จันทบุรี- ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งร่วมกับภาคีเครือข่ายประชาชนและชาวประมงพื้นบ้าน วางแนวป้องกัน หลังพบมีการลักลอบทำประมงน้ำตื้น ส่งผลทำให้ฝูงพะยูนลดน้อยลงอย่างน่าวิตก
วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมจุลมณี โรงแรม เคพีแกรนด์ จันทบุรี ภาคีเครือข่ายชาวบ้านและกลุ่มผู้ทำประมงพื้นบ้านแนวชายฝั่งทะเล จ.จันทบุรี จำนวนกว่า 150 คน ร่วมกับ ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 จ.ระยอง จัดการประชุมสรุปผลการดำเนินงาน บริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ระยอง ตามกรอบภารกิจของ ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในแนวทางการดำเนินกิจกรรมไตรมาสที่ 4 และวางกรอบแนวทางการดำเนินกิจกรรมในปี 2555 พร้อมเดินหน้าโครงการ การเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนชายฝั่งในเวียดนาม กัมพูชา และไทย
การประชุมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการระดมสรรพกำลังสมอง สภาพปัญหา และความต้องการของประชาชน ในการจัดทำพื้นที่อนุรักษ์ทางทะเล ภายหลังจากที่ผ่านมา ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 จ.ระยอง ได้รับเรื่องร้องเรียนการลักลอบทำประมงน้ำตื้น และได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ทำการจับกุมผู้ลักลอบได้จำนวนหลายราย พร้อมของกลางอีกจำนวนมาก
ด้าน นายประหยัด โยธะกา หัวหน้ากลุ่มงานทรัพยากรธรรมชาติ ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 1 จ.ระยอง เปิดเผยว่า จากการดำเนินงานร่วมกับ ภาคีเครือข่ายชาวบ้านและกลุ่มผู้ทำประมงพื้นบ้านแนวชายฝั่งทะเล จ.จันทบุรี ที่ผ่านมา ปัญหาการลักลอบทำประมงน้ำตื้น ได้สร้างปัญหาความเดือดร้อนให้กับกลุ่มชาวบ้านและชาวประมงชายฝั่งในพื้นที่ ทั้งด้านความเสียหายทางทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งทำกินและการลดจำนวนลงของพะยูน ที่เข้าขั้นวิกฤต
ล่าสุด ได้ทำการจับกุมผู้ลักลอบทำประมงน้ำตื้นจากพื้นที่พังราด รอยต่อ จ.จันทบุรีและ จ.ระยอง เข้ามาทำประมงน้ำตื้นในพื้นที่ของ จ.จันทบุรี และได้ทำการลากพะยูน เพื่อนำไปขายให้กับกลุ่มที่นิยมบริโภค หลังการจับกุมยังพบกลุ่มผู้มีอิทธิพลอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคงภายใน และลูกเจ้าของผู้ประกอบการฟาร์มกุ้ง ใช้อำนาจบาดใหญ่ กดดันให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวผู้กระทำผิด อ้างว่าผู้ลักลอบทำกินในพื้นที่ของตัวเองอย่างถูกต้อง
นายประหยัด กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามจากปัญหาที่เกิดขึ้น ทางศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงต้องร่วมกับ ภาคีเครือข่ายประชาชนและชาวประมงพื้นบ้าน เดินหน้าวางแนวทางบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อย่างเร่งด่วน เพื่อกำหนดทิศทางการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง ตลอดจนสัตว์น้ำทะเลหายาก อย่างพะยูน ที่ลดจำนวนลงจากการทำประมงและการล่าเพื่อธุรกิจ ให้ยั่งยืนในระยาวต่อไป
วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมจุลมณี โรงแรม เคพีแกรนด์ จันทบุรี ภาคีเครือข่ายชาวบ้านและกลุ่มผู้ทำประมงพื้นบ้านแนวชายฝั่งทะเล จ.จันทบุรี จำนวนกว่า 150 คน ร่วมกับ ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 จ.ระยอง จัดการประชุมสรุปผลการดำเนินงาน บริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ระยอง ตามกรอบภารกิจของ ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในแนวทางการดำเนินกิจกรรมไตรมาสที่ 4 และวางกรอบแนวทางการดำเนินกิจกรรมในปี 2555 พร้อมเดินหน้าโครงการ การเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนชายฝั่งในเวียดนาม กัมพูชา และไทย
การประชุมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการระดมสรรพกำลังสมอง สภาพปัญหา และความต้องการของประชาชน ในการจัดทำพื้นที่อนุรักษ์ทางทะเล ภายหลังจากที่ผ่านมา ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 จ.ระยอง ได้รับเรื่องร้องเรียนการลักลอบทำประมงน้ำตื้น และได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ทำการจับกุมผู้ลักลอบได้จำนวนหลายราย พร้อมของกลางอีกจำนวนมาก
ด้าน นายประหยัด โยธะกา หัวหน้ากลุ่มงานทรัพยากรธรรมชาติ ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 1 จ.ระยอง เปิดเผยว่า จากการดำเนินงานร่วมกับ ภาคีเครือข่ายชาวบ้านและกลุ่มผู้ทำประมงพื้นบ้านแนวชายฝั่งทะเล จ.จันทบุรี ที่ผ่านมา ปัญหาการลักลอบทำประมงน้ำตื้น ได้สร้างปัญหาความเดือดร้อนให้กับกลุ่มชาวบ้านและชาวประมงชายฝั่งในพื้นที่ ทั้งด้านความเสียหายทางทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งทำกินและการลดจำนวนลงของพะยูน ที่เข้าขั้นวิกฤต
ล่าสุด ได้ทำการจับกุมผู้ลักลอบทำประมงน้ำตื้นจากพื้นที่พังราด รอยต่อ จ.จันทบุรีและ จ.ระยอง เข้ามาทำประมงน้ำตื้นในพื้นที่ของ จ.จันทบุรี และได้ทำการลากพะยูน เพื่อนำไปขายให้กับกลุ่มที่นิยมบริโภค หลังการจับกุมยังพบกลุ่มผู้มีอิทธิพลอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคงภายใน และลูกเจ้าของผู้ประกอบการฟาร์มกุ้ง ใช้อำนาจบาดใหญ่ กดดันให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวผู้กระทำผิด อ้างว่าผู้ลักลอบทำกินในพื้นที่ของตัวเองอย่างถูกต้อง
นายประหยัด กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามจากปัญหาที่เกิดขึ้น ทางศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงต้องร่วมกับ ภาคีเครือข่ายประชาชนและชาวประมงพื้นบ้าน เดินหน้าวางแนวทางบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อย่างเร่งด่วน เพื่อกำหนดทิศทางการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง ตลอดจนสัตว์น้ำทะเลหายาก อย่างพะยูน ที่ลดจำนวนลงจากการทำประมงและการล่าเพื่อธุรกิจ ให้ยั่งยืนในระยาวต่อไป
