อุบลราชธานี
เข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งทั่วไป 2554 มีหลายสำนักทำโพลออกมาให้ “เพื่อไทย”นำโด่ง “ประชาธิปัตย์”แบบขาดลอย เพราะ 2 ปีประชาชนอึดอัดกับกระบวนท่าการแก้ปัญหาของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” และพลพรรคที่เอาแต่เล่นการเมือง ไม่แก้ปัญหาตามที่ชาวบ้านคาดหวังไว้ เหมือนเมื่อครั้งนายชวน หลีกภัย กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ในยุคที่ไทยประสบปัญหา “ต้มยำกุ้ง” จนเศรษฐกิจพังทลาย เศรษฐีกลายเป็นยาจกในชั่วข้ามคืน
แต่ใน 2 สนามของอีสาน คือ จังหวัด อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ จนถึงขณะนี้ พบว่า ผู้สมัครของ“ประชาธิปัตย์” ยังน่าจะได้ครอบครองที่นั่งแบบไม่เหนื่อยมากนัก
สำหรับ การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมี 11 เขตเลือกตั้ง เป็นการชิงชัยระหว่าง 2 พรรคการเมืองใหญ่คือ พรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ กับ 2 พรรคการเมืองขนาดกลางคือ ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน และชาติไทยพัฒนา
เขตเลือกตั้งที่ 1 เพื่อไทย “วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์” ยังนำโด่ง โดยมี “วิทวัส พันธ์นิกุล” ประชาธิปัตย์จี้ตามมาติดๆ หวังโค่นแชมป์ตระกูลกัลป์ตินันท์ให้ได้ แม้เพื่อไทยยังนำ แต่ก็วางใจไม่ได้จนถึงวันสุดท้ายของการลงคะแนน
เขต 2 ประชาธิปัตย์ “ศุภชัย ศรีหล้า” ระยะหลังกระแสเริ่มแผ่ว จากผลโพลสร้างภาพเขย่าพรรค แต่ผลงานที่สร้างไว้ตลอด 3 ปี ก็พอช่วยให้พยุงตัวโผล่คอขึ้นมาพ้นน้ำได้ในระดับปริ่มๆ ส่วนเพื่อไทย “สมบัติ รัตโน” แชมป์เก่า ที่พยายามโหนกระแสเสื้อแดงและพรรคพาเข้าเส้นชัย วินาทีนี้ยังเป็นรองอยู่หน่อยๆ
เขต 3 ประชาธิปัตย์ “วุฒิพงษ์ นามบุตร” มีคนอุ้มดี ทำให้คะแนนยังดีกว่าเพื่อไทย “ณรงค์ชัย วีระกุล” ที่มีตัวช่วยจากฐานผู้สมัครเก่า “โกวิทย์ ธรรมานุชิต” บวกผลงานสมัยเป็นรองนายก อบจ.
เขต 4 “สุพล ฟองงาม” เพื่อไทย คู่ประกบเป็นมวยห่างชั้น แถมมีทีมงานดี ทำให้นอนมาแบบม้วนเดียวจบ
เขต 5 “สุจิตรา ผาลีพัฒน์” ชาติไทยพัฒนา ถูกจับตาจากหัวหน้าพรรคให้เป็นหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ในภาคอีสาน วันนี้ คะแนนนำห่าง “สุทธิชัย จรูญเนตร” เพื่อไทย ที่หวังใช้บารมีพ่อตา “อดิศักดิ์ โภคกุลกานนท์” อดีต ส.ส.หลายสมัยช่วยดัน แต่ฤทธิ์ของอิสตรีช่างแรงเหลือกำลัง ทั้งยุทธวิธีหาเสียงและคะแนนความสงสารที่ชาวบ้านยังเทให้ไม่หยุด
เขต 6 ยกต้นชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน “อุดร ทองประเสริฐ” มีอาการแผ่ว เพราะมั่นใจฐานเสียง ปล่อยให้ “วีระ รูปคม” ประชาธิปัตย์ รูปคมทำแต้มไปล่วงหน้า แถมถูกเจาะยางซ้ำจากเพื่อไทย ซึ่งส่ง “พิสิษฐ์ สันตะพันธ์” คนกันเองในครอบครัวหวังช่วงชิงคะแนนส้มหล่น ทำให้ต้องรีบกลับลำเร่งเครื่องทิ้งระยะห่างคู่แข่งไว้เพื่อความชัวร์ในช่วงท้ายเกมแล้ว
