xs
xsm
sm
md
lg

ส.ส.บุรีรัมย์ รุมสกรัมป้อมค่าย"บุรีรัมย์ซิตี้" หวังดับฝัน"เนวิน" ยึดครองทั้งจังหวัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เนวิน ชิดชอบ แม้วันนี้เขาจะไม่ได้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือมีชื่อเป็นผู้บริหารพรรคภูิมิใจไทย แต่จังหวัดบุรีรัมย์ สนามที่เขาเคยลงชิงชัย ยังเป็นที่จับตามอง
สนามเลือกตั้งจ.บุรีรัมย์ รอบนี้ แม้ไม่มีชื่อเนวิน ชิดชอบ ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังถูกจับตามองจากคนทั่วไป ว่า เป็นพื้นที่แดงเดือด ที่การเลือกตั้งที่ผ่านๆมาดุเดือด เข้มข้น และถึงวันนี้แต่ละพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครลงแข่งขัน เริ่มมีการเคลื่อนไหวกันอย่างหนัก โดยเฉพาะ พรรคเพื่อไทย พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา

จ.บุรีรัมย์ มีส.ส.ได้ 9 คนแบ่งเขตการเลือกตั้งเป็น 9 เขต ใครเป็นใคร และใครต้องแข่งกับใคร ล้วนเป็นที่สนใจของคอการเมืองทั้งนั้น เพราะ เนวิน ชิดชอบประกาศจะชนะทั้ง 9 เขตเลือกตั้งเลยทีเดียว

เขตเลือกตั้งที่ 1 ประกอบด้วย อำเภอเมืองบุรีรัมย์(ยกเว้น ต.สวายจีก ต.สองห้อง ต.เมืองฝาง และ ต.สะแกโพรง) ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 122,998 คน เดิมทีเขตนี้มี นายประสิทธิ์ ตั้งศรีเกียรติกุล อดีต ส.ส.หลายสมัย พรรคภูมิใจไทย(ภม.)หนึ่งในเพื่อนรักที่ "เนวิน" ไม่เคยทอดทิ้งให้พ่ายแพ้ เป็นเจ้าของตำแหน่ง แต่คราวนี้ เนวิน ส่ง นายสนอง เทพอักษรณรงค์ มาลงแทน เพราะเป็นคนติดดินมากกว่านายประสิทธิ์ แต่เส้นทางการแข่งขันของนายสนอง ใช่ว่าจะสบาย แต่ต้องเจอกับศึกหนัก เมื่อพรรคเพื่อไทย(พท.) ส่ง พ.ต.ท.กิตติฤทธิ์ พูลสวัสดิ์ ลงชิงตำแหน่ง ส.ส. ทำให้มีสีสันขึ้นมาทันทีเพราะ พ.ต.ท.กิตติฤทธิ์ ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านมาอย่างต่อเนื่อง ได้สร้างผลงานเข้าตาชาวบ้านอย่างยิ่ง

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ส่งนายนภดล อังสุภณ อดีตผู้สมัครชิงนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ ที่พ่ายแพ้ นางปาลีรัตน์ สมานประธาน ภรรยา นายปริญญา สมานประธาน อดีตประธานสภา อบจ.บุรีรัมย์ เพื่อนซี้ เนวิน เพียงแค่กว่า 800 คะแนน คอยเป็นตัวสอดแทรก

เขตเลือกตั้งที่ 2 ประกอบด้วย อำเภอสตึก อำเภอแคนดง (ยกเว้นตำบลสระบัว) อำเภอบ้านด่าน (ยกเว้นตำบลบ้านด่าน) และอำเภอห้วยราช (เฉพาะตำบลเมืองโพธิ์ ตำบลตาเสา และตำบลโคกเหล็ก) ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง121,492 คน สำหรัฐเขตนี้มีนายรังสิกร ทิมาตฤกะ หรือ "เสี่ยหนุ่ม" พรรคภูมิใจไทย เป็นเจ้าของตำแหน่ง โดยมี ทั้ง นายสุรศักดิ์ นาคดี อดีต
ส.ส.บุรีรัมย์ ลงสมัครพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เป็นคู่แข่งสำคัญ แม้นายรังสิกร จะขยันลงพื้นที่พบปะชาวบ้านอย่างสม่ำเสมอ แต่ยังวางใจไม่ได้ เพราะเขตนี้พรรคเพื่อไทยส่ง นายกฤช อุปจันแพงวงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ลงชิงเก้าอี้เขต 2 ด้วย รวมทั้งนายธีรวุฒิ ทับทิมหิน จากพรรคประชาธิปัตย์ แม้ว่าฐานเสียงทั้งนายกฤช และนายธีรวุฒิ จะสู้ "รังสิกร" และ "สุรศักดิ์" ไม่ได้ แต่จะสร้างสีสันการแข่งขันให้คึกคักมากยิ่งขึ้น

