พะเยา - “แม่ญิงพะเยา” กังวลทุกพรรคหาเสียงเน้น “ประชานิยม” รัฐทุ่มงบฯเพิ่มค่าตอบแทนท้องถิ่นทำเงินงบประมาณขาด ผวาประชาชนถูกรีดภาษีหนักขึ้น อปท.วอนรัฐ ลดนโยบายประชานิยม ไม่ตัดงบฯท้องถิ่น
นางสุภัคสร วรรณปลูก ประธานเครือข่ายแม่ญิงพะเยา กล่าวว่า จากนโยบายการหาเสียงของพรรคการเมืองทุกพรรคในขณะนี้ โดยเฉพาะพรรคขนาดใหญ่และขนาดกลาง ล้วนชูนโยบายเชิงประชานิยมเป็นหลัก ซึ่งคือการใช้เงินงบประมาณมาเป็นเครื่องมือสำหรับจัดสรร เพื่อทำสวัสดิการสังคมให้กับประชาชนเป็นหลัก โดยอาจจะได้ใจประชาชนที่ชื่นชอบ แต่หากมองในมุมที่กลับกันจะพบว่านโยบายเหล่านี้ต้องใช้เงินงบประมาณแผ่นดินมหาศาล
ที่ผ่านมารัฐบาลได้กู้มาแล้วถึง 800,000 ล้านบาท ทำให้ประชาชนต้องแบกรับภาระหนี้สินสาธารณะต่อรายไม่น้อยกว่า 1-2 แสนบาท และยิ่งหากทุกพรรคการเมืองเน้นนโยบายประชานิยม นำงบประมาณแผ่นดินมาใช้ตามนโยบายจริง ผู้ที่จะได้รับผลกระทบคือผู้เสียภาษีทุกคนต้องรับภาระในการเสียภาษีหนักขึ้น
“ทุกวันนี้ผู้บริโภคคือคนไทยทุกคน ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามปกติอยู่แล้วร้อยละ 7 และหากว่ารัฐบาลมีหนี้สินมากขึ้นหรือหมายถึงหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น เพราะรัฐบาลที่ผ่านมามีนโยบายอนุมัติงบประมาณทิ้งทวนมหาศาล เช่น การขึ้นเงินเดือน ค่าตอบแทนให้แก่ท้องถิ่น ข้าราชการ และรัฐวิสาหกิจ เพียงต้องการเอาใจประชาชนก่อนการเลือกตั้ง แต่เกษตรกรยังประสบปัญหาความยากจนอยู่ไม่น้อย ในอนาคตงบประมาณแผ่นดินจะเพียงพอหรือไม่ จึงอยากให้รัฐบาลทุกสมัยทบทวนเรื่องนโยบายประชานิยมควรให้งบประมาณอย่างมีคุณค่าให้มากที่สุด เพื่อประชาชนไม่ต้องเป็นหนี้” ปธ.เครือข่ายแม่ญิงพะเยากล่าว
ด้าน น.ส.อารีย์ อ้อยหอม นายกเทศมนตรีตำบลบ้านต๊ำ อ.เมือง จ.พะเยา กล่าวว่า ล่าสุดได้รับทราบว่า ส่วนกลาง โดยอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อนุมัติเพิ่มค่าตอบแทนให้แก่ผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่นระดับเทศบาล เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 แต่ก็ต้องรอคำสั่งอย่างเป็นทางการมาอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับ ตนยอมรับว่าเห็นใจประชาชนที่อาจจะต้องแบกรับภาระเสียภาษีมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องสะท้อนถึงรัฐบาลด้วย เพราะการทำนโยบายประชานิยมของรัฐบาล ส่งผลกระทบถึงการบริหารงานท้องถิ่นหลายแห่ง ที่ถูกตัดลดงบประมาณด้วยเช่นกัน
นางสุภัคสร วรรณปลูก ประธานเครือข่ายแม่ญิงพะเยา กล่าวว่า จากนโยบายการหาเสียงของพรรคการเมืองทุกพรรคในขณะนี้ โดยเฉพาะพรรคขนาดใหญ่และขนาดกลาง ล้วนชูนโยบายเชิงประชานิยมเป็นหลัก ซึ่งคือการใช้เงินงบประมาณมาเป็นเครื่องมือสำหรับจัดสรร เพื่อทำสวัสดิการสังคมให้กับประชาชนเป็นหลัก โดยอาจจะได้ใจประชาชนที่ชื่นชอบ แต่หากมองในมุมที่กลับกันจะพบว่านโยบายเหล่านี้ต้องใช้เงินงบประมาณแผ่นดินมหาศาล
ที่ผ่านมารัฐบาลได้กู้มาแล้วถึง 800,000 ล้านบาท ทำให้ประชาชนต้องแบกรับภาระหนี้สินสาธารณะต่อรายไม่น้อยกว่า 1-2 แสนบาท และยิ่งหากทุกพรรคการเมืองเน้นนโยบายประชานิยม นำงบประมาณแผ่นดินมาใช้ตามนโยบายจริง ผู้ที่จะได้รับผลกระทบคือผู้เสียภาษีทุกคนต้องรับภาระในการเสียภาษีหนักขึ้น
“ทุกวันนี้ผู้บริโภคคือคนไทยทุกคน ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามปกติอยู่แล้วร้อยละ 7 และหากว่ารัฐบาลมีหนี้สินมากขึ้นหรือหมายถึงหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น เพราะรัฐบาลที่ผ่านมามีนโยบายอนุมัติงบประมาณทิ้งทวนมหาศาล เช่น การขึ้นเงินเดือน ค่าตอบแทนให้แก่ท้องถิ่น ข้าราชการ และรัฐวิสาหกิจ เพียงต้องการเอาใจประชาชนก่อนการเลือกตั้ง แต่เกษตรกรยังประสบปัญหาความยากจนอยู่ไม่น้อย ในอนาคตงบประมาณแผ่นดินจะเพียงพอหรือไม่ จึงอยากให้รัฐบาลทุกสมัยทบทวนเรื่องนโยบายประชานิยมควรให้งบประมาณอย่างมีคุณค่าให้มากที่สุด เพื่อประชาชนไม่ต้องเป็นหนี้” ปธ.เครือข่ายแม่ญิงพะเยากล่าว
ด้าน น.ส.อารีย์ อ้อยหอม นายกเทศมนตรีตำบลบ้านต๊ำ อ.เมือง จ.พะเยา กล่าวว่า ล่าสุดได้รับทราบว่า ส่วนกลาง โดยอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อนุมัติเพิ่มค่าตอบแทนให้แก่ผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่นระดับเทศบาล เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 แต่ก็ต้องรอคำสั่งอย่างเป็นทางการมาอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับ ตนยอมรับว่าเห็นใจประชาชนที่อาจจะต้องแบกรับภาระเสียภาษีมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องสะท้อนถึงรัฐบาลด้วย เพราะการทำนโยบายประชานิยมของรัฐบาล ส่งผลกระทบถึงการบริหารงานท้องถิ่นหลายแห่ง ที่ถูกตัดลดงบประมาณด้วยเช่นกัน