เขต 7 เพื่อไทย “ชูวิทย์ (กุ่ย) พิทักษ์พรพัลลภ” รายนี้ มีปากเป็นเอก มีลีลาเร้าใจแฟนเพลง คะแนนเลยเทมาเหมือนห่าฝน ทำเอา “โกมินทร์ พิมพ์จันทร์” ประชาธิปัตย์ ที่ดีตอนต้นไล่ไม่ทัน เพราะต้องทำศึกถึงสองด้าน เพราะ “วิทยา จันทวีศิริรัตน์” ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ก็รอเสียบ ตาอยู่อย่างเฮียชูวิทย์ (กุ่ย) เลยได้ทีเอาปลาไปกินทั้งตัว
เขต 8 ยกแรกการเมืองท้องถิ่นที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับ “อิสสระ สมชัย” พร้อมใจทุ่มคะแนนเข้าช่วย “บุญยังมั่น โสภาสาย” เพื่อไทย หวังล้างตาลบรอยแค้นการเมืองระดับเทศบาล แต่แพ้ลูกขยันบวกพร้อมตัวช่วยจากสามเหลี่ยมทองคำ “บุณญ์ธิดา สมชัย”ผู้สมัครจากประชาธิปัตย์ บุตรีหัวแก้วหัวแหวนของ “อิสสระ สมชัย” จึงลอยลำ ส่วน “เสี่ยยัง” ที่คราวนี้ เพิ่มอักษรทั้งตัวหน้าและตัวหลังเป็นบุญยังมั่น ต้องรอสมัยหน้าค่อยล้างตากันใหม่อีกครั้ง
เขต 9 ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน “สุชาติ ตันติวณิชชานนท์” มาแบบไร้แรงเสียดสี ม้วนเดียวจบ
เขต 10 เป็นเขตที่มันที่สุด ผลัดกันรุกผลัดกันรับระหว่างผู้สมัคร 3 พรรค คือ ชาติไทยพัฒนา “อุดร จินตะเวช” เจ้าของพื้นที่ ยกต้นคาดเดาเป็นการทำเกม “เสือซ่อนเล็บ” แต่ถึงวินาทีนี้ แผ่วจนใจหาย ทำให้ “สมคิด เชื้อคง” เพื่อไทย มีน้ำมีนวลใกล้สภาหินอ่อนเข้าทุกที ถ้าไม่ติด “ประจักษ์ แสงคำ” ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ที่ทำตัวเป็นเสือซุ่มรอตะปบ เวทีนี้ใครแผ่วปลาย ถูกหามลงมาเป่าน้ำแน่นอน
สุดท้ายเขต 11 ชาติไทยพัฒนา “ตุ่น จินตะเวช” ที่กระแสพลังหนุ่ม ทั้งจากประชาธิปัตย์ “เอกชัย ทรงอำนาจเจริญ” และเพื่อไทย “ศราวุธ พิริยะกิจไพบูลย์” ท่าจะสู้ไม่ไหว เพราะ “ตุ่น” ตัวนี้ พกความเก๋าเกมและเป็นเสือซ่อนเล็บตัวจริง ถ้า “ศราวุธ” เพื่อไทย อยากเข้าสภาเหมือนบิดา ต้องเหยียบคันเร่งให้มันแรงกว่านี้ ก็พอมีโอกาสได้ลุ้น
ส่วน จ.อำนาจเจริญ ทั้ง 2 เขต ผู้สมัครเพื่อไทยอาศัยเพียงกระแสพรรค คงไปได้ไม่ไกล เพราะ “ไพศาล จันทวารา” ประชาธิปัตย์ เขต 1 ทิ้งดิ่งไปหลายช่วงตัว ทำเอา “สมหญิง บัวบุตร” เพื่อไทยได้เป็นแค่ว่าที่ ส่วน “วิเชียร อุดมศักดิ์” เจ้าของพื้นที่จากภูมิใจไทย ก็ได้แต่มองตาปริบๆ เพราะไม่มีอะไรมาแบกน้ำหนักคู่ต่อสู้
ขณะที่เขต 2 ป๋า “สุทัศน์ เงินหมื่น” สั่งลูกชายหัวแก้วหัวแหวน “อภิวัฒน์ เงินหมื่น” ประชาธิปัตย์ ลุยเดินหน้า ถอยหลังเป็นหกล้ม ทำให้คู่แข่งจากเพื่อไทย “ชัยศรี กีฬา” ป่านนี้ ยังหามุมกลับบ้านไม่เจอ!
ที่ว่ากันว่า สนามภาคอีสานเป็นเขตของ” เพื่อไทย” วันนี้ อะไรก็ไม่แน่ไม่นอน หลายสนามยิ่งใกล้วันลงคะแนนเลือกตั้ง พบว่า หลายพื้นที่มีโอกาสเสียเก้าอี้ แบบคาดไม่ถึงทีเดียว