เขตเลือกตั้งที่ 3 ประกอบด้วย อำเภอพุทไธสง อำเภอนาโพธิ์ อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์อำเภอคูเมือง (ยกเว้นตำบลคูเมือง และตำบลพรสำราญ) อำเภอบ้านด่าน (เฉพาะตำบลบ้านด่าน) และ อำเภอแคนดง (เฉพาะตำบลสระบัว) ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 128,765 คน เขตเลือกตั้งนี้มีผู้สมัคร 5 พรรคการเมือง โดยมีนายโสภณ ซารัมย์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แกนนำพรรคภูมิใจไทย โยกตัวเองมาลงเขตนี้ เป็นตัวยืน หนำซ้ำยังไม่มีกระดูกชิ้นโตอย่าง นายปณวัตร เลี้ยงผ่องพันธุ์ อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ 7 สมัย มาคราวนี้ไม่ได้ลงเลือกตั้งเพราะถูกตัดสิทธิ์ และคาดว่าจะไม่ส่งใครลงสมัครด้วย

ส่วนคู่แข่งของโสภณ ซารัมย์ ไล่มาตั้งแต่พรรคเพื่อไทย ส่งนายอาทิตย์ ยุทธเสรี ด้านพรรคประชาธิปัตย์ส่งนายมนูญ มนูขจร ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนา ส่งนายวุฒิพงษ์ เหลืองอุดมชัย อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ 2 สมัย และพรรคกิจสังคม ส่งนายโตเกียว ศรีบาล เมื่อดูจากชื่อชั้นของผู้สมัครทั้ง 4 คน แล้ว หากจะสู้ต่อกรกับโสภณ คงลำบาก คาดว่าสนามเขตนี้ นายโสภณ ซารัมย์ จากพรรคภูมิใจไทย น่าจะเข้าป้ายไม่ยาก เพราะได้ฐานคะแนนแน่นปึ๊กทุกพื้นที่ ส่วนผู้สมัครอีก 4 พรรค นั้น จะเป็นการแชร์คะแนนแต้มกันไปมากกว่า

เขตเลือกตั้งที่ 4 ประกอบด้วย อำเภอลำปลายมาศ อำเภอคูเมือง (เฉพาะตำบลคูเมือง และตำบลพรสำราญ) อำเภอหนองหงส์ (เฉพาะตำบลไทยสามัคคี และตำบลเมืองฝ้าย) และอำเภอชำนิ (เฉพาะตำบลช่อผกา) ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 131,187 คน เขตนี้ลงสมัคร 4 พรรคการเมือง นายโสภณ ซารัมย์ ส่งนางอารีญาภรณ์ ซารัมย์ ภรรยาสุดที่รัก ลงสมัครแทน โดยอาศัยฐานคะแนนเสียงจากกลุ่มครู กลุ่มสตรี และ อสม. แม้จะไม่เคยลงสนามการเมือง แต่ อารียาภรณ์ ก็ติดสอยห้อยตามนายโสภณ ลงพื้นที่หาเสียงมาอย่างต่อเนื่อง

แต่ต้องพบศึกหนักเมื่อพรรคเพื่อไทย ส่งนายสราวุธ แหวนมุข สมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ เขต อ.ลำปลายมาศ ลงชิงชัย พรรคประชาธิปัตย์ ส่งนายนพรัตน์ ฉิมรัมย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา ส่งนายปริวัชร มณีเติม ลงสมัคร สนามเขตนี้น่าจะเป็นการแข่งขันเข้มข้นระหว่างภูมิใจไทย กับเพื่อไทย ส่วนพรรคอื่นหวังเล็กๆ เป็นตัวสอดแทรก หรือตาอยู่เท่านั้น

