ศรีสะเกษ - พายุฝนถล่มเขาพระวิหาร ทำให้ป้อมปืนใหญ่เขมรพังทรุดตัวลง บริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ขณะที่ทหารไทยยังคงตรึงกำลังเข้ม และทหารเขมรไม่ได้มีการถอนกำลังทหารออกไปจากเขาพระวิหารแต่อย่างใด
เมื่อเวลา 17.30 น.วันนี้ (30 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาได้ยื่นฟ้องต่อศาลโลก เพื่อให้ตีความกรณีพื้นที่รอบปราสาทเขาพระวิหาร ว่า เป็นพื้นที่ของฝ่ายใด โดยทางฝ่ายกัมพูชาจะเข้าไปทำการบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบเขาพระวิหาร แต่ยังไม่มีข้อยุติในเรื่องนี้
ปรากฏว่า กรณีดังกล่าวนี้ได้ทำให้บรรยากาศรอบบริเวณเชิงเขาพระวิหาร ซึ่งทหารไทยและทหารกัมพูชา ตรึงกำลังกันอยู่ค่อนข้างระมัดระวังตัวกันมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากว่าอาจจะมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะทหารกัมพูชาส่วนหนึ่งที่ได้เคลื่อนกำลังไปที่ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ได้ทยอยเดินทางกลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่บริเวณเขาพระวิหารเช่นเดิมแล้ว พร้อมทั้งมีการเสริมบังเกอร์ตลอดแนวรอบปราสาทพระวิหาร ตั้งแต่บริเวณด้านทิศตะวันของเขาพระวิหารไปจนถึงบริเวณช่องบันไดหักด้านผามออีแดงของเขตแดนไทย
แหล่งข่าวทางทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวหน้าด้านเขาพระวิหาร เปิดเผยว่า เมื่อช่วงประมาณวันที่ 27 พ.ค.54 ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฝนตกอย่างหนักบริเวณรอบเขาพระวิหาร โดยพายุฝนได้ตกอย่างต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง ปรากฏว่า ฝนที่ตกอย่างหนักนี้ ได้ทำให้ป้อมปืนใหญ่ของทหารกัมพูชาที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระพังครืนลงมา ซึ่งทหารกัมพูชาได้พากันเคลื่อนย้ายปืนใหญ่ไปอยู่จุดอื่นที่อยู่ใกล้เคียงกัน และยังไม่ได้ทำการซ่อมแซมป้อมปืนใหญ่ที่พังลงมา
ขณะเดียวกัน ทหารกัมพูชาที่ทยอยขึ้นมาบริเวณเขาพระวิหารจะใช้เส้นทางถนนสายใหม่ที่กัมพูชาทำขึ้นมา อ้อมจากด้านหลังบริเวณด้านหลังวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ตัดตรงไปยังปราสาทโคปุระชั้นที่ 2 โดยทหารกัมพูชาหลีกเลี่ยงที่จะใช้เส้นทางเดิมขึ้นมาสู่ปราสาทพระวิหารที่ต้องผ่านบริเวณหน้าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระไปยังปราสาทโคปุระชั้นที่ 1 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการเฝ้าจับตาของทหารไทยที่เฝ้าดูความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชาอย่างใกล้ชิดนั่นเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกัน ที่บริเวณหมู่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านภูมิซรอลยังคงทำมาหากินกันตามปกติ ไม่ได้มีความรู้สึกหวาดกลัว หรือวิตกกังวลกับกรณีที่ฝ่ายรัฐบาลกัมพูชายื่นฟ้องต่อศาลโลก เพื่อขอบริหารจัดการรอบบริเวณพื้นที่เขาพระวิหารแต่อย่างใด แต่ขณะเดียวกัน ทางทหารและตำรวจ รวมทั้งชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้านก็ได้เฝ้ารักษาความสงบเรียบร้อยทุกหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย- กัมพูชา อย่างใกล้ชิด
เมื่อเวลา 17.30 น.วันนี้ (30 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาได้ยื่นฟ้องต่อศาลโลก เพื่อให้ตีความกรณีพื้นที่รอบปราสาทเขาพระวิหาร ว่า เป็นพื้นที่ของฝ่ายใด โดยทางฝ่ายกัมพูชาจะเข้าไปทำการบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบเขาพระวิหาร แต่ยังไม่มีข้อยุติในเรื่องนี้
ปรากฏว่า กรณีดังกล่าวนี้ได้ทำให้บรรยากาศรอบบริเวณเชิงเขาพระวิหาร ซึ่งทหารไทยและทหารกัมพูชา ตรึงกำลังกันอยู่ค่อนข้างระมัดระวังตัวกันมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากว่าอาจจะมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะทหารกัมพูชาส่วนหนึ่งที่ได้เคลื่อนกำลังไปที่ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ได้ทยอยเดินทางกลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่บริเวณเขาพระวิหารเช่นเดิมแล้ว พร้อมทั้งมีการเสริมบังเกอร์ตลอดแนวรอบปราสาทพระวิหาร ตั้งแต่บริเวณด้านทิศตะวันของเขาพระวิหารไปจนถึงบริเวณช่องบันไดหักด้านผามออีแดงของเขตแดนไทย
แหล่งข่าวทางทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวหน้าด้านเขาพระวิหาร เปิดเผยว่า เมื่อช่วงประมาณวันที่ 27 พ.ค.54 ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฝนตกอย่างหนักบริเวณรอบเขาพระวิหาร โดยพายุฝนได้ตกอย่างต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง ปรากฏว่า ฝนที่ตกอย่างหนักนี้ ได้ทำให้ป้อมปืนใหญ่ของทหารกัมพูชาที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระพังครืนลงมา ซึ่งทหารกัมพูชาได้พากันเคลื่อนย้ายปืนใหญ่ไปอยู่จุดอื่นที่อยู่ใกล้เคียงกัน และยังไม่ได้ทำการซ่อมแซมป้อมปืนใหญ่ที่พังลงมา
ขณะเดียวกัน ทหารกัมพูชาที่ทยอยขึ้นมาบริเวณเขาพระวิหารจะใช้เส้นทางถนนสายใหม่ที่กัมพูชาทำขึ้นมา อ้อมจากด้านหลังบริเวณด้านหลังวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ตัดตรงไปยังปราสาทโคปุระชั้นที่ 2 โดยทหารกัมพูชาหลีกเลี่ยงที่จะใช้เส้นทางเดิมขึ้นมาสู่ปราสาทพระวิหารที่ต้องผ่านบริเวณหน้าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระไปยังปราสาทโคปุระชั้นที่ 1 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการเฝ้าจับตาของทหารไทยที่เฝ้าดูความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชาอย่างใกล้ชิดนั่นเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกัน ที่บริเวณหมู่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านภูมิซรอลยังคงทำมาหากินกันตามปกติ ไม่ได้มีความรู้สึกหวาดกลัว หรือวิตกกังวลกับกรณีที่ฝ่ายรัฐบาลกัมพูชายื่นฟ้องต่อศาลโลก เพื่อขอบริหารจัดการรอบบริเวณพื้นที่เขาพระวิหารแต่อย่างใด แต่ขณะเดียวกัน ทางทหารและตำรวจ รวมทั้งชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้านก็ได้เฝ้ารักษาความสงบเรียบร้อยทุกหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย- กัมพูชา อย่างใกล้ชิด