xs
xsm
sm
md
lg

เถ้าแก่โรงสีไทยยิ้มรับ “จำนำข้าว-พท.” ฟันธงอีก 7 วัน ขึ้น 10%-ก่อนชนเพดานที่ 40%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิจิตร - เถ้าแก่โรงสีข้าวไทยยิ้ม พร้อมส่งสัญญาณผู้บริโภคเตรียมรับมือข้าวสารขึ้นราคารายวันรับนโยบาย “จำนำข้าว” ของพรรคเพื่อไทย ฟันธงภายใน 7 วันจะปรับราคาขึ้นไม่น้อยกว่า 10% ก่อนไปชนเพดานที่ 40% ช่วงต้นเดือนหน้า

วันนี้ (4 ก.ค.) นายบรรจง ตั้งจิตรวัฒนากุล อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทยและเป็นเจ้าของกิจการโรงสีข้าว 3 แห่งใหญ่ของจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ประเทศไทยจะได้พรรคเพื่อไทยเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลและบริหารประเทศ ซึ่งมีนโยบายรับจำนำข้าวเปลือกให้ราคาตันละ 15,000 บาท ทำให้ขณะนี้กระแสตอบรับในเชิงบวกของผู้ประกอบการค้าข้าวเพื่อส่งออกและโรงสีในส่วนภูมิภาค จึงมั่นใจว่า ราคารับซื้อข้าวจากชาวนาจะขยับตัวสูงขึ้น

ดังนั้น จึงเป็นไปตามธรรมชาติของห่วงโซ่ธุรกิจ เมื่อราคาข้าวเปลือกจะต้องสูงขึ้นราคาข้าวสารก็จะต้องขยับราคาสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งคาดการณ์ว่าภายใน 7 วันนี้ ราคาข้าวสารบรรจุถุงข้าวสาร 5% ข้าวใหม่ที่ปกติวันนี้ขายอยู่ กก.ละ 14-15.50 บาท จะต้องขยับสูงขึ้นไปอีกอย่างน้อย 10% คือจะไปอยู่ที่ 18-19 บาท/กิโลกรัม และจะทยอยขึ้นราคาตามมาเรื่อยๆ จนไปติดเพดานราคาข้าวสารที่จะต้องขึ้นราคาสูงขึ้นอีกถึง 40% ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมของปีนี้ เพราะช่วงเดือนสิงหาคมข้าวนาปรังของ จ.พิจิตร และหลายจังหวัดในภาคกลางจะเริ่มเก็บเกี่ยว

ซึ่งรัฐบาลเคยบอกว่าเพียงแค่เริ่มรับตำแหน่งหรือเข้าทำงานโครงการต่างๆที่ประกาศไว้รวมถึงราคารับจำนำข้าวก็จะทำได้เลย เพราะฉะนั้นเมื่อข้าวนาปรังออก รัฐบาลก็ต้องทำตามที่ประกาศนโยบายไว้

สำหรับราคาข้าวสารวันนี้ “เฮียเซียะ” อุปนายกสามคมโรงสีข้าวไทยและเป็นเจ้าของกิจการโรงสีข้าว 3 แห่งใหญ่ของจังหวัดพิจิตร ให้ข้อมูลว่า ข้าวสารซื้อขายกันอยู่ที่ราคา 500 เหรียญ แต่ถ้าข้าวเปลือกตันละ 15,000 บาท ข้าวสารก็จะต้องขยับราคาไปจนถึง 800 เหรียญ (ส่งออก) ซึ่งคงจะเป็นราคาในช่วงข้าวนาปี ที่สำคัญรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะต้องเฟ้นหา รมต.พาณิชย์ และ ทีมรองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลเรื่องราคาข้าวให้ดี ต้องเป็นผู้มีคุณภาพรู้จริงทำเป็น มิเช่นนั้น อาจเป็นโครงการ “พับเพียบไทยแลนด์” ที่จะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะชาวนาตั้งความหวังเอาไว้มากกับโครงการรับจำนำข้าว

“เฮียเซียะ” ยืนยันแบบชอบอกชอบใจ ว่า โครงการรับจำข้าวเป็นการซื้อก่อนแล้วขายทีหลัง รัฐบาลอาจต้องจ่ายบ้าง แต่ก็ยังมีข้าวสารอยู่ในโกดัง แต่ที่ผ่านมาโครงการประกันรายได้เกษตรกร โรงสีต้องขายข้าวสารได้ก่อนจึงจะซื้อข้าวเปลือก เพราะรัฐบาลที่ผ่านมาทำตัวเป็นเจ้ามือใหญ่ยอมขาดทุนจ่ายเงินถึงมือชาวนาแต่ไม่มีข้าวสารเก็บไว้ในสต๊อกให้ตามทุน อีกทั้งการขึ้นทะเบียนชาวนาก็มีมากเกินความเป็นจริง จึงทำให้ต้องหมดเงินไปถึง 7 หมื่นล้านบาท แล้วก็ไม่เหลือข้าวสารไว้ให้ตามทุนคืนได้อีกด้วย แต่โครงการจำนำจะตรงกันข้าม

นอกจากนี้ เพียงแค่ผ่านการประกาศผลคะแนนการเลือกตั้งไปแค่วันเดียว “เฮียเซียะ” ก็เปิดเผยว่า มีคำสั่งซื้อข้าวสารมายังโรงสีในส่วนภูมิภาคเป็นออเดอร์แล้วหลายหมื่นตัน จึงทำให้มั่นใจว่าราคาข้าวเปลือกและราคาข้าวสารจะขึ้นราคาทุกวันนับจากวันนี้เป็นต้นไป

ด้าน นางพรรัตน์ บุญเล้า เจ้าของธุรกิจร้านขายข้าวสาร “เล่ากิมเฮง” ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณศูนย์การค้าพิจิตรพลาซ่า ก็เปิดเผยว่า ยังคงขายข้าวสารในราคาปกติ เพราะยังมีสต๊อกเก่าอยู่ แต่ก็ได้รับสัญญาณจากโรงสีมาเช่นกัน ว่า ข้าวจะขึ้นราคา ซึ่งก็จะต้องขายแบบขึ้นตามขึ้น ลงตามลง แต่ยอมรับว่าช่วงนี้ชาวบ้านเริ่มตื่นตัวซื้อข้าวสารกันคราวละมากๆ อีกทั้งแม่ค้าขายข้าวแกง หรือร้านอาหาร จากที่เคยซื้อครั้งละ 1 ถุง ก็มาซื้อข้าวสารที่บรรจุถุงกันคราวละมากขึ้น อาจเป็นเพราะรู้ถึงกระแสข้าวเปลือกจะขึ้นราคาแล้วข้าวสารก็จะขึ้นราคาตามไปด้วย

ซึ่งผู้บริโภคก็ต้องยอมรับกับภาระค่าใช้จ่าย-ค่าข้าวสาร ที่จะต้องกินทุกวันว่าขึ้นราคาอย่างแน่นอนด้วยเช่นกัน

กำลังโหลดความคิดเห็น