เขตเลือกตั้งที่ 5 ประกอบด้วย อำเภอกระสัง อำเภอพลับพลาชัย (ยกเว้นตำบลป่าชัน)อำเภอห้วยราช (ยกเว้นตำบลเมืองโพธิ์ ตำบลตาเสา และตำบลโคกเหล็ก) และ อำเภอเมืองบุรีรัมย์(เฉพาะตำบลสวายจีก) ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 124,317 คน เป็นเขตฐานเสียงของ ตระกูลชิดชอบ แน่นที่สุด ครอบคลุมทั้งพื้นที่ หากไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองคงไม่มีใครล้ม นายมนต์ไชย ชาติวัฒนศิริ ที่สวมเสื้อภูมิใจไทย ลงสมัครได้อย่างแน่นอน เพราะเขตนี้นอกจากจะเป็นเขตเดิมของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ น้องชายเนวินแล้ว "นายมนต์ไชย" ซึ่งเป็นตัวแทนของนายศักดิ์สยาม ขยันลงพื้นที่พบปะประชาชนแบบถึงลูกถึงคนอยู่เป็นประจำ จนเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน ทำให้มั่นใจว่าเขตนี้ภูมิใจไทยเข้าวินชัวร์

ขณะที่พรรคเพื่อไทย ส่ง พ.ต.อ.อุดร ชาญนุวงศ์ หวังล้มช้าง สร้างเซอไพรส์ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ส่งนายสุประดิษฐ์ แสนทวีสุข พรรคความหวังใหม่ ส่งนายวีรชัช สายดวง และพรรคพลังมวลชน ส่งนายพรพิพัฒน์ หลอมประโคน ฟันธงได้เลยว่าเขตนี้ ภูมิใจไทยเข้าป้ายชัวร์ โดยมีเพื่อไทยไล่หลังมาห่างๆ

เขตเลือกตั้งที่ 6 ประกอบด้วย อำเภอนางรอง อำเภอชำนิ(ยกเว้น ตำบลช่อผกา) อำเภอเฉลิมพระเกียรติ (เฉพาะตำบลเจริญสุข) และอำเภอเมืองบุรีรัมย์ (เฉพะตำบลสะแกโพรง ตำบลสองห้อง และ ตำบลเมืองฝาง) ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 126,491 คน เขตนี้ไม่มี ส.ส.เก่า เป็นตัวยืน เพราะล้วนแต่เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ มีเพียง นายพรชัย ศรีสุริยันโยธิน
อดีตรองนายก อบจ.บุรีรัมย์ คราวที่แล้วลงสมัครพรรคพลังประชาชน แต่ถูก กกต.แจกใบแดง ก่อน เนวิน จะปลอบใจให้นั่งรองนายก อบจ.บุรีรัมย์

การเลือกตั้งคราวนี้ พรชัย ตีจาก นายเนวิน ด้วยเหตุผลส่วนตัวที่ไม่อาจเปิดเผยได้ มาซบพรรคเพื่อไทย ที่มี โสภณ เพชรสว่าง ต่อสายให้ลงพื้นที่เขตนี้แทน ส่วน โสภณ ขยับไปปาร์ตี้ลิสต์ นายเนวินเลยส่ง นายไตรเทพ งามกมล อดีตนายกเทศมนตรีเมืองนางรอง ที่ลาออกมาสวมเสื้อภูมิใจไทย ทำให้สนามเลือกตั้งเขตนี้ เข้มข้นขึ้นมาทันที ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ส่งนายนาคิน ปิ่นศิริ พรรคพลังคนกีฬา ส่งนายไตรสิทธิ์ เตียประสิทธิ์ และพรรคความหวังใหม่ ส่งนายชัยพิบูลย์ ไชยชาติ ลงชิงชัยด้วย

วัดกันปอนด์ต่อปอนด์ หากใครจะเข้าป้ายคงต้องทำการเมืองอย่างหนัก เนื่องจากเขตเลือกตั้งนี้แม้จะแบ่งใหม่ แต่ฐานนิยมส่วนตัวของนายโสภณ ยังมีอยู่เกือบเต็มพื้นที่ ขณะที่นายไตรเทพ ตอนนี้ก็คือมือไม้ของนายเนวินที่มีฐานเสียงเหนียวแน่นในเขต อ.นางรอง และยังได้คะแนนของ นางจิราภรณ์ งามกมล สมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ เขตอ.ชำนิ ภรรยานายไตรเทพ ทำให้ เนวิน ตัดสินใจส่ง ไตรเทพ ลงสมัครเขตนี้ แต่คู่แข่งอย่างนายพรชัย ก็ประมาทไม่ได้แม้คราวนี้ฉีกตัวมาสวมเสื้อพรรคเพื่อไทย ลงสมัคร โดยแรงสนับสนุนจากนายโสภณ เพชรสว่าง ที่เขี้ยวงาทางการเมืองก็ไม่เป็นรองใคร โดยเฉพาะความแข็งแกร่งในพื้นที่ อ.นางรอง และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ยิ่งมีนายพรชัย มาเสริมทัพในกลุ่มพ่อค้า อ.นางรองด้วยแล้ว เขตนี้โอกาสใครจะคว้าเก้าอี้ไปครองก็เป็นไปได้สูงหากแผ่วปลาย ส่วนผู้สมัครคนอื่นคอยสอดแทรก

