xs
xsm
sm
md
lg

ชาวสวนยาง 2 จังหวัดชุมนุมไล่ ผกก.บ้านกรวด เรียกเก็บส่วย-จับปรับไม่เป็นธรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เกษตรกรผู้ปลูกยาง 2 จังหวัด คือ จ.บุรีรัมย์-สุรินทร์ ชุมนุมไม่พอใจการปฏิบัติงานของผกก.สภ.บ้านกรวด
บุรีรัมย์- เกษตรกรผู้ปลูกยางชายแดน 2 จังหวัด คือ จ.บุรีรัมย์-สุรินทร์ กว่า 200 คน ประท้วงขับไล่ ผกก.สภ.บ้านกรวด เรียกเก็บส่วยและจับปรับไม่เป็นธรรม ยันหากไม่มีคำสั่งย้ายจะไม่สลายชุมนุม ขณะ ผกก.ยอมรับมีการตั้งด่านตามคำสั่งจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้เรียกรับส่วย

เมื่อเวลา 10.00 น.(31 พ.ค.) ผู้ประกอบการโรงงานยางพารา พร้อมด้วยเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราจาก 3 อำเภอชายแดน มี อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และ อ.กาบเชิง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ร่วม 200 คน รวมตัวชุมนุมที่หน้าสถานีตำรวจภูธรบ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พร้อมนำรถพ่วง 18 ล้อ และรถยนต์บรรทุกยางพารากว่า 30 คัน มาปิดกั้นถนนสายประโคนชัย - บ้านกรวด ระยะทางยาวร่วม 200 เมตร เพื่อประท้วงขับไล่ พ.ต.อ.เอกชัย ปรัชญาวุฒิรัตน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านกรวด ออกจากพื้นที่

ทั้งนี้ เกษตรกรที่มาชุมนุมกล่าวหาว่า พ.ต.อ.เอกชัย มีพฤติกรรมรีดไถเรียกเก็บส่วย และจับปรับตั้งข้อหาเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ที่นำยางบรรทุกใส่รถมาขายตามโรงงานหรือบริษัทรับซื้อยาง โดยไม่เป็นธรรมมานานกว่า 4 ปี ซึ่งสร้างความเดือดร้อนและซ้ำเติมเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ต้องเสี่ยงอันตรายเข้าไปกรีดยางในพื้นที่เสี่ยงภัยอยู่แล้ว ยังต้องมาถูกตำรวจจับปรับในข้อหาที่โดยไม่เป็นธรรมธรรมซ้ำอีก

นายทรงชัย โยนสถิตกุล อายุ 61 ปี เลขที่ 47/1 ม.12 ต.ปราสาท อ.บ้านกรวด บอกว่า เหตุการณ์ล่าสุดเกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยตนได้นำยางที่กรีดจากสวนจำนวน 150 กิโลกรัมบรรทุกใส่รถ จะนำไปขายที่โรงงานรับซื้อยางแห่งหนึ่งใน อ.บ้านกรวด แต่ระหว่างทางได้ถูกเจ้าหน้าตำรวจเรียกเรียกตรวจจับในข้อหา “บรรทุกสิ่งของไม่จัดให้มีสิ่งปกคลุม” ถูกเรียกเก็บค่าปรับ 200 บาท ซึ่งถือว่าเป็นข้อหาที่ไม่เป็นธรรม

ชาวบ้านอีกหลายคนก็ถูกจับปรับในข้อหาที่คล้ายกัน ทำให้ชาวบ้านทนไม่ไหวกับพฤติกรรมดังกล่าว จึงได้รวมตัวกันมาชุมนุมประท้วง พร้อมยืนยันว่าหากไม่มีคำสั่งย้ายตามที่เรียกร้องก็จะปักหลักชุมนุมต่อไป

ต่อมา พ.ต.อ.ฉัตรวรรษ แสงเพชร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้มาเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ไม่เป็นผล เพราะชาวบ้านยืนยันจะขอพบผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด เพื่อให้ออกคำสั่งย้าย พ.ต.อ.เอกชัย ผู้กำกับออกจากพื้นที่ตามข้อเรียกร้องเท่านั้น

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.เอกชัย ได้พยายามจะเข้าไปเจรจาและชี้แจงกับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่กลับยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมมากยิ่งขึ้น ต่างพากันตะโกนขับไล่ด้วยความไม่พอใจ ซึ่งเกรงจะเกิดการเผชิญหน้า รองผู้การฯ จึงขอให้ผู้กำกับเดินทางกลับไปก่อน ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเข้มงวด

ด้าน นางสุขใจ โภคทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทโชคชัยรับเบอร์เฮ้าส์ จำกัด แกนนำเกษตรกรที่มาชุมนุม บอกว่า ผู้ประกอบการ และเกษตรกรชาวสวนยาง ที่มาชุมนุมประท้วงในครั้งนี้ เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของ ผกก.เอกชัย ในการจับกุมประชาชนอย่างไร้ความเป็นธรรม

