บุรีรัมย์ - ศึกชิง ส.ส.บุรีรัมย์ 9 เขต โค้งสุดท้ายเดือดปุด กลุ่มการเมืองงัดสารพัดวิชามารโคตรโกงเลือกตั้งซัดกันเละ แห่แลกแบงก์ 100, 500บาท กับธ.พาณิชย์หมดเกลี้ยง แฉซื้อเสียงเบื้องต้นหัวละ 200-300 บาท สะพัดกว่า 300 ล้าน ด้าน กกต.บุรีรัมย์ ขอกำลังตำรวจ จับทุจริตเลือกตั้ง
วันนี้ ( 1 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) จ.บุรีรัมย์ ทั้ง 9 เขต ใน 23 อำเภอ ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง 3 ก.ค.นี้ ล่าสุดเป็นไปด้วยความคึกคักโดยผู้สมัคร ส.ส.แต่ละคนได้ออกตระเวนพบปะประชาชนตามหมู่บ้าน
ตำบลในเขตเลือกตั้งของตนเอง แบบเคาะประตูบ้าน พร้อมทีมงาน และ รถโฆษณาหาเสียงตระเวนไปในเขตพื้นที่เลือกตั้งตลอดทั้งวัน
โดยเฉพาะพื้นที่มีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรงระหว่างผู้สมัคร ส.ส. และถูกจับตาเป็นพื้นที่แดงเดือด คือ เขต 2, เขต 5, เขต 6 และ เขต 8 ซึ่งมักจะเกิดความรุนแรง มีการออกทำลายป้ายหาเสียงของผู้สมัคร และบางพื้นที่ยังมีการข่มขู่หัวคะแนนของผู้สมัครฝ่ายตรงข้าม
ส่วนการซื้อเสียงนั้น รายงานข่าวแจ้งว่า มีกระแสข่าวการทุ่มเงินซื้อเสียงในหลายพื้นที่ โดยใช้แกนนำเป็นหัวคะแนนในหมู่บ้านควบคุมการจ่าย สัดส่วน 1 ต่อ 5 และ 1 ต่อ 10 แล้วแต่หมู่บ้านเล็กใหญ่ เบื้องต้นจ่าย หัวละ 200-300 บาท ส่วนแกนนำได้ 800-1,000 บาท
อีกทั้งมีการทุ่มเงินซื้อเสียงแบบเครือญาติ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยากที่จะจับมือใครดมได้ โดยใช้วิธีการให้ญาติของผู้สมัครเป็นผู้ใช้เงินในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ หรืองานมงคลอื่นๆ ซึ่งผู้สมัคร ส.ส. จะไปร่วมงานได้ไม่สามารถใส่ซองได้ แต่ผู้สมัครบางคนให้ญาติเป็นผู้นำเงินใส่ซองไปช่วยเหลืองานโดยไม่ระบุชื่อหน้าซอง เพราะกลัวถูกร้องเรียนและ กกต.จับตามองใกล้ชิด รวมทั้งมีการขนคนที่มีสิทธิเลือกตั้งไปจ่ายเงินซื้อเสียงนอกเขตตำบล อำเภอด้วย
แหล่งข่าวจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ได้มีการแลกเปลี่ยนเงินที่ธนาคารพาณิชย์ หลายแห่งในจังหวัดตลอดทั้งวัน โดยเจาะจงขอแลกเฉพาะธนบัตรฉบับละ 100 , 500 มียอดการแลกเงินตั้งแต่หลักแสนบาทขึ้นไป ทำให้ธนาคารพาณิชย์บางแห่ง ไม่มีเงินให้แลก ส่งผลให้มีกระแสเงินสะพัดในสนามเลือกตั้ง ส.ส.บุรีรัมย์ช่วงนี้ไม่ต่ำกว่า 200 -300 ล้านบาท
ด้าน ว่าที่ ร.ต.ทวี ชุนเกาะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง(ผอ.กต.)ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า
ขณะนี้มีเรื่องเรียนเข้ามายัง กกต.แล้ว หลายเรื่อง ทั้งเกี่ยวกับการใส่ร้ายป้ายสี ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ทั้งจ่ายเงินซื้อเสียง ในส่วนของการควบคุมดูแลการทุจริตเลือกตั้งในครั้งนี้ นอกจากจะใช้กำลังตำรวจประจำหน่วยๆ ละ 2 นายแล้วยังได้ประสานกำลังตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.)เข้ามาเป็นชุดป้องปราบเคลื่อนที่เร็ว เพื่อตรวจสอบการทุจริตการเลือกตั้ง ส.ส.ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์
“ชุดป้องปราบดังกล่าวจะเข้าไปฝังตัวหาข่าวในพื้นที่ก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าการเลือกตั้ง ส.ส.บุรีรัมย์ ทั้ง 9 เขต จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย”ว่าที่ร.ต.ทวี กล่าว