เขตเลือกตั้งที่ 7 ประกอบด้วย อำเภอหนองกี่ อำเภอปะคำ อำเภอโนนสุวรรณ และอำเภอหนองหงส์ (ยกเว้นตำบลไทยสามัคคี และตำบลเมืองฝ้าย) ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 125,196 คน เขตนี้ไม่มีตัวยืนเช่นกัน พรรคภูมิใจไทยส่ง นายประกิจ พลเดช คราวที่แล้วลงสมัครพรรคพลังประชาชน แต่ถูก กกต.แจกใบแดง เลือกตั้งครั้งนี้หวังมาแก้แค้น ส่วนพรรคเพื่อไทย ดร.หนูแดง วรรณกางซ้าย ที่อาศัยฐานเสียงจากกลุ่มเพื่อนครู และคนเสื้อแดง ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ส่งนายภุชงค์ เลาหศิริวงศ์ หวังล้มยักษ์สนามนี้

หากคิดจะโค่นนายประกิจ คู่แข่งคงต้องทำการเมืองอย่างหนัก เพราะฐานนิยมส่วนตัวของนายประกิจยังอยู่ครบทั้ง 4 อำเภอ คือ อ.หนองกี่ อ.ปะคำ อ.หนองหงส์ และ อ.โนนสุวรรณ ขณะที่ ดร.หนูแดง ก็มีฐานคะแนนเต็มพื้นที่เช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มครู อีกทั้งนายหนูแดง เคยมีคะแนนชนะนายประกิจ ในบางอำเภอมาแล้วด้วย ทำให้สนามเขตนี้อาจจะต้องสู้กันฎีกา ซึ่งมีนายภุชงค์ คอยแทรกทะลุกลางป้อง

เขตเลือกตั้งที่ 8 ประกอบด้วย อำเภอบ้านกรวด อำเภอโนนดินแดง และ อำเภอละหานทราย ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 123,296 คน เขตนี้ถือเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีช้างชนช้าง โดยพรรคเพื่อไทย ส่ง นายขจรธน จุดโต อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ 4 สมัยที่ขยันลงพื้นที่ทำงานการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง แม้คราวที่แล้วจะพลาดเก้าอี้ ส.ส. แต่มีฐานคะแนนเสียงแน่นในพื้นที่ อ.บ้านกรวด และ ละหานทราย

ส่วนพรรคภูมิใจไทย มีการหักลำเดิมทีจะส่งนายสมนึก เฮงวาณิชย์ อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย (กลุ่มมัชฌิมา) ลงสมัคร แต่นายเนวิน ยืนยันว่าจะส่งนายรุ่งโรจน์ ทองศรี น้องชายของนายทรงศักดิ์ ทองศรี ลูกพี่ลูกน้องของนายเนวิน ชิดชอบ ลงสมัคร ทำให้นายสมนึก ไม่พอจึงตัดสินใจลาออกจากพรรคภูมิใจไทย เพราะเชื่อว่า คะแนนนิยมของตัวเองดีกว่านายรุ่งโรจน์ ในเขตนี้ ทำให้นายสมนึก ตัดสินใจลงสมัครในนามพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ส่งนายสันติ โรจน์สุกิจ และพรรคประชาธรรม ส่งนายเดช แผนกระโทก ลงชิงชัยสนามนี้ด้วย

ส่งผลให้สนามเลือกตั้งเขตนี้ดุเดือดเลือดพล่านแน่นอน เพราะนายสมนึก ถือเป็นแชมป์เก่า มีฐานคะแนนเสียงหลักอยู่ที่ อ.ละหานทราย ส่วนนายรุ่งโรจน์ ถือว่าเริ่มนับหนึ่งใหม่ แต่ก็ได้แรงสนับสนุนจากนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.โนนดินแดง และ อ.บ้านกรวด เขตนี้จึงเป็นการชิงดำ 3 คน ยกเครดิตให้ ขจรธน กับ สมนึก ส่วนรุ่งโรจน์ เป็นตัวสอดแทรก แต่หากทั้ง ขจรธน และสมนึก แผ่วปลาย รุ่งโรจน์ อาจแซงโค้งสุดท้ายก็เป็นได้

