อุบลราชธานี-พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ปาฐกถาซัดนักการเมืองและชนชั้นปกครอง รวบอำนาจ ทำให้การแก้ปัญหาให้คนในประเทศไม่คืบหน้า แม้ได้รับพระราชทานพระราชอำนาจจากพระมหากษัตริย์มากว่า 70 ปี ระบุ การเลือกตั้งครั้งนี้ ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในชาติ พร้อมตำหนิ “อภิสิทธิ์” เดินนโยบายต่างประเทศผิดพลาด ทำให้รัฐบาลทหารพม่าไม่พอใจ และมีปัญหาสู้รบกับกัมพูชา ปัดไม่รู้สาเหตุถ้าพรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมาก แต่ตั้งรัฐบาลไม่ได้
วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมบุษยรัตน์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคความหวังใหม่ ปาฐกถาหัวข้อ “ทางออกแก้วิกฤตการณ์การเมืองไทยอย่างยั่งยืน” โดยมีนักศึกษา นักวิชาการ และประชาชนทั่วไปร่วมรับฟังกว่า 500 คน
พล.อ.ชวลิต เล่าถึงวิวัฒนาการทางการเมืองไทยในระยะ 70 ปีทีผ่านมา หลังได้รับพระราชทานอำนาจมาจากพระมหากษัตริย์ เพื่อมามอบให้กับประชาชนทุกคน แต่ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันอำนาจยังไม่ตกลงมาถึงมือของประชาชน ยังคงอยู่ในกลุ่มคณะบุคคลที่เป็นผู้ปกครอง และนักการเมือง นำอำนาจที่ได้รับจากพระมหากษัตริย์มาใช้กับประชาชน ทำให้ประชาชนไม่มีอิสรภาพ เข้าไม่ถึงความยุติธรรม รวมทั้งทรัพยากรทางธรรมชาติ ทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคม เพราะเกิดช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยที่อยู่ในกลุ่มคนชั้นปกครอง และปัจจุบันช่องว่างดังกล่าวยิ่งทิ้งระยะห่างกันมากขึ้นทุกวัน
“ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ใช่การแก้ปัญหาให้กับคนในประเทศชาติ ตราบใดที่ประชาชนยังเข้าไม่ถึงอำนาจ ความขัดแย้งในสังคมยังคงมีต่อไป เช่นเดียวกับความขัดแย้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งตนเคยเสนอให้ตั้งเป็นมหานครรัฐปัตตานี เพื่อให้นำกฎหมายอิสลามในบางข้อมาใช้บังคับได้ใน 3 จังหวัด แต่ยังคงอยู่ภายใต้กฎข้อบังคับของกฎหมายหลักของประเทศไทย”
พล.อ.ชวลิต ยังกล่าวถึงช่วงที่เข้าไปมีบทบาทในพรรคเพื่อไทย เพราะกลุ่มคนเสื้อแดงเติบโตขึ้นทุกวัน เกรงเกิดความรุนแรงระหว่างคนในชาติด้วยกัน จึงเสนอตัวเข้าไปแก้ปัญหานี้ เมื่อทำงานสำเร็จ จึงถอนตัวออกมาทำงานให้กับประเทศชาติในด้านอื่นต่อไป เพราะยังมีความเป็นห่วงประเทศชาติ
พล.อ.ชวลิต ยังตำหนิการดำเนินนโยบายต่างประเทศกับประเทศเพื่อนบ้านของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ผิดพลาดที่ไปออกหนังสือเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี เมื่อครั้งเป็นประธานกลุ่มประเทศอาเซียน เพราะประเทศพม่าเป็นมิตรที่ดีกับประเทศไทยมาตลอด รวมทั้งความขัดแย้งกับประเทศกัมพูชา จนนำมาสู่การสู้รบถึงทุกวันนี้
พล.อ.ชวลิต ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า นักการเมืองไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งในประเทศได้ เพราะไม่ได้นำปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงมาทำ แต่กลับเอาเรื่องอื่นมามาทำก่อน ทั้งที่ประเทศอยู่ในภาวะไม่ปกติ สำหรับการสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พล.อ.ชวลิต ระบุว่า แม้จะรู้จักนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชาเป็นอย่างดี แต่การคืนดีขณะนี้ คงจะทำลำบาก ต้องรอไปอีกสักนิด เพราะเหตุการณ์ขณะนี้ไปถึงศาลโลก แต่ความสัมพันธ์ความผูกพันระหว่างกันคงไม่เปลี่ยนแปลงในการสถาปนาความสัมพันธ์กลับมาใหม่
ต่อข้อถามว่า หากมีการเปลี่ยนพรรคอื่นเข้ามาเป็นรัฐบาลแทนพรรคประชาธิปัตย์ จะทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า คงต้อดูความเข้าใจของพรรคการเมือง พรรคไหนมีความเข้าใจในสถานการณ์ดีพอ หรือแม้จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาจากหนักก็จะเป็นเบา
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากพรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากจะสามารถตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ พล.อ.ชวลิตตอบว่า ความสามารถของพรรคเพื่อไทยมีแน่นอน แต่จะมีอุปสรรคตรงไหนขณะนี้ ตนยังไม่ทราบ
