ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ชวน” ลุยเดินสายหาเสียงช่วยลูกพรรคที่โคราช ถูกแดงโห่ไล่ ขณะ “พธม.” ชูป้าย “โหวตโน” เผยขอพร “ย่าโม” ให้พรรคชนะการเลือกตั้ง เชื่อได้ที่นั่งในภาคอีสานเพิ่ม โดยเฉพาะปาร์ตี้ลิสต์ ไม่ขอทำนาย “เผาไทย” ชนะขาด “ปชป.” ให้รอดูต่อไป กรีด “นช.แม้ว” กลับไทยเมื่อไหร่ก็ได้ไม่มีใครห้าม อย่าเข้าใจผิดว่ามีคนแกล้งไม่ให้กลับ เผย ยอมรับกรณีนายกฯตาอยู่ เป็นเรื่องคาดเดายาก อย่าไปคิดว่าอะไรเป็นไปไม่ได้ ชี้ โค้งสุดท้ายสั่งลูกพรรคขยันลงพื้นที่หาเสียงอย่ากินแรงเพื่อน ยันซื้อเสียงยังเลวร้าย
วันนี้ (18 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี และ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาช่วยลูกพรรคหาเสียงที่ จ.นครราชสีมา โดยได้เข้าสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) เพื่อเป็นสิริมงคล โดยมี คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช แกนนำพรรค พร้อมผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา ทั้ง 15 เขต จ.นครราชสีมา และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมาให้การต้อนรับ อย่างอบอุ่น
นายชวน หลีกภัย กล่าวปราศรัยย่อยกับชาวโคราช ว่า มาที่โคราชครั้งนี้ยังคงได้รับการตอบรับที่อบอุ่น และขอขอบคุณชาวโคราชทุกคนที่เดินทางไปร่วมงานศพ แม่ถ้วน หลีกภัย แม้จะเดินทางไปไกลแต่ท่านก็มีน้ำใจ จึงขอขอบคุณอย่างมาก
จากนั้น นายชวน พร้อมคณะได้ขึ้นรถกระบะติดตั้งเครื่องขยายเสียง หาเสียงไปรอบตัวเมืองนครราชสีมา เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิวันที่ 3 ก.ค.2544 ทุกคน อย่านอนหลับทับสิทธิ และขอให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์หมายเลข 10 เข้าไปเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน
ระหว่างที่ นายชวน ตระเวนหาเสียงอยู่นั้น ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงโคราชหลายคนยืนอยู่บนทางเท้า ตะโกนโห่ไล่เป็นระยะๆ และเมื่อขบวน นายชวน มาถึงบริเวณสี่แยกสวนหมาก ถ.จอมพล ได้มีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จ.นครราชสีมา ออกมายืนถือป้ายโหวตโนข้อความ “อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา” อยู่บริเวณหน้าร้านด้วยความสงบ แต่ไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายแต่อย่างใด นายชวนและคณะยังเดินหน้าหาเสียงต่อไป โดยเดินทางไปช่วยลูกพรรคหาเสียงที่ อ.โนนสูง, อ.พิมาย จ.นครราชสีมา และ เดินทางต่อไปยัง จ.ขอนแก่น
นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่า การมาครั้งนี้ เพื่อมาช่วยลูกพรรคหาเสียงในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเริ่มต้นที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา และ มาที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของ จ.นครราชสีมา และต่อไปยัง อ.พิมาย, อ.โนนสูง ก่อนจะเดินทางต่อไปยัง จ.ขอนแก่น อยู่หาเสียง 2 วัน ซึ่งจากการที่ได้เดินทางไปแล้วในบางจังหวัด พี่น้องประชาชนให้การตอบรับค่อนข้างดี แต่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือคงจะมีแพ้บ้าง ชนะบ้าง ถึงแม้ส่วนใหญ่จะแพ้ แต่ก็มีส่วนที่ชนะอยู่ น่าจะมีโอกาสได้ที่นั่งเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในระบบบัญชีรายชื่อคงมีโอกาสมากขึ้นเช่นเดียวกัน
ต่อข้อถามที่ว่าหลายฝ่ายมองว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะพรรคประชาธิปัตย์อย่างถล่มทลายนั้น นายชวน ตอบว่า มันทั้งเป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้ อันนี้ก็ต้องรอดูต่อไป ส่วนตัวไม่มีความสามารถพอที่จะหยั่งเสียงได้ว่าจะแพ้หรือชนะเท่าไหร่อย่างไร แต่การเดินทางมาสักการะย่าโมในวันนี้ได้ขอให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้
