ศาลฎีกาพิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง ตร.โชคชัย อนาจารและกรรโชกทรัพย์ 50,000 บาท เด็กสาววัย 14 ปี ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย เหตุคำให้การผู้เสียหายมีพิรุธ ให้การขณะมึนเมา และไม่ยืนยันว่าเป็นคำพูดของตำรวจจริงหรือไม่
วันนี้ (16 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง ส.ต.อ.พิเชษฐ์ เนินกลาง ผบ.หมู่งานจราจร สน.โชคชัย (ขณะนั้น) เป็นจำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ อนาจาร และกรรโชกทรัพย์
ตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2543 สรุปว่า เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2542 เวลากลางคืน จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจประจำสถานีตำรวจนครบาลโชคชัยได้บังอาจ กรรโชกทรัพย์ ด.ญ.พลอย (นามสมมติ) ผู้เสียหาย อายุ 14 ปีเศษ เป็นเงิน 50,000 บาท หากไม่ยอมต้องไปร่วมหลับนอนกับจำเลยแทน จำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2545 ว่าคำให้การของผู้เสียหายมีพิรุธ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยตาม ป.วิ.อาญา ม.227 วรรค 2 พิพากษายกฟ้อง โจทก์ยื่นอุทธรณ์ โดยศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2548 พิพากษากลับว่า การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้ซึ่งทรัพย์สินแก่ตนตาม ม.148 ซึ่งมีโทษหนักที่สุด ลงโทษจำคุก 5 ปี ต่อมาจำเลยยื่นฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือโดยละเอียดรอบคอบแล้วเห็นว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายถูกกลุ่มวัยรุ่นพาไปมอมเหล้ามอมยาจนเกิดอาการมึนเมาและถูกพาไปข่มขืน กระทั่งหลบหนีออกมาขึ้นแท็กซี่แล้วมาพบกับจำเลยที่กำลังออกตรวจ พร้อมกับแจ้งว่าถูกข่มขืน จำเลยกับเพื่อนตำรวจจึงพาขึ้นรถกระบะสายตรวจ พาไปที่ สน.โชคชัย เมื่อพบกับนักข่าวผู้เสียหายแจ้งว่าถูกจำเลยใช้มือล้วงหน้าอกและอวัยวะเพศ และยัดยาบ้าเรียกเงิน 50,000 บาท หากไม่ยินยอมต้องไปร่วมหลับนอนนั้น แม้ผู้เสียหายจะให้การในขณะที่ไม่อยู่ในสภาวะกดดัน แต่ได้ให้การต่อพนักงานสอบสวนหลายครั้ง โดยไม่ได้ให้การถึงเหตุการณ์ที่ถูกกระทำอนาจาร และยังจำไม่ได้ว่าที่ให้ไปหลับนอนนั้นเป็นคำพูดของกลุ่มวัยรุ่นที่ข่มขืน หรือจำเลย เห็นว่าคำให้การของผู้เสียหายมีพิรุธ และขณะเกิดเหตุอยู่ในอาการมึนเมา อีกทั้งจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู่คดีมาตลอด จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย พิพากษากลับให้ยกฟ้อง