นครศรีธรรมราช - ผบช.ภ.8 บินด่วนรุดสอบหนุ่มนราธิวาส ห้อยบัตรองค์กรตรวจสอบอำนาจรัฐ ขนยาบ้า 5 แสนเม็ด เร่งขยายผลเครือข่าย เผยล๊อตประวัติศาสตร์นครศรีฯ เร่งสอบโยงเป็นฐานการเงินป่วนใต้ ผู้ต้องหาเย้ยขนผ่านด่านตรวจประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ตำรวจแค่ดูเฉยๆ ก่อนปล่อยให้ผ่าน ท้ายสุดจนมุมเพราะเมา
วันนี้ (28 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.กิตติสัณฑ์ เดชสุนทรวัฒน์ รอง ผบช.ภ.8 ได้บินด่วยด้วยเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มายัง บก.ภ.นครศรีธรรมราช เพื่อทำการสอบสวนขยายผลผู้ต้องคดีลักลอบขนยาเสพติดชนิดยาบ้า ซึ่งถูกจับกุมได้ในพื้นที่นครศรีธรรมราช มีของกลางสูงถึง 500,000 เม็ด มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท และหากยาบ้าจำนวนนี้ไปถึงประเทศมาเลเซียจะมีมูลค่าสูงถึงกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นล๊อตใหญ่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ไม่เคยจับกุมได้มากเช่นนี้มาก่อน โดยมีผู้ต้องหาคือนายอารอพ๊ะห์ เซ็ง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/1 ม.3 ต.มะนังตายอ อ.เมือง จ.นราธิวาส ที่ถูกจับกุมเมื่อเวลา 23.30 น.ของวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมด้วยรถยนต์โตโยต้าวีโก้ สีบรอนท์ทอง ทะเบียน 80-5131 นราธิวาส พาหะนะที่ใช้ขนยาเสพติดจำนวนดังกล่าว โดยมีไข่เค็ม และขนมเค๊กบรรทุกอยู่เต็มท้ายรถ
พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบช.ภ.8 เปิดเผยว่า หลังจากได้รับรายงานเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในตำรวจภูธรภาค 9 พบว่านายอารอพ๊ะห์ กำลังถูกติดตามพฤติกรรม มีลักษณะเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ และกำลังติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาโดยก่อนหน้านี้มีการยึดทรัพย์สูงถึง 400-500 ล้านบาททีเดียว
“มีการตั้งข้อสังเกตในเรื่องของฐานการเงินของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดกับกลุ่มที่ก่อคดีความมั่นคงในพื้นที่อาจจะมีความเกี่ยวข้อง หรือเป็นขบวนการเดียวกันนั้น ตอนนี้ยังไม่หลักฐาน แต่มีการตั้งข้อสังเกตกันว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกัน ซึ่งขณะนี้เข้าใจว่าในพื้นที่มีความคืบหน้าในเรื่องนี้แล้ว ส่วนผู้ต้องหารายนี้ มีบัตรประจำตัวองค์กรที่อ้างว่าเป็นองค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ หรือ อตร.ด้วย ส่วนจำนวนยาเสพติดของกลางมีโทษถึงขั้นประหารชีวิตสถานเดียว แต่ถ้าให้ความร่วมมือในการสอบสวนนั้นจะมีมาตรการในการลดหย่อนตามกฎหมาย และดูผู้ต้องหารายนี้จะให้ความร่วมมือดี” ผบช.ภ.8 กล่าว
ส่วนนายอารอพ๊ะห์ เซ็ง ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างให้ไปนำยาบ้าจำนวนนี้มาจาก จ.ปทุมธานี ในวงเงินค้าจ้างจำนวน 6 หมื่นบาท ให้มาส่งที่ จ.นราธิวาส ช่วงที่ถูกจับนั้นตนเองเมายาเข้าใจว่าขับรถมาถึงบ้านแล้ว จึงไปไล่เจ้าของบ้านออกจากบ้านจึงถูกแจ้งตำรวจจับ ขณะเดียวกันนายอารอพ๊ะห์ ยังตอบคำถาม ผบช.ภ.8 ในคำถามที่ว่า “ขนยาเสพติดจำนวนมากผ่านด่านตรวจมาได้อย่างไร” โดยอารอพ๊ะห์ตอบว่า ขับมาตำรวจเรียกตรวจแต่ก็แค่ดูเฉยๆ แล้วให้ผ่านไป 2 ด่านคือที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.ชุมพร
สำหรับการจับกุมนายอารอพ๊ะหืเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น สืบเนื่องจากนายอารอพ๊ะห์ ได้ขับรถยนต์กระบะทะเบียน 80-5131 นราธิวาส เข้ามาจอดบริเวณเชิงสะพานบริเวณถนนนาป่า-หัวท่า หมู่ 2 ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นได้เดินตรงไปที่บ้านไม่มีเลขที่ของนายสุภัค พลาพร แล้วได้ไล่นายสุภัคออกจากบ้านโดยบอกนายสุภัคว่า เข้ามาอยู่ในบ้านของเขาได้อย่างไร หลังจากนั้นด้วยความตกใจนายสุภัคได้โทรศัพท์แจ้งนายสุอีบ มาลายู ผู้ใหญ่บ้าน และด.ต.ปราโมทย์ ปานจันทร์ และ ด.ต.สมจิตร คงแก้ว สายตรวจประจำตำบลมะม่วงสองต้น ให้เข้ามาให้การช่วยเหลือ
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง นายอารอพ๊ะได้ชักบัตรประจำตัวให้เจ้าหน้าที่ดูระบุว่า “องค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ” (อ.ต.ร.) เลขที่037708/2554 วันออกบัตร 26/3/54 วันหมดอายุ 26/3/56 ชื่อผู้ถือบัตรนายอารอพะห์ เซ็ง ลงชื่อ พ.อ.(พิเศษ) สุบรรณ แสงพันธ์ ประธานใหญ่องค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ออกมาแสดง แต่เจ้าหน้าที่เห็นความผิดปกติจึงทำการควบคุมตัวแล้วเชิญตัวมายัง สภ.เมืองทันที
แต่ขณะที่คุมตัวมานั้นได้กระโดดรถวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ได้ติดตามควบคุมตัวไว้ได้อย่างทุลักทุเล เมื่อมาถึง สภ.เมือง จึงทำการตรวจค้นรถยนต์จึงพบว่ามียาบ้าจำนวน 5 แสนเม็ดมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทซุกซ่อนอยู่ในแค๊บที่นั่งหลังผู้ขับขี่ถึง 5 กระเป๋า โดยมีลังไข่เค็มจำนวนมากปกปิดอยู่ จึงถูกคุมตัวดำเนินคดีทันที ส่วนทีมเจ้าหน้าที่ผู้จับกุมและอาสาสมัครจะได้รับรางวัลการจับกุมถึงประมาณ 1 ล้านบาท