นายชวน ยังกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองที่กำลังร้อนแรงถึงขั้นก่อเหตุยิง นายก อบจ.ลพบุรี หัวคะแนนคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทยเสียชีวิต ว่า เรื่องนี้ที่จริงแล้วรู้สึกเห็นใจผู้ที่ประสบภัย เพราะมันยากเหมือนกันที่จะไปป้องกันได้ ถ้าคนหนึ่งคนจ้องตามที่จะฆ่า มันก็พลาดได้ทุกโอกาส ขนาดเราพกหลวงพ่อโกยแล้วบางทีก็ไม่ทัน ถ้าสมมติว่า เกิดมีคนจ้องทำร้ายขึ้นมา แต่อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายรัฐบาลก็ประกาศจัดเจนว่า ใครที่ไม่ค่อยมั่นใจก็ขอให้บอก จะได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ไปช่วยดูแล อย่างน้อยเป็นหูเป็นตาได้บ้าง
ต่อข้อถามที่ว่ามองอย่างไรที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทย มาร่วมงานแต่งลูกสาวในเดือน ธ.ค.นี้ นายชวน ตอบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะมาเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครไปห้าม อย่าเข้าใจผิดว่า มีคนไปแกล้งไม่ให้ท่านกลับมา จะมาเมื่อไหร่ก็ได้ทั้งสิ้น แต่นายชวนปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกรณี กกต.ทั้ง 4 คนเดินทางไปต่างประเทศในช่วงจัดการเลือกตั้ง
ส่วนกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ออกมาพูดเรื่องการเมืองและถูกวิพากษ์วิจารณ์ นั้น นายชวน กล่าวว่า คิดว่า สาระหลักที่ท่านพูด คือ พูดเรื่องหลักการให้เลือกคนดี ความจริงการเลือกคนดีเราก็ได้ยินทุกสมัย ซึ่งตนเองก็พูดเรื่องนี้และยังพูดด้วยซ้ำว่า ถ้าคนพรรคประชาธิปัตย์ไม่ดีก็อย่าไปเลือก อยากให้เลือกคนดี ถือหลักคือเลือกคนดีเข้าไป คนดีจะไม่สร้างปัญหาให้บ้านเมือง ปัญหาบ้านเมืองที่เกิดขึ้นทุกวันนี้เพราะไม่ใช่คนดีจริง เช่นมีผลประโยชน์ทับซ้อน มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง ไปทำอะไรก็มีผลประโยชน์ส่วนตัว อันนี้ที่ทำให้บ้านเมืองเกิดวิกฤติ ฉะนั้นที่บรรดาผู้นำเหล่าทัพก็ดี ตำรวจก็ดีพูดเช่นนั้น เท่าที่ตามดู ก็พูดในหลักการเมืองให้เลือกคนดี
ต่อข้อถามที่ว่า หลังเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.จะมีการตั้งรัฐบาลในค่ายทหารหรือไม่ นายชวน ตอบว่า เรื่องนี้คงไม่มี แม้กระทั่งที่ผ่านมาเท่าที่ทราบมันทำไม่ได้ เพราะการไปตั้ง ไปบังคับทหาร ไปบังคับให้พรรคการเมืองไปออกเสียงในสภาฯ ทำไม่ได้ เพราะมันไม่เหมือนสมัยก่อนที่บังคับให้ลงชื่อได้ แต่สมัยนี้เวลาอยู่ในสภาฯ ต้องประกาศเลือก เช่น ระหว่าง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หรือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มันต้องประกาศ หรือเลือกระหว่าง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ต้องเอ่ยชื่อ ฉะนั้นใครจะไปบังคับอยู่ด้านหลังมันทำไม่ได้
ส่วน “นายกฯ ตาอยู่” ทั้ง ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ และ พล.ต.สนั่น ขจรประสาสน์ รวมทั้งคนอื่นๆ มีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้เดายาก คิดเผื่อไว้เหมือนกันว่า อย่าไปคิดว่าอะไรเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าเหตุผลประชาชนเขาจับตามองอยู่เหมือนกันว่าอะไรควรจะเป็น อะไรไม่ควร ฉะนั้น คิดว่า อย่าไปมองว่า อะไรเป็นไปไม่ได้ แม้กระทั่งพรรคที่สามอะไรต่างๆ อย่าเพิ่งไปเปลี่ยนซะทีเดียว เพราะเราไม่รู้ว่าตอนนั้นเป็นอย่างไร
นายชวน กล่าวถึงการหาเสียงโค้งสุดท้ายของพรรคประชาธิปัตย์ก่อนวันเลือกตั้ง ว่า ตนมีเวลาจะไปช่วยเท่าที่สามารถทำได้ พยายามแนะนำให้ผู้สมัครทุกคนขยัน เพราะทุกคนมีบทบาทสำคัญ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อบางคนนอนอยู่กับที่เฉยๆ คนที่ลำดับอยู่ไกลก็คิดว่าไม่ถึงตัวเอง คนที่อยู่ใกล้ก็คิดว่าถึงไม่ออกหาเสียงก็ได้อยู่แล้ว ตนจึงต้องบอกให้คนเหล่านี้เข้าใจว่า อย่าไปกินแรงเพื่อนต้องช่วยกันออกมาหาเสียง คนที่อยู่ปลายก็อย่าไปสิ้นความหวัง เผื่อเกิดเป็นโรคไข้หวัดนกกันตั้งแต่หัวแถว อาจจะถึงเราที่อยู่ท้ายก็ได้
“อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้คิดว่าปัญหาการซื้อเสียงยังมีอยู่มาก มันยังเลวร้ายอยู่ สิ่งนี้อย่าไปปฏิเสธ และคิดว่าเป็นหน้าที่ประชาชน ที่ผ่านมาเคยเสนอ กกต.ไปแล้วว่า การไปไล่จับคนทำผิดยากมาก แต่ว่าวิธีหนึ่งได้ผลมากคือการรณรงค์ตั้งแต่ต้น ต้องทำต่อเนื่องปีแล้วปีเล่า ถ้าไปทำก่อนเลือกตั้งสามเดือนไม่ได้ผลมากมาย” นายชวน กล่าวในที่สุด