“สันธนะ” ร้อง ขอมอบตัวคดีกรรโชก แต่กลับจะถูกจับแทน

อดีตนายตำรวจชื่อดัง “พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์” เดินทางมาขอมอบตัวต่อ ผบ.ตร.ในคดีพยายามกรรโชกทรัพย์ ตามหมายจับ สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย ตั้งแต่ช่วงเช้า เพราะไม่ต้องการมอบตัวที่ สภ.เชียงแสน เกรงไม่ได้รับความปลอดภัย จนช่วงเย็น ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ ผบก.ส.3 เป็นผู้รับมอบตัว แต่ตกดึกกลับจะถูกตำรวจ สน.ปทุมวัน นำหมายจับมาจับกุมแล้วส่งตัวไปที่ สภ.เชียงแสน ยันจะรอพบ ผบ.ตร.เพื่อสอบถามความแน่ชัดในวันนี้


เมื่อเวลา 01.30 น.วันนี้ (29 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.ส.2 บก.ส. ถูกกักตัวอยู่ที่สำนักงานกองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจากเมื่อเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมาได้ติดต่อขอเข้าพบ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. เพื่อขอมอบตัวในคดีพยายามกรรโชกทรัพย์ ซึ่งถูกออกหมายจับในท้องที่ สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย จึงเดินทางไปตรวจสอบก็พบ พ.ต.ท.สันธนะ ถูกกักบริเวณอยู่จริง โดยมีลูกน้องคนสนิทประมาณ 4-5 คน เฝ้าอยู่ด้วยกันไม่ห่าง

พ.ต.ท.สันธนะกล่าวว่า หลังจากตัวเองถูกออกหมายจับในคดีก่อการร้าย ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ก็ได้เดินทางไปเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อหาแล้ว ไม่ได้มีเจตนาหลบหนี แต่หลังจากนั้นก็ได้ค้นข้อมูลเกี่ยวกับคดีตามสื่ออินเทอร์เน็ต ปรากฏว่า ในวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนตรวจสอบพบว่าถูกศาลจังหวัดเชียงรายออกหมาย เลขที่ 411/2553 ลงวันที่ 22 พ.ย.53 ในข้อหาร่วมกันพยายามกรรโชกผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จ.เชียงราย และภาพของตนก็ถูกโพสต์ขึ้นบนเว็บไซต์ของ สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย อยู่อีก 1 คดี

พ.ต.ท.สันธนะกล่าวต่อว่า เมื่อได้รับรู็แบบนี้ก็เกิดความสงสัยว่าเมื่อตนถูกออกหมายจับตั้งแต่เดือน 22 พ.ย.53 ที่่ผ่านมา แต่ทำไมตนจึงยังเป็นอิสระอยู่ ทั้งๆ ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็เดินทางไปต่างประเทศตลอด ไม่ได้ถูกจับกุมตัวแต่อย่างใด จึงรีบปรึกษาทนายความ และเดินทางมาขอเข้าพบ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอมอบตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พร้อมนำหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินมูลค่า 1.1 ล้านบาทมาขอประกันตัวด้วย โดยตนได้ยื่นเรื่องกับหัวหน้าสำนักงาน ผบ.ตร.เอาไว้ หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ก็ทำเรื่องถึง พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.เพื่อขอให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามรับทำหน้าที่ในคดีพยายามกรรโชกแทนพนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน เนื่องจากตนเห็นว่ามีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น

พ.ต.ท.สันธนะกล่าวอีกว่า หลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ เรื่องนี้กลับเงียบหายไป ในช่วงเวลาประมาณ 10.30 น.ของวันนี้จึงตัดสินใจเดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้ จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. พล.ต.อ.วิเชียรได้ลงนามคำสั่งแนบท้ายในหนังสือคำร้องให้ ผบก.ส.3 เป็นผู้ดำเนินการรับมอบตัว แต่หลังจากนั้นก็ทราบข่าวว่ากำลังจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน นำหมายจับคดีดังกล่าวมาจับกุมตน พร้อมทั้งจะส่งตัวไปที่ สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย ทั้งๆ ที่ตนมีเจตนาจะเข้ามามอบตัวสู้คดีและไม่ได้มีความคิดหลบหนีแต่อย่างใด ที่สำคัญตนมาขอมอบตัวต่อ ผบ.ตร.ก็เพราะไม่ต้องการเดินทางไปที่ สภ.เชียงแสน เนื่องจากเมื่อเข้าไปแล้วอาจจะไม่ได้รับความปลอดภัยแน่นอน

พ.ต.ท.สันธนะกล่าวต่อว่า ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะเดินทางมาถึงที่นี่้นั้น ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวันเดินทางมาแล้ว แต่ตนแจ้งความประสงค์ขอทำบันทึกการเข้ามอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อน เพราะเกรงว่าสำนวนคดีจะกลับกลายเป็นว่าตนถูกจับกุม โดยระหว่างที่กำลังเจรจากันอยู่นั้น ผู้สื่อข่าวที่ทราบเรื่องก็พากันมาตรวจสอบพอดี ทำให้ตำรวจ สน.ปทุมวันหายหน้าไปหมด

พ.ต.ท.สันธนะกล่าวด้วยว่า หากคืนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าก็จะรอพบ ผบ.ตร.อีกครั้งในช่วงเช้าวันนี้ เพื่อสอบถามให้แน่ชัดเกี่ยวกับประเด็นที่ได้ลงนามคำสั่งแนบท้ายในหนังสือว่า ตกลงเห็นควรดำเนินการอย่างไร เพราะตนเดินทางมามอบตัวเองจะมาจับกุมกันไม่ได้ ที่สำคัญตอนนี้ตนก็ไม่สามารถเดินทางออกจากรั้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปไหนได้อีกแล้ว เพราะอาจจะกลายเป็นว่าตนเป็นผู้ต้องหาที่พยายามหลบหนีหมายจับไปอีก