xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯศรีสะเกษนำ “ตร.-ทหาร” แถลงไล่ล่า “พ.อ.” หัวโจกสปายเขมร-ยันดำเนินคดีเป็นธรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าฯศรีสะเกษ นำ ตร.-ทหารแถลงประกาศจับ พ.อ.ญา เปาหัวหน้าสปายเขมร โดยมีเลขานุการเอกทูตเวียดนามประจำประเทศไทยร่วมฟังด้วย ที่ สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ ( 16 มิ.ย.)
ศรีสะเกษ - ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ นำ “ตร.-ทหาร” แถลงประกาศจับ “พ.อ.ญา เปา” ทหารกัมพูชาหัวหน้า 3 สายลับเขมร-เวียดนาม ต่อหน้าเลขานุการเอกทูตเวียดนามประจำประเทศไทย ยันดำเนินคดีตามกระบวนยุติธรรมของไทย เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก มีอิสระ และเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ด้าน จนท.ทูตเผยมาติดขอเข้าเยี่ยมสายลับเวียดนาม ขณะ ผกก.กันทรลักษ์ ระบุ การเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาต้องขออนุญาตผ่าน ก.ต่างประเทศ ของไทยก่อน

วันนี้ (16 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ และทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 3 สายลับชาวกัมพูชา-เวียดนาม และชาวไทย คือ นายอึ้ง กิมไทย อายุ 43 ปี สัญชาติกัมพูชา เชื้อชาติกัมพูชา ศาสนาพุทธ, นายเหวียง เติ้งยัง อายุ 37 ปี สัญชาติเวียดนาม เชื้อสายเวียดนาม ศาสนาพุทธ และ นายสุชาติ มูฮำหมัด อายุ 32 ปี สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย ศาสนาอิสลาม ขณะลักลอบเข้ามาสำรวจหาพิกัดโจรกรรมข้อมูลฐานที่ตั้งทหารไทย ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร ที่บริเวณบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา และพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ได้สอบสวนหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม กระทั่งศาลจังหวัดกันทรลักษ์ได้อนุมัติออกหมายจับหัวหน้าสายลับกลุ่มนี้ คือ พ.อ.ญา เปา นายทหารกัมพูชา เมื่อวานนี้ (15 มิ.ย.) นั้น

ล่าสุด วันนี้ เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เสริมสุข วีรวงษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ, นายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ นายอำเภอกันทรลักษ์, พ.ต.อ.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผกก.สภ.กันทรลักษ์ และทหารตัวแทนจาก กองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 ได้ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการจับกุมตัว 3 ผู้ต้องหาสายลับกัมพูชา ดังกล่าว โดยมี นายฟาม มิน ตวน เลขานุการเอก ทูตเวียดนามประจำประเทศไทย และคณะ มาร่วมรับฟังการแถลงข่าวด้วย

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ความคืบหน้าของคดีนั้นพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ ได้ดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริง และได้รวบรวมพยานหลักฐานเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดย นายสุชาติ มูฮำหมัด อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ต้องหาชาวไทยศาสนาอิสลาม ได้ยอมรับสารภาพว่า ได้เป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้าสีดำ สี่ประตู หมายเลขทะเบียน ชว 1901 กทม.พาผู้ต้องหาที่ 2 และผู้ต้องหาที่ 3 และ นายวิชัย หรือ ญา เปา กับพวกที่ยังหลบหนีอยู่อีก 3 คน ไปตรวจสอบหาพิกัดตามสถานที่ต่างๆ ที่เป็นที่ตั้งทางการทหารและบังเกอร์หลุมหลบภัยของชาวบ้านภูมิซรอล และทุกหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.ศรีสะเกษ โดยแต่ละแห่งจะใช้เวลาในการลงไปหาพิกัดทางทหารแห่งละ 5-10 นาที จากนั้นจะเคลื่อนย้ายไปเรื่อยๆ ทุกพื้นที่มีฐานที่ตั้งทางทหารและแหล่งชุมชน

โดยมี นายวิชัย หรือ ญา เปา ที่ยังหลบหนีอยู่เป็นหัวหน้าคณะ และมีอุปกรณ์ในการตรวจสอบพิกัดต่างๆ ซึ่งอุปกรณ์ทุกอย่างรวมทั้งแผนที่ทางทหารที่ทำพิกัดเสร็จแล้วได้อยู่กับนายวิชัย หรือ ญา เปา ทั้งหมด และได้นำเอกแผนที่ที่หาพิกัดทางทหารที่สมบูรณ์แล้วหลบหนีไปได้