เขตเลือกตั้งที่ 9 ประกอบด้วย อำเภอประโคนชัย อำเภอพลับพลาชัย (เฉพาะตำบลป่าชัน) และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ (ยกเว้นตำบลเจริญสุข) ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 123,890 คน เขตนี้ กลุ่มเพื่อนเนวิน ส่ง "จักรกฤษณ์ ทองศรี" อดีตส.ส.บุรีรัมย์ ลูกชายนายเพิ่มพูน ทองศรี อดีต ส.ว.บุรีรัมย์ อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ และยังเป็นผู้สมัคร ส.ส.ระบบปาร์ตี้ลิสต์ พรรคภูมิใจไทย พี่ชายนายทรงศักดิ์ มาคราวนี้สวมเสื้อของภูมิใจไทย คาดว่าจะเจอกระดูกชิ้นโตอย่างนายจำรัส เวียงสงค์ อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ ที่คราวมานี้ลงในนามพรรคเพื่อไทย ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ส่งนายภูมิสิทธิ์ มาประจง และพรรความหวังใหม่ ส่งนายอธิวัฒน์ บุญชาติ หวังลึกๆเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

เขตนี้แม้จะไม่ดุเดือด แต่เป็นการเปิดศึกห้ำหั่นของคนกันเองล้วนๆ และคงต้องเหน็ดเหนื่อยด้วยกันทั้งสองฝ่ายหากคิดจะกำชัยชนะเพราะชื่อชั้นของ"จักรกฤษณ์ ทองศรี" แม้จะเริ่มลงสนามการเมืองระดับชาติครั้งที่สอง มีดีกรีปริญญาโท รัฐศาสตร์ แต่ตระกูล "ทองศรี" เป็นลูกพี่ลูกน้องของนายเนวิน ชิดชอบ และมีฐานเสียงแข็งแกร่งมากในอำเภอประโคนชัย ที่ ตระกูลทองศรี ยึดครองมาตลอดผนวกกับอีก 2 อำเภอ คือ พลับพลาชัย และ เฉลิมพระเกียรติ

บางส่วนเป็นฐานเสียงแน่นของ "กลุ่มเพื่อนเนวิน" เชื่อแน่ว่า นาย"จักรกฤษณ์ จะเข้าวินชัวร์ แต่ทีเด็ดของพรรคเพื่อไทยก็ใช่ว่าจะสู้ไม่ได้ นายจำรัส หรือ กำนันนาย คนเด่นดังใน อ.ประโคนชัย อาศัยฐานเหนียวแน่นจากกลุ่มครู และคนรากหญ้า ที่ยังรักทักษิณ ใน อ.ประโคนชัย เมื่อผนวกเข้าด้วยกันจึงกลายเป็น"กระดูกชิ้นโต" ที่พรรคภูมิใจไทยจะขย้อนลงคอไม่ได้ง่ายๆ ขณะที่คู่แข่งรายอื่นๆ ก็หวังเป็นตวสอดแทรกเช่นกัน

 เมื่อประเมินสถานการณ์โดยรวมทั้ง 9 เขตเลือกตั้งวัดผลต่างได้เสียทั้งจากฐานคะแนนนิยมส่วนตัว และพรรคแล้วโอกาสของพรรคภูมิใจไทยที่จะรักษาแชมป์ 9 ที่นั่งนั้น น่าจะเป็นงานที่หนักหนาสาหัสพอสมควร เมื่อทางพรรคเพื่อไทย ส่ง พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ลงมาบัญชาการเลือกตั้งที่บุรีรัมย์ หวังเจาะฐานที่มั่น ตระกูลชิดชอบ ให้สั่นคลอน

ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ จะเป็นการวัดฝีมือของ "เนวิน"ว่าจะกวาด ส.ส.บุรีรัมย์ได้ทั้ง 9 เขตหรือไม่และค่ายกลอำนาจเก่าของนายเนวิน ชิดชอบ จะถูกเพื่อไทยตีแตกหรือไม่ คงจะมีคำตอบในอีกไม่ช้านี้
กำลังโหลดความคิดเห็น