ศรีสะเกษ -สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร เหตุการณ์ยังคงปกติ ขณะที่ทหารเขมรขนลูกเมียขึ้นมาอยู่ด้วยแล้ว
เมื่อเวลา 14.30 วันนี้ (1 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่รัฐบาลกัมพูชาได้ยื่นหนังสือต่อศาลโลกขอให้ตีความคำตัดสินเมื่อปี 2505 กรณีปราสาทพระวิหารใหม่อีกครั้ง เพื่อระบุขอบเขตที่ชัดเจนว่า พื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารตามคำตัดสินของศาลโลกอยู่ในขอบเขตพื้นที่ตรงไหน อย่างไร
นอกจากนี้ ยังขอให้ศาลโลกได้ไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อให้ไทยถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่พิพาททั้งหมด ก่อนที่ผู้สังเกตการณ์จากประเทศอินโดนีเซียจะเข้าไปในพื้นที่ตามคำร้องขอของฝ่ายกัมพูชา
จากกรณีดังกล่าวนี้ ทำให้บรรยากาศตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร เริ่มตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะส่อไปในทางที่จะทำให้เหตุการณ์บานปลายไปสู่การปะทะกันระหว่างกองกำลังทั้งสองฝ่ายเหมือนที่ผ่านม โดยเหตุการณ์ทั่วไปยังคงปกติ ทหารทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงงกำลังอยู่ในที่ตั้งของตนเองตามปกติ
แหล่งข่าวตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนยังคงเป็นปกติ ไม่มีความตึงเครียดอะไร ขณะที่ลูกเมียทหารฝ่ายกัมพูชาก็ได้รับอนุญาตให้กลับขึ้นมาอยู่บริเวณชุมชนรอบปราสาทพระวิหาร และที่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาะตามปกติแล้ว
ขณะเดียวกัน เชื่อว่า ฝ่ายกัมพูชาคงไม่กล้าเปิดศึกปะทะกับทหารไทยอีก เนื่องจากขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากันที่ศาลโลก และทางฝ่ายกัมพูชาเองก็ต้องการให้ประเทศที่ 3 เข้ามาสังเกตการณ์ในพื้นที่ปราสาทพระวิหาร ซึ่งได้ข่าวมาว่า ฝ่ายกัมพูชาจะให้ประเทศที่ 3 เข้ามาสังเกตุการณ์ประมาณวันที่ 4-5 มิ.ย.54 นี้
ด้าน พ.ต.รวีรักษ์ สัตตบุศน์ หัวหน้าฝ่ายกิจกรรมพลเรือน กองกำลังสุรนารี กล่าวว่า ขณะนี้ สถานการณ์ทั่วไปตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร ยังคงปกติ ไม่มีความตึงเครียดแต่อย่างใด แต่เพื่อความไม่ประมาท ฝ่ายไทยก็ได้ให้ทหารเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา เพื่อรองรับสถานการณ์รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
เมื่อเวลา 14.30 วันนี้ (1 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่รัฐบาลกัมพูชาได้ยื่นหนังสือต่อศาลโลกขอให้ตีความคำตัดสินเมื่อปี 2505 กรณีปราสาทพระวิหารใหม่อีกครั้ง เพื่อระบุขอบเขตที่ชัดเจนว่า พื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารตามคำตัดสินของศาลโลกอยู่ในขอบเขตพื้นที่ตรงไหน อย่างไร
นอกจากนี้ ยังขอให้ศาลโลกได้ไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อให้ไทยถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่พิพาททั้งหมด ก่อนที่ผู้สังเกตการณ์จากประเทศอินโดนีเซียจะเข้าไปในพื้นที่ตามคำร้องขอของฝ่ายกัมพูชา
จากกรณีดังกล่าวนี้ ทำให้บรรยากาศตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร เริ่มตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะส่อไปในทางที่จะทำให้เหตุการณ์บานปลายไปสู่การปะทะกันระหว่างกองกำลังทั้งสองฝ่ายเหมือนที่ผ่านม โดยเหตุการณ์ทั่วไปยังคงปกติ ทหารทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงงกำลังอยู่ในที่ตั้งของตนเองตามปกติ
แหล่งข่าวตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนยังคงเป็นปกติ ไม่มีความตึงเครียดอะไร ขณะที่ลูกเมียทหารฝ่ายกัมพูชาก็ได้รับอนุญาตให้กลับขึ้นมาอยู่บริเวณชุมชนรอบปราสาทพระวิหาร และที่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาะตามปกติแล้ว
ขณะเดียวกัน เชื่อว่า ฝ่ายกัมพูชาคงไม่กล้าเปิดศึกปะทะกับทหารไทยอีก เนื่องจากขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากันที่ศาลโลก และทางฝ่ายกัมพูชาเองก็ต้องการให้ประเทศที่ 3 เข้ามาสังเกตการณ์ในพื้นที่ปราสาทพระวิหาร ซึ่งได้ข่าวมาว่า ฝ่ายกัมพูชาจะให้ประเทศที่ 3 เข้ามาสังเกตุการณ์ประมาณวันที่ 4-5 มิ.ย.54 นี้
ด้าน พ.ต.รวีรักษ์ สัตตบุศน์ หัวหน้าฝ่ายกิจกรรมพลเรือน กองกำลังสุรนารี กล่าวว่า ขณะนี้ สถานการณ์ทั่วไปตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร ยังคงปกติ ไม่มีความตึงเครียดแต่อย่างใด แต่เพื่อความไม่ประมาท ฝ่ายไทยก็ได้ให้ทหารเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา เพื่อรองรับสถานการณ์รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
