ศูนย์ข่าวศรีราชา - สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยาเปิดเวทีประชันวิสัยทัศน์ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในพื้นที่เขต 7 ชลบุรี ตัวแทน 2 พรรคการเมือง ประชาธิปัตย์-พลังชล โชว์ศักยภาพนโยบายพรรค แต่ไร้เงาเพื่อไทย
วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา จังหวัดชลบุรี สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้จัดเวทีประชันวิสัยทัศน์เรื่องอนาคตของเมืองพัทยาในแนวคิดและนโยบายของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่เขต 7 และพรรคการเมืองต้นสังกัด โดยพบว่ามีตัวแทน 2 พรรคการเมืองคือพรรคพลังชล และพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมปราศรัย โดยไม่มีพรรคเพื่อไทยเพราะติดภารกิจหาเสียง
นายสุรัตน์ เมฆะวรากุล ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ เบอร์ 10 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลประชาธิปัตย์เข้ามาบริหารบ้านเมืองในช่วงวิกฤตของประเทศ ช่วงนั้นจึงจำเป็นต้องกู้เงินจากต่างประเทศมาบริหาร แต่ปัจจุบันก็เป็นที่ทราบกันดีถึงการทำงานของประชาธิปัตย์ที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง จึงเห็นได้ว่าตั้งแต่ประชาธิปัตย์เข้ามาบริหารประเทศก็สามารถสร้างความมั่งคั่งให้ธุรกิจต่าง ๆ กระเตื้องขึ้น ตลอดจนสามารถสร้างความเชื่อถือให้นานาชาติจนผ่านพ้นวิกฤตมาได้
ทั้งนี้รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ หวังที่จะพัฒนาประเทศไทยให้เป็นมนต์เสน่ห์แห่งเอเชีย ซึ่งที่ผ่านมามีการอนุมัติงบประมาณเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของไทย รวมถึงปรับโครงสร้างพื้นฐานของจังหวัดต่างๆ ให้มีจุดขาย นอกจากนี้ ยังหวังที่จะเห็นการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมให้มีการเติบโตที่มั่นคง ซึ่งก็ได้มีการอนุมัติโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางภาคตะวันออก เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาระบบโลจิสติกส์และพัฒนาการเชื่อมโยงเครือข่ายภูมิภาคอีกด้วย
ด้านนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต เบอร์ 6 พรรคพลังชล กล่าวด้วยว่า พรรคพลังชล มุ่งมั่นทำงานเพื่อคนชลบุรีตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ที่สำคัญคือให้มีการพัฒนาเมืองพัทยาไปสู่เมืองท่องเที่ยวที่ครบวงจรและหลากหลาย เพราะพัทยาเป็นเมืองที่ทำรายได้เข้าประเทศปีละหลายหมื่นล้านจึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาต่อไปอย่างถูกทิศทาง ซึ่งหากมีการบริหารงานอย่างต่อเนื่องนั้น การผลักดันเมืองพัทยาสู่ความเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับ 1 ของเอเชียก็อยู่ไม่ไกล
ทั้งนี้ พรรคพลังชล มีการทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดชลบุรีมาโดยตลอด ทำให้รับรู้และเข้าใจถึงปัญหาความต้องการของประชาชนชาวชลบุรีได้เป็นอย่างดี และเชื่อแน่ว่าความคุ้นเคยในการทำงานร่วมกับงานส่วนท้องถิ่นต่างๆ นั้น จะช่วยสร้างความเข้มแข็งและความมั่นคงในการบริหารงานเพื่อคนชลบุรี เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน พรรคพลังชลไม่แบ่งสีไม่แบ่งค่ายและสามารถทำงานร่วมได้ทุกพรรคการเมือง โดยไม่มีความขัดแย้ง ซึ่งจะเป็นแนวทางการพัฒนาพรรคพลังชลไปสู่พรรคการเมืองของประเทศต่อไปด้วย