ชาวสังขละบุรีเดือดร้อน สุดงง! ฝนตกตลอดฤดูแต่น้ำในอ่างกลับแห้ง

กาญจนบุรี - ชาวบ้านในอำเภอสังขละบุรี กาญจนบุรี เดือดร้อนหนัก งง! ฝนตกหนักตลอดฤดู แต่น้ำในอ่างกลับเหือดแห้ง ด้าน ปลัดเทศบาลตำบลวังกะ เผยเตรียมนำเรื่องหารือกับ นอภ.สั่งขละบุรี เพื่อยื่นหนังสือถึง ผอ.เขื่อนวชิราฯ ขอให้เขื่อนหยุดปล่อยน้ำชั่วคราว เนื่องจากพื้นที่กำลังขาดแคลนน้ำดิบในการผลิตน้ำประปา หวั่นประชาชนทั้งเมืองได้รับความเดือดร้อน

เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (14 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายเจริญ ศรีเริ่มสกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี นายทรงบุญ อรุณทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.หนองลู และประชาชนชาวอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ว่า ขณะนี้ชาวบ้านกำลังเกิดความสงสัยเป็นอย่างมาก ว่า ทำไมฝนตกลงมาแทบทุกวัน ส่วนบริเวณเขตทุ่งใหญ่นเรศวรฝกก็ตกหนักทุกวันเช่นกัน ปริมาณน้ำฝนที่ไหลมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ ผ่านมายังลำห้วยซองกาเลีย บิคลี่ และ รันตี ลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ เป็นจำนวนมาก แต่ปรากฏว่า ปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่อ่างก็ยังแห้งขอดเหมือนเดิม เหมือนไม่มีฝนตกลงมาเลยแม้แต่น้อย ซึ่งเป็นเช่นนี้มานานนับปีแล้ว

นายเจริญ ศรีเริ่มสกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 เปิดเผยต่อว่า พื้นที่หมู่ 1 มีประชากรบางส่วนที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลประมาณ 190 ครัวเรือน นอกเขตเทศบาลประมาณ 94 ครัวเรือน รวมประชากร กว่า 500 คน ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร และอาชีพประมง คือออกเรือหาปลาในแม่น้ำเพื่อนำมาขายในตลาดเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพและส่งลูกหลานเรียนหนังสือ ปัจจุบันประชาชนทั้งหมดกำลังได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไม่มีแหล่งน้ำที่ใช้สำหรับการเกษตรและการประมง ส่วนสาเหตุนั้น ตนและชาวบ้านสงสัยกันว่าเหตุใดน้ำในอ่างเก็บน้ำถึงไม่มีปริมาณเพิ่มขึ้นและเข้าสู่สภาวะปกติเสียทีและเป็นเช่นนี้มา 1-2 ปีแล้ว ซ้ำร้ายยังมีท่าทีลดลงเรื่อยๆ จนเกือบจะแห้งขอด ทั้งๆ ที่ความจริงนั้นในพื้นที่ของเราฝนตกลงมาทุกวัน รวมทั้งยังมีปริมาณน้ำที่ไหลมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรก็มีเป็นจำนวนมาก และยังเป็นแหล่งต้นน้ำที่ไหลเข้าสู่เขื่อนวชิราลงกรณ หรือเขื่อนเขาแหลมเดิม ตั้งอยู่บริเวณอำเภอทองผาภูมิ

นายเจริญ เปิดเผยต่ออีกว่า นอกจากนั้น น้ำที่ใช้ในการอุปโภค บริโภค ก็กำลังประสบปัญหาหนักเช่นกัน เพราะน้ำประปาที่ทางเทศบาลเป็นผู้ผลิตให้บริการกับประชาชน น้ำประปาเริ่มมีสีขุ่นเหลือง บางครั้งก็เป็นสีแดง แต่ทุกคนก็ต้องทนใช้ไป ตนและชาวบ้านทราบมาว่าขณะนี้ทางเทศบาลเองก็กำลังพยามแก้ไขปัญหานี้อยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งชาวบ้านเข้าใจการทำงานของทางเทศบาลตำบลวังกะดี เพราะในพื้นที่มีแหล่งผลิตน้ำประปาเพียงแห่งเดียวเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามตนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยลงมาแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านอย่างเร่งด่วนด้วย ก่อนที่ปัญหาดังกล่าวจะลุกลามไปถึงสุขภาพของชาวบ้าน

ด้าน นายทรงบุญ อรุณทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 กล่าวว่า ชาวบ้านหมู่ 3 ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลรวมกันกว่า 400 ครัวเรือน มีประชากรประมาณ 1,000 คน ขณะนี้ทุกคนกำลังได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันกับชาวบ้านหมู่ 1 เพราะแหล่งที่มาของน้ำมาจากแหล่งน้ำเดียวกัน และชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเหมือนกัน คือ การเกษตร และประมง คือ อาศัยจับปลาในแม่น้ำมาขายในตลาด ส่วนน้ำที่ใช้ในการอุปโภค-บริโภค ต้องอาศัยน้ำประปาที่ทางเทศบาลตำบลวังกะ เป็นผู้ผลิตเช่นกัน แต่ในเมื่อแหล่งน้ำดิบที่ทางเทศบาลใช้ผลิตน้ำประปากำลังแห้งขอด ทั้งๆที่ฝนตกทุกวัน และน้ำที่ไหลมาจากเขตทุ่งใหญ่ก็มีปริมาณเป็นจำนวนมาก แต่น้ำในอ่างกลับไม่มี ซึ่งเราจะต้องประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวเพื่อหาสาเหตุที่เกิดขึ้นว่าทำไมน้ำในแม่น้ำจึงแห้งขอดลงทุกวัน

ทางด้าน นายมานพ เกิดแดง ปลัดเทศบาลตำบลวังกะ ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวังกะ เปิดเผยเกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนแหล่งน้ำดิบที่ใช้ในการผลิตน้ำประปาว่า ขณะนี้เทศบาลกำลังขาดแคลนน้ำดิบในการผลิตน้ำประปาเพื่อบริการประชาชนในพื้นที่จริง ทั้งๆ ที่ฝนได้ตกลงมาทุกวัน น้ำที่ไหลมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ก็มีเป็นจำนวนมาก

เมื่อเทียบกับทุกปีที่ผ่านมา ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำจะเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ในปีนี้ตนไม่ทราบสาเหตุเช่นกันว่าทำไมจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้ จากนี้ไปตนจะเข้าพบนายจำรัส กังน้อย นายอำเภอสังขละบุรี เพื่อปรึกษาแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอย่างเร่งด่วน และจะทำหนังสือถึง ผอ.เขื่อนวชิราลงกรณ เพื่อขอทราบตารางการปล่อยน้ำของเขื่อน พร้อมกับขอให้ชี้แจงต่อชาวบ้านทราบว่าทำไมทางเขื่อนถึงไม่กักเก็บน้ำ

แต่อย่างไรก็ตาม จะขอร้องให้ทางเขื่อนหยุดปล่อยน้ำเป็นการชั่วคราวเพื่อคลายความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ท้ายเขื่อนที่กำลังได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ หมู่ 1 หมู่ 2 และหมู่ 3 มีประชากรรวมกันกว่า 2 หมื่นคน