ศรีสะเกษ - หลังรวบ 3 สายลับเขมร-เวียดนาม “นอภ.กันทรลักษ์” สั่งผู้นำหมู่บ้านจัดชุด ชรบ.ร่วม ตำรวจ-ทหาร คุมเข้มตรวจตรารักษาความปลอดภัยทุกหมู่บ้านชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้ ปชช.จับตาคนแปลกหน้า-รถต่างถิ่น ขณะชาวบ้าน “ภูมิซรอล” ผวานอนไม่หลับ พากันจัดเวรยามเฝ้าระวังทั้งคืน เผยเกรงเกิดสงครามใหญ่ไทย-เขมร เร็วๆ นี้
วันนี้ (10 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีที่ตำรวจและทหารพรานไทยได้จับกุมผู้ต้องหา 3 คนชาวกัมพูชา เวียดนาม และชาวไทย ต้องสงสัยเป็นสายลับจากประเทศกัมพูชาและเวียดนาม ลักลอบเข้ามาหาพิกัดโจรกรรมข้อมูลฐานที่ตั้งทางทหาร และสำรวจบังเกอร์หรือหลุมหลบภัยของประชาชนชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมทั้งมีการเขียนพิกัดแผนที่ตัวเลข 10 หลักไว้ในแผนที่ทางทหารของประเทศกัมพูชา และประเทศไทย ซึ่งล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ ได้ส่งเรื่องฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ที่ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ ที่ศูนย์ประสานงานไทย-กัมพูชา สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ นายอำเภอกันทรลักษ์ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า เป็นการแสดงให้เห็นว่าประเทศเพื่อนบ้านอาจมุ่งหวังประสงค์บางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยชน์ทางการทหาร จึงเข้ามาสำรวจฐานที่ตั้งของทหารไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้านเขาพระวิหาร ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทจึงได้กำชับให้ผู้นำหมู่บ้านได้จัดชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารออกตรวจตรารักษาความปลอดภัยในหมู่บ้านทุกหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.กันทรลักษ์
พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนว่าให้เฝ้าระวังคนแปลกหน้า และรถแปลกถิ่นที่เข้ามาในเขตพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามหมู่บ้านที่อยู่ติดกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หากพบมีการเคลื่อนไหวผิดสังเกตและอาจเกิดอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ ขอให้ชาวบ้านที่พบเห็นเหตุการณ์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้รับทราบโดยด่วนด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า ที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หลังจากข่าวการจับ 3 สายลับ ชาวกัมพูชา เวียดนาม และ ชาวไทย แพร่กระจายออกไปปรากฏว่าชาวบ้านได้พากันหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก และได้พากันจัดเวรยามเฝ้ารักษาความปลอดภัยหมู่บ้านอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกัน ที่บริเวณทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ทั้งบริเวณด่านหน้าโรงเรียนบ้านภูมิซรอล และ บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้มีกำลังทหารไทยพร้อมด้วยอาวุธครบมือเฝ้ารักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ และไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขึ้นไปที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างเด็ดขาด โดยอ้างว่าเพื่อความปลอดภัย
นางทองดี กลิ่นอ้ม อายุ 35 ปี ชาวบ้านภูมิซรอล กล่าวว่า ข่าวการจับ 3 สายลับกัมพูชา-เวียดนาม ทำให้พวกเราเกิดความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีสงครามใหญ่ระหว่างไทย-กัมพูชา เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ก็ได้ เพราะการที่ฝ่ายกัมพูชาและเวียดนามส่งสายลับเข้ามาหาพิกัดที่ตั้งทางทหาร เป็นการแสดงว่าเป็นการเตรียมพร้อมที่จะเกิดสงคราม ซึ่งส่งผลทำให้ตนและญาติพี่น้องทุกคนที่อยู่บ้านภูมิซรอล พากันหวาดผวาภัยสงครามจนนอนไม่หลับ
“แต่เชื่อมั่นว่ากำลังทหารไทยจะรักษาอธิปไตยของชาติไทยได้อย่างแน่นอน เนื่องจากว่าทหารไทยมีกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เหนือกว่าประเทศกัมพูชาเป็นอย่างมาก” นายทองดีกล่าว