xs
xsm
sm
md
lg

ชาวโคราชไม่หวั่น “ปราสาทพิมาย” ชวดมรดกโลก-ลั่นดีกว่าเสียดินแดนให้ “เขมร”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย  อ.พิมาย จ.นครราชสีมา แหล่งโบราณสถานสำคัญของประเทศไทย
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ชาวโคราชไม่หวั่น “ปราสาทหินพิมาย” แหล่งโบราณสถานสำคัญของไทยที่อยู่ระหว่างขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกไม่ได้รับการพิจารณา เห็นด้วยไทยถอนตัวจากภาคีมรดกโลกดีกว่าเสียดินแดน “เขาพระวิหาร” ให้เขมร ด้าน ผอ.สำนักศิลปากรที่ 12 ระบุ นักท่องเที่ยวไทย-เทศ เข้าชมปีละกว่า 4 แสน สร้างรายได้กว่า 7 ล้าน ระบุ ไม่ขึ้นทะเบียนมรดกโลกไม่กระทบเป็นรู้จักทั่วโลกอยู่แล้ว และไทยเรามีงบดูแลต่อเนื่อง ล่าสุด ทุ่ม 25 ล้านบูรณะ

วันนี้ (29 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครราชสีมา ว่า ภายหลังไทยประกาศถอนตัวจากภาคีอนุสัญญามรดกโลกและกรรมการมรดกโลก ส่งผลให้คนไทยกังวลว่าแหล่งโบราณสถานเก่าแก่ของไทยที่เตรียมเสนอการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกต้องตกไป โดยเฉพาะอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นแหล่งโบราณสถานสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย และอยู่ระหว่างการเตรียมเสนอขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ส่งผลให้ประชาชนใน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ต่อกรณีที่เกิดขึ้น

โดยส่วนใหญ่ชาวอำเภอพิมาย เห็นว่า ไม่รู้สึกเสียใจที่ปราสาทหินพิมาย อาจไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เนื่องจากปราสาทหินพิมายมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอยู่แล้ว และในทุกปี นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวชมอุทยานปราสาทหินพิมาย เป็นจำนวนมาก แต่หากปราสาทหินพิมายมีโอกาสได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจริง ก็เป็นเรื่องที่ดีและส่งผลดีกับประชาชนชาวพิมาย และ คนไทยทั้งประเทศ

อย่างไรก็ตาม ยังมีประชาชนชาวพิมายบางส่วนรู้สึกเสียใจ เพราะเกรงว่าปราสาทหินพิมายจะไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทั้งที่มีโอกาส แต่เหนือสิ่งอื่นใดทุกคนต้องการรักษาดินแดนของไทยเอาไว้ไม่ให้ชาติใดมารุกราน หรือฮุบผืนแผ่นดินไทยไป

นายศักดิ์ชัย พจน์นันท์วาณิชย์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 12 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้มีการเสนอขอขึ้นทะเบียนอุทยานปราสาทหินพิมาย จ.นครราชสีมา และอุทยานปราสาทหินพนมรุ้ง รวมถึงปราสาทเมืองต่ำใน จ.บุรีรัมย์ เส้นทางอารยธรรมขอมเป็นมรดกโลก เมื่อ 6-7 ปีก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งหากได้โบราณสถานทั้ง 3 แห่งได้ขึ้นเป็นทะเบียนมรดกโลกก็จะสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักของทั่วโลกมากขึ้นและจะได้รับการช่วยเหลือด้านต่างๆ จากยูเนสโก

อย่างไรก็ตาม เมื่อไทยประกาศถอนตัวออกจากกรรมการมรดกโลก โดยส่วนตัวมองว่าไม่น่าจะมีผลกระทบมากนักต่อโบราณสถานของไทย เพราะไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก นักท่องเที่ยวทั่วโลกก็รู้จักโบราณสถานทั้ง 3 แห่งของไทยอยู่แล้ว เพราะหากเราไม่ตัดสินใจถอนตัวอาจจะส่งผลให้ประเทศไทยเสียดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตร บริเวณเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ไปก็เป็นได้ ฉะนั้นการตัดสินใจครั้งนี้ถือว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้อง

นายศักดิ์ชัย กล่าวอีกว่า ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางเข้ามาเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ปีละกว่า 400,000 ราย สร้างรายได้แต่ละปีประมาณ 6-7 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย สำหรับชาวต่างชาติส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน ส่วนนักท่องเที่ยวแถวยุโรปลดลงหลังจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาของประเทศไทยเราไม่สงบ โดยทางอุทยานฯ จำหน่ายบัตรเข้าชมให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยราคา 20 บาท/คน ต่างชาติ 100 บาท/คน ส่วนนักเรียนและภิกษุสามเณร จะไม่เก็บค่าเข้าชมแต่อย่างใด

“แม้ว่าโบราณสถานของไทยเราจะไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เราก็ยังมีงบประมาณในการที่จะบูรณะซ่อมแซมและดูแลโบราณสถานของไทยเราอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ซึ่งล่าสุดอุทยานประวัติศาตร์พิมาย ได้รับการจัดสรรงบประมาณมากกว่า 25 ล้านบาทในการบูรณะซ่อมแซมกำแพง และประตูเมืองที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมกำหนดแล้วเสร็จใน เม.ย.2555 และการนักท่องเที่ยวที่รู้จักโบราณสถานของไทยไปทั่วโลกทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เพราะมรดกโลกแต่อย่างใด” นายศักดิ์ชัย กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น