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนรวมทั้งการให้การปากคำของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ยืนยันว่า นายวิชัย หรือ ญา เปา เป็น หัวหน้ากลุ่มสายลับทั้งหมด และขณะนี้อยู่ระหว่างการหลบหนี ล่าสุดศาลจังหวัดกันทรลักษ์ได้อนุมัติออกหมายจับ นายวิชัย หรือ นายญา เปา หรือชื่อในภาษาอังกฤษว่า YA POV หรือ CHEA POV หมายเลขหนังสือเดินทาง เลขที่ 0978812 เกิดวันที่ 1 ม.ค.2506 (19630101) อายุ 48 ปี เชื้อชาติกัมพูชา สัญชาติกัมพูชา ที่อยู่ ราชธานีกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา อาชีพรับราชการทหารกัมพูชา ยศพันเอก และทำธุรกิจส่วนตัว ที่อยู่ ราชธานีกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในฐานความผิด “ร่วมกันกระทำการใดๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความลับสำหรับความปลอดภัยของประเทศ” ตามหมายจับของศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ที่ จ.50/2554 คดีอาญาที่ 388/2554 ลงวันที่ 15 มิ.ย.2554

จากการที่ได้ตรวจสอบจากด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกแห่งแล้ว ปรากฏว่า นายวิชัย หรือ นายญา เปา ได้เดินทางออกนอกประเทศไทยเข้าไปในประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2554 ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามพยานหลักฐานที่ชัดเจน และได้ดำเนินคดีตามกระบวนยุติธรรมของไทย ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่า มีการดำเนินการที่เป็นกระบวนการอิสระและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย และมีการคานอำนาจของแต่ละขั้นตอนชัดเจนอยู่แล้ว จึงไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้รับความไม่เป็นธรรม

ด้าน นายฟาม มิน ตวน เลขานุการเอก ทูตเวียดนามประจำประเทศไทย กล่าวว่า ตนมาที่นี้เพื่อติดต่อขอเข้าเยี่ยม นายเหวียง เติ้งยัง ชาวเวียดนามที่ถูกจับกุมตามระเบียบของสถานทูตที่เมื่อมีชาวเวียดนามถูกจับกุมจะต้องมาดูแล และหาทางให้การช่วยเหลือตามกระบวนของกฎหมายของไทยเท่านั้น ส่วนการสอบสวนจะต้องให้อยู่ในความรับผิดชอบของ ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ที่จะดำเนินการ ตนเชื่อว่า เจ้าหน้าที่ของไทยจะให้ความเป็นธรรมกับชาวเวียดนามที่ถูกจับกุมอยู่แล้ว

พ.ต.อ.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผกก.สภ.กันทรลักษ์ กล่าวว่า ในการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้ดำเนินการตามพยานหลักฐาน มีการแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบทันที และแจ้งให้ผู้ต้องหาทุกคนได้รับทราบสิทธิต่างๆ ของผู้ต้องหาทั้งในการพบกับทนายความ การได้รับสิทธิในการเยี่ยมญาติโดยไม่มีการกีดกันแต่อย่างใด

ส่วนการที่เลขานุการเอกทูตเวียดนามประจำประเทศไทย จะเข้าเยี่ยม นายเหวียง เติ้งยัง ผู้ต้องหา นั้น ต้องทำหนังสือขออนุญาตผ่านกระทรวงการต่างประเทศของไทย ซึ่งเมื่อได้รับอนุญาตจากกระทรวงการต่างประเทศแล้วก็จะสั่งการลงมายัง สภ.กันทรลักษ์ เพื่อจะได้นำพาเข้าไปเรือนจำกันทรลักษ์ เพื่อเยี่ยมผู้ต้องหาตามระเบียบของทางเรือนจำต่อไป






ภาพถ่าย  พ.อ.ญา เปา หัวหน้าสายลับเขมร พร้อมนายทหารเขมร ขณะเข้าร่วมประชุมกับคณะนายทหารไทย นำโดย พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2

กำลังโหลดความคิดเห็น