กาญจนบุรี - ภัยแล้งเล่นงานเมืองกาญจน์หนัก "แม่น้ำซองกาเลีย" แห้งขอด เป็นเหตุให้เรือนแพพักสำหรับบริการนักท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีต้องเกยตื้นจำนวนมาก ส่วนบริเวณสะพานไม้ (สะพานมอญ) และ "โบสถ์หลวงพ่ออุตตมะ" หรือ "เมืองบาดาล" แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยว หรือขับรถ จยย.ลงไปได้เลย
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กาญจนบุรีว่า เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยนายจำรัส กังน้อย นายอำเภอสังขละบุรี นายชิษณุพงศ์ เกิดขุมทอง ปลัดอาวุโสอำเภอสังขละบุรี และ พ.อ.พนม ฉายาวัฒน์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ น.ส.รัชนี จำปีขาว ผญบ.หมู่ 2 ต.หนองลู ได้ร่วมเดินทางไปตรวจสอบบริเวณแม่น้ำซองกาเลีย หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี หลังจากบริเวณดังกล่าวประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก แม่น้ำทั้งสายแห้งขอด จนเรือนแพสำหรับบริการให้นักท่องเที่ยวพักแรมจำนวนมากต้องเกยตื้นบนบก
ส่วนบริเวณสะพานไม้ (สะพานมอญ) และโบสถ์หลวงพ่ออุตตมะ ที่เคยจมอยู่ใต้น้ำ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองกาญจนบุรี ทำให้ขณะนี้ประชาชน และนักท่องเที่ยวสามารถพากันเดินลงไปเล่น และสามารถขี่รถจักรยานยนต์ลงไปเที่ยวเล่นได้เลย
นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า หลังจากได้สำรวจพื้นที่บริเวณแม่น้ำซองกาเลียแล้วหรือสึกตกใจ เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำนั้นลดลงจนแห้งขอด ทำให้เรือนแพที่อยู่ตามบริเวณริมน้ำจำนวนมากเกยตื้นอยู่บนบก ส่วนบริเวณสะพานไม้ และโบสถ์หลวงพ่ออุตตมะที่เคยจมอยู่ใต้มานานหลาย 10 ปีก็แห้งแล้งจนสามารถเดินเข้าไปเที่ยวได้เลย
ส่วนสาเหตุนั้นเนื่องจากฝนตกไม่ตรงตามฤดูกาล ประกอบกับมีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าซึ่งเป็นป่าต้นน้ำ โดยบุคคลเหล่านี้ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่ประชาชนและลูกหลานจะได้รับในอนาคต เพียงหวังแค่ผลประโยชน์ส่วนตนเท่านั้น เจ้าหน้าที่พยายามติดตามจับกุมอย่างเต็มกำลังแต่ก็เป็นไปได้ยากเนื่องจากพวกนี้ทำกันเป็นขบวนการ หรืออาจจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐรู้เห็น
จึงอยากให้ขบวนการเหล่านี้มีจิตใต้สำนึก เลิกตัดไม้ทำลายป่า มาร่วมกันปลูกต้นไม้ขึ้นมาทดแทนในสิ่งที่กระทำลงไป ถ้าไม่เห็นแก่ประเทศชาติก็ขอให้แก่ลูกหลานของตนที่จะได้รับความเดือดร้อนในอนาคต
อีกประการหนึ่งก็คือมีการบุกรุกที่ดินของรัฐโดยการเผาป่าเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่นั้นยืนต้นแห้งตายเป็นจำนวนมาก เพียงเพื่อหวังทำการเกษตร เช่น รุกที่เพื่อปลูกปาล์ม และปลูกยางพารา และอื่นๆ การกระทำอย่างนี้ก็มีผลกระทบโดยตรงเช่นกัน
"จากการสอบถามไปยังหัวหน้าอุทยานทุ่งใหญ่นเรศวรทราบว่า ปัจจุบันภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรไม่มีฝนตกลงมาเลย ทุกปีที่ผ่านมาฝนจะตกลงมาในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งต้องลุ้นกันดูว่าเดือนเมษายนที่จะถึงนี้จะมีฝนตกลงมาเพื่อช่วยแก้วิกฤตปัญหาภัยแล้งหรือไม่ ถ้าไม่จะส่งผลกระทบต่อเทศกาลวันสงกรานต์นี้อย่างแน่นอน ซึ่งปริมาณน้ำโดยรอบเขื่อนวชิราลงกรณ (เขื่อนเขาแหลม) อำเภอทองผาภูมิปัจจุบันมีปริมาณน้ำที่น่าเป็นห่วงเหลืออยู่ประมาณ 30% เท่านั้น เป็นเหตุทำให้พื้นที่อำเภอสังขละบุรี ซึ่งตั้งอยู่ท้ายเขื่อนได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งอย่างรุนแรง"
นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางในการแก้ไขปัญหานั้น จังหวัด จะประชุมหารือร่วมกับอำเภอสังขละบุรี เทศบาลตำบลวังกะ อบต.หนองลู และจะประสานขอความช่วยเหลือจากกองพลทหารราบที่ 9 ด้วยส่วนหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบโดยตรงคือ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีนายไชโย ฤทธิรงค์ เป็นหัวหน้าสำนักงาน จะต้องเร่งส่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ถ้าหากยังทำงานชักช้าประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน
รายงานข่าวว่า จังหวัดกาญจนบุรี ได้ประกาศพิบัติภัยแล้งคลุมพื้นที่ทั้งหมด 13 อำเภอ ซึ่งประชาชนได้รับความช่วยเหลือจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรีช้ามาก ทำให้ประชาชนตำหนิหน่วยงานนี้อย่างกว้างขวาง
ส่วนประชาชนพื้นที่อำเภอสังขละบุรี หลังจากได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งอย่างหนักในรอบหลายสิบปี เนื่องด้วยปริมาณน้ำจาก แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบิคลี่ และแม่น้ำรันตี ซึ่งไหลมาบรรจบกันเป็นแม่น้ำแควน้อยนั้นแห้งขอด
แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ยังพบว่าบริเวณแม่น้ำบิคลี่ยังพอมีปริมาณน้ำเหลืออยู่แต่ไม่มากนัก มีประมาณ 30% เท่านั้น ซึ่งชาวบ้านเป็นห่วงว่าคุณภาพของน้ำที่มีอยู่นั้นสะอาดเพียงพอในการนำมาอุปโภค บริโภค รวมทั้งจะสามารถนำมาผลิตน้ำประปาได้หรือไม่ ซึ่งสาธารณสุขจังหวัดจะต้องเร่งตรวจสอบคุณภาพน้ำอย่างเร่งด่วน
