เชียงราย - ใกล้วันเข้าคูหาเลือกตั้งเชียงรายยิ่งแข่งเดือด พบ 2 พรรคใหญ่ “ตกเขียว” คะแนนกันหนัก เผย บางพรรคจ่ายก่อน 300 บาท/หัว ที่เหลือรอรับก่อน 3 กรกฎาฯ ขณะที่พรรคใหญ่กระแสดี จ้างรถแห่มีพิรุธ ให้ราคาแพงลิ่ว
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า การหาเสียงก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เข้มข้นขึ้นทุกขณะ โดยเฉพาะการใช้กลยุทธ์ใต้ดินของผู้สมัครหลายคน ในเขตเลือกตั้งที่ 1 มีกลุ่มการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ ซึ่งสังกัดพรรคการเมืองชื่อดัง ได้ตระเวนพาทีมงานเครือญาติออกพบปะผู้นำชุมชนในหลายตำบล หวังกุมฐานเสียงให้ได้ โดยมีรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้จัดประชุมผู้นำชุมชนในเขต ต.แม่กรณ์ อ.เมือง
ครั้งนั้นมีการนัดหมายให้คนระดับผู้นำท้องถิ่นจากทั้งหมด 5 หมู่บ้าน ไปพบปะและมีการแจกจ่ายเงินซื้อเสียงล่วงหน้าเพื่อจับจองคะแนน หรือตกเขียวเอาไว้ล่วงหน้า โดยมีการแจกกันอย่างเอิกเกริก ขณะที่ยอดเงินที่มีการมอบให้กับผู้นำเพื่อนำไปแจกกับประชาชนในพื้นที่ยังคงระดับอยู่ที่หัวละประมาณ 300 บาท ส่วนที่เหลือให้รอไปจนถึงก่อนวันเลือกตั้งจริงที่ 3 ก.ค.จึงจะมีการแจกก้อนโตเพื่อส่งท้ายให้เลือกตั้งคนของตนต่อไป
และช่วงที่กลุ่มการเมืองท้องถิ่นกลุ่มใหญ่นี้ออกดำเนินการดังกล่าว ฝ่ายตรงกันข้ามก็มีการเคลื่อนไหวเชิงลึกเช่นกัน โดยมีการติดต่อเครือข่ายหัวคะแนนคนเดิมเอาไว้ให้เหนียวแน่น และหากใครถูกดูดให้แยกออกไป เพราะอำนาจทางการเมืองก็นัดหมายให้คอยเป็นหูเป็นตาแจ้งข่าวสารที่สำคัญกลับไปให้กับกลุ่มเดิม ขณะที่การซื้อเสียงแบบเดิมๆ ของกลุ่มนี้ทำได้ยากเพราะไม่มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ ทำให้ท่าทีโดยภาพรวมยังคงมีความนิ่ง เพื่อรอดูฝ่ายตรงกันข้ามและพยายามโหมกระแสความนิยมในตัวนายใหญ่
แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่า การว่าจ้างคนออกไปหาเสียง เช่น แห่รถ ติดป้าย ฯลฯ กลับจ่ายกันในราคาแพงกว่าปกติ แต่ลงรายการว่าจ้างตามราคาปกติ เพื่อไม่ให้เกิดค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนการซื้อเสียงเพื่อแข่งกับกลุ่มแรกในครั้งนี้ เน้นให้แกนนำที่อยู่ฝ่ายตน หรือบุคคลที่รับเป็นหัวคะแนนสองฝ่าย เป็นตัวแทนในการรวบรวมผู้จะเลือกตั้งและจ่ายเป็นก้อนใหญ่เพื่อให้ไปรับผิดชอบเอง หลีกเลี่ยงการแจกเงินกันเป็นรายย่อยซึ่งเสี่ยงต่อการถูกตรวจจับ
ด้าน พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวในการเดินทางไปปฏิบัติราชการที่ จ.เชียงราย ว่า การหาเสียงเลือกตั้งในเขตรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 3 ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติและสามารถดูแลได้ แม้จะมีการนำเสนอข่าวแยกเป็นกลุ่มคนสีต่างๆ แต่ก็หาเสียงในขอบเขตที่กำหนด โดยเฉพาะด้านความรุนแรง เท่าที่ทราบทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ดีทั้งในตำรวจภูธรภาค 5 และ 6 ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของทหารกองทัพภาคที่ 3
พล.ท.วรรณทิพย์ กล่าวอีกว่า แต่ในอนาคตหากมีความจำเป็นทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องการความช่วยเหลือจากฝ่ายทหารก็สามารถร้องขอกำลังได้ โดยฝ่ายทหารพร้อมจะให้การช่วยเหลือตามขีดความสามารถอย่างเต็มที่