นอกจากนั้น ผู้ประกอบการรายเล็กรายน้อย จากพื้นที่อำเภอใกล้เคียง และอีกหลายจังหวัดในภาคอีสาน เช่น จ.สุรินทร์ ศรีสะเกษ สกลนคร อุดรธานี ยโสธร และ นครราชสีมา ที่นำรถบรรทุกยางมาส่งหรือขายให้ผู้ประกอบการในเขตพื้นที่อ.บ้านกรวด ก็จะถูกตำรวจตั้งด่านจับกุม ในข้อหาลักษณะที่คล้ายกันกับเกษตรกร แต่หากรายใดไม่ต้องการเสียค่าปรับก็ต้องจ่ายเป็นรายเดือนๆ ละ 1,000 บาท เพื่อแลกกับสติกเกอร์ไม่ให้ถูกจับกุมรายวัน ซึ่งข้อหาที่ผู้ประกอบการ และเกษตรกรชาวสวนยางถูกจับปรับ ล้วนเป็นข้อหาที่ไม่เป็นธรรม

ผู้ประกอบการบางรายยังถูกเรียกเก็บส่วยซึ่งผู้ประกอบก็ยอมจ่าย ทั้งที่ไม่ได้ทำผิดอะไร เพราะเกรงจะถูกกลั่นแกล้งโดยไม่เป็นธรรม แต่พฤติกรรมดังกล่าวยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและเกษตรกรเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเสี่ยงอันตรายจากการเข้าไปกรีดยางในพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวชายแดนแล้วยังต้องมาเสียค่าปรับโดยไม่เป็นธรรมอีก ทำให้เกิดความสุดทนจึงได้รวมตัวกันมาประท้วงดังกล่าว

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น.นายสกลสฤษฐ์ บุญประดิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฉัตรวรรษ แสงเพชร รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ และนายสุจิตร วาจาจิตร นายอำเภอบ้านกรวด ได้ร่วมประชุมหาข้อยุติที่ที่ว่าการอ.บ้านกรวด โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมด้วย พร้อมยืนยันต้องการให้ย้าย ผกก.ออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน

นอกจากนั้น ยังได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ผ่านรองผู้ว่า ฯให้ตั้งคณะกรรมสอบสวน และย้าย ผกก.ออกจากพื้นที่โดยไม่มีเงื่อนไข หากไม่มีการดำเนินการตามข้อเรียกร้อง ชาวบ้านและเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน จะนำรถบรรทุกยางของเกษตรกร มาปิดถนนให้มากกว่าเดิม จนกว่าจะมีคำสั่งย้าย ผกก.ดังกล่าว ขณะที่รองผู้ว่าฯ ได้รับหนังสือพร้อมรับปากว่าจะเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน

ด้าน พ.ต.อ.เอกชัย ปรัญญาวุฒิรัตน์ ผกก.สภ.บ้านกรวด ระบุว่า จากคำกล่าวหาของเกษตรกรที่มาประท้วง ยอมรับว่าบางส่วนเป็นความจริง แต่ก็เป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ให้มีการตั้งด่านตรวจวันละ 2 จุดๆ ละ 2 ชม.ส่วนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ในการปรับแบบไม่มีใบเสร็จนั้น ในส่วนตัวไม่เคยทราบเรื่องมาก่อน โดยหลังจากนี้จะทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงผู้ใต้บังคับบัญชาอีกครั้ง ซึ่งหากพบว่ามีความผิดจริง ก็จะดำเนินการตามระเบียบวินัยต่อไป ส่วนตนยอมรับว่าในช่วงนี้ตนต้องไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 7 จึงไม่ค่อยมีเวลามากำกับดูแลเท่าที่ควร

สำหรับกรณีที่มีการกล่าวหาของกลุ่มผู้ชุมนุม เกี่ยวกับการเรียกรับส่วยผู้ประกอบการรับซื้อยางนั้น ขอปฏิเสธว่าไม่เคยเรียกรับตามที่ถูกกล่าวหา หากมีการตั้งกรรมการสอบก็พร้อมที่จะชี้แจงตามข้อเท็จจริง จากนั้นหลังการเจรจา เกษตรกรที่มาชุมนุมต่างพอใจยอมเปิดถนนให้รถสัญจรไปมาได้ตามปกติ และยอมสลายการชุมนุมในเวลาต่อมา
พ.ต.อ.ฉัตรวรรษ แสงเพชร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้มาเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ไม่เป็นผล
นางสุขใจ โภคทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทโชคชัยรับเบอร์เฮ้าส์ จำกัด แกนนำเกษตรกรที่มาชุมนุมให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากนั้นได้มีการเข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึงผู้ว่าฯ ผ่านรองผู้ว่า ฯให้ตั้งคณะกรรมสอบสวน และย้าย ผกก.ออกจากพื้นที่โดยไม่มีเงื่อนไข
กำลังโหลดความคิดเห็น