้ดีนะ มีนายทหารคนหนึ่งนำเงินมาให้จำนวน 50,000 บาท เพื่อให้ฆ่าอาจารย์” ซึ่งตอนนั้นตนตกใจมากจึงถามกลับไปว่าแล้วคุณเป็นใคร เขาก็ตอบกลับมาว่าเป็นมือปืนรับจ้าง และไม่ได้อยากจะทำงานนี้เพราะแฟนกำลังท้อง อีกทั้งยังมีหลานที่กำลังเรียนที่โรงเรียนของอาจารย์ด้วยจึงได้โทร.มาเตือน ก่อนจะบอกให้ตนออกมาพบที่โรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส หรือโรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ เพื่อจะนำรูปถ่ายของผู้จ้างวานมาให้ตนดู

นางกานต์รวีกล่าวต่ออีกว่า เมื่อประมาณต้นปีก็มีโทรศัพท์ลักษณะนี้มาแล้ว 2 ครั้ง และยังบอกให้ตนระวังคนใกล้ตัวซึ่งตนไม่มีศัตรูที่ไหน และเรื่องการทำธุรกิจก็ไม่มีปัญหาอะไรกับใคร จึงไม่ทราบจริงๆ ว่าคนร้ายต้องการอะไร แต่เคยมีครั้งหนึ่งก่อนที่จะถูกโทร.มาขู่ฆ่านั้น ได้มีผู้ชายโทร.มาอ้างตัวเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ขอให้ตนบริจาคเงินช่วยเหลือเพื่อทำเสื้อนักกีฬา 50,000 บาท ตนจึงโอนไป แต่รู้จักคุ้นเคยกับผู้ว่าฯ คนนี้เป็นอย่างดี จึงให้เลขาฯ ลองโทรศัพท์ไปสอบถามกับทางผู้ว่าฯ อีกครั้งเกี่ยวกับเรื่องบริจาคเงิน จึงรู้ว่าถูกมิจฉาชีพหลอก ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ไม่ได้แจ้งความเอาเรื่องอะไร

“กระทั่งชายคนดังกล่าวที่โทรศัพท์มาอ้างตัวว่าเป็นผู้ว่าฯ ได้โทร.กลับมาหาอีก เพราะจำเสียงได้ จึงไม่ได้หลงเชื่อ ปกติอยู่ที่บ้านกับลูก 2 คน และตาอีก 1 คน ส่วนสามีก็เลิกรากันไปกว่า 10 ปีแล้ว รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยจึงตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวคนร้าย เพราะทุกคนต่างก็กลัวมากตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น ลูกก็ไม่มีสมาธิในการเรียน ดิฉันก็ไม่มีสามาธิในการทำงานด้วย” นางกานต์รวีกล่าว

เบื้องตนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวัน และสอบปากคำไว้เป็นหลักฐานแล้ว และคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นแก๊งขู่กรรโชกทรัพย์ ไม่น่าจะใช่มือปืนรับจ้างตามที่กล่าวอ้าง แต่คนร้ายต้องการให้เหยื่อกลัวและหลงกลโอนเงินหรือออกมาพบ ซึ่งจากนี้จะทำการสืบสวนและเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว