ศรีสะเกษ - ผลเจรจาเขมรที่อินโดนีเซีย เหลว “ฮุน เซน” ยันไม่ถอนกำลังพ้นเขาพระวิหาร ทำชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร ตึงเครียด ทหาร 2 ฝ่ายตรึงกำลังเข้มเตรียมพร้อมฐานที่มั่น ขณะชาวบ้าน “ภูมิซรอล” ผวาพร้อมอพยพตลอดเวลาหากมีการปะทะเกิดขึ้น
วันนี้ (9 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทหารพรานจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ ได้ตั้งด่านตรวจเข้มโดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขึ้นไปที่บริเวณเขาพระวิหารอย่างเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ทหารไทยและทหารกัมพูชายังคงตรึงกำลังเข้มในฐานที่มั่นของตัวเอง
ทั้งนี้ ผลจากการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชาที่อินโดนีเซียล้มเหลว โดย สมเด็จฯ ฮุน เซน ผู้นำของกัมพูชายืนยันไม่ถอนกำลังทหารออกจากบริเวณเขาพระวิหารตามข้อเสนอของรัฐบาลไทย ซึ่งอ้างว่าบริเวณที่ทหารกัมพูชาตรึงกำลังอยู่นั้นเป็นเขตแดนของกัมพูชา ทำให้บรรยากาศบริเวณเขาพระวิหารตึงเครียดมากกว่าเดิม ทหารไทยทุกนายได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อรับมือการโจมตีจากรัฐบาลกัมพูชาที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
นายประสิทธิ์ กลิ่นอ้ม อายุ 45 ปี ชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ผลจากการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ที่ประเทศอินโดนีเซีย ล้มเหลว ทำให้ชาวบ้านภูมิซรอลพากันหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ว่า การสู้รบจะเกิดขึ้นอีกเช่นเดียวกับการปะทะกันครั้งใหญ่ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา
ดังนั้น ชาวบ้านภูมิซรอลจึงได้พากันจัดเตรียมสิ่งของมีค่าเอาไว้ เพื่อเตรียมอพยพทันทีหากมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเกิดขึ้นที่บริเวณชายแดนเขาพระวิหาร เพราะการที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาปฏิเสธถอนกำลังทหารออกจากบริเวณเขาพระวิหารนั้น เป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทหารกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าโจมตีหรือเกิดการสู้รบกับทหารไทยที่ตรึงกำลังรอบบริเวณเขาพระวิหารได้ตลอดเวลา
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านที่อาศัยตามหมู่บ้านแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่เข้าไปทำไร่นาติดกับแนวชายแดนหลังจากทำไร่นาเสร็จแล้วต้องรีบพากันกลับมาบ้านเรือนของตัวเอง เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย