แพร่ - คนเพื่อไทยเมืองแพร่ วิ่งโร่ขึ้นโรงพักแจ้งความจับไส้ศึกใช้กล้องปากกาล้วงข้อมูลการประชุมกรรมการหาเสียง พท. ถึงบ้าน “เสี่ยแมว-วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล” ชี้เป็นเด็กผู้สมัคร ปชป.ถูกใช้เพราะติดหนี้บุญคุณฝากลูกเข้าเรียน ด้าน “แม่เลี้ยงติ๊ก-ศิริวรรณ”โต้ ทะลึ่ง! ยันลูกทีมไม่มีใครรู้จักคนก่อเหตุ บอกเป็นสุภาพบุรุษพอ ไม่ใช่ “คนสองเพศ”
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเลือกตั้งในจังหวัดแพร่ว่า ขณะนี้การหาเสียงเริ่มส่อเค้าความรุนแรง หลังมีการเผาป้ายของพรรคประชาธิปัตย์ในเขต 3 อ.เด่นชัย เมื่อ 3 มิ.ย.54 ที่ผ่านมา ขณะที่นักการเมืองในหลายพรรคยังคงใช้วิธีการคล้ายๆ กันคือ การลงพื้นที่เคาะประตูบ้านมากกว่าการเปิดเวทีปราศรัย แต่กระแสการสาดโคลนและกลั่นแกล้งกันเริ่มมีให้เห็นแล้ว
ล่าสุด นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล หัวหน้าทีมผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดแพร่ พรรคเพื่อไทย ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.สรณคมน์ กึกก้อง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ กล่าวหานางเรียน อินต๊ะก๋อง อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 หมู่ 4 ต.ทุ่งโฮ้ง อ.เมือง จ.แพร่ ใช้กล้องปากกา เข้าโจรกรรมข้อมูลการประชุม ด้วยการบันทึกภาพวิดีโอและเสียงในขณะที่คณะกรรมการหาเสียงของพรรคเพื่อไทยจังหวัดแพร่จำนวน 100 คนกำลังประชุมวางแผนการหาเสียงเลือกตั้งอยู่ที่ห้องประชุมภายในบ้านทุ่งกวาง ต.ทุ่งกวาง อ.เมือง จ.แพร่ ซึ่งเป็นบ้านของนายวรวัจน์ ซึ่งในการประชุมครั้งนี้มีผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยทั้ง 3 เขตเลือกตั้งเข้าร่วมประชุมอยู่ด้วย
จากการสอบสวนและบันทึกปากคำนางเรียน อินต๊ะก๋อง สารภาพว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.54 ได้รับมอบหมายจากนางรุจน์ หรือมนสิการ ศุภศิริ ภรรยาของนายพงศ์สวัสดิ์ ศุภศิริ ผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ให้เข้ามาบันทึกเทปวิดีโอการประชุมคณะทำงานหาเสียงเลือกตั้งของนางปานหทัย เสรีรักษ์ และนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล แต่ถูกเจ้าหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยจับได้ในขณะที่ทำการบันทึกเสียงและภาพวิดีโอช่วงที่นายวรวัจน์กำลังพูดคุยบนเวทีประชุมดังกล่าว
หลังจากเจ้าหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยจับได้จึงมีการทำบันทึกสอบปากคำไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นนายวรวัจน์ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สรณคมน์ เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาบุกรุก และโจรกรรมข้อมูล
นายวรวัจน์กล่าวว่า การแข่งขันเริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น การเข้ามาบันทึกภาพในห้องประชุมถึงแม้จะไม่มีข้อมูลปกปิดอะไร แต่ไม่ทราบว่ามาบันทึกทำไม ซึ่งอาจนำไปบิดเบือนหรือทำให้เกิดปัญหาตามมาก็เป็นได้ การเข้ามาโจรกรรมข้อมูลสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายจนการประชุมต้องยุติลง ไม่สามารถดำเนินการประชุมต่อได้ เพราะทุกคนเกิดความระแวงไปแล้ว ซึ่งจะนำปัญหาดังกล่าวร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดแพร่ต่อไป
“คนที่เข้ามาโจรกรรมข้อมูลให้กับนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ทำไปเพราะถูกใช้ให้มาทำงานโดยมีการอ้างบุญคุณในการฝากลูกเข้าเรียน”
ด้าน นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่ายังไม่ทราบเรื่องชัดเจน แต่พอรู้ว่ามีการแจ้งความ จะเป็นไปได้อย่างไรเมื่อนางเรียน อินต๊ะก๋อง คนที่ถูกจับไปนั้น ในทีมหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีใครรู้จัก
“ทะลึ่งแล้ว การกระทำแบบนี้เป็นการป้ายสีกันชัดๆ และเป็นเช่นการเลือกตั้งครั้งก่อนๆ ทีมงานหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์เป็นสุภาพบุรุษพอไม่ทำอย่างนั้นเด็ดขาด ไม่ใช่พวกสองเพศที่ทำได้ทุกอย่าง จะเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์มีการถูกเผาป้ายที่ อ.เด่นชัย แต่ไม่ได้ทำการตอบโต้ใดใด พยายามก้มหน้าก้มตาหาเสียงต่อเนื่อง เพราะเห็นว่าคะแนนเสียงดีขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งที่ 1 มีกระแสตอบรับมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่มีการออกมาโจมตีนายพงศ์สวัสดิ์ ศุภศิริ ผู้สมัครของ ปชป.เขต 1” นางศิริวรรณ หรือแม่เลี้ยงติ๊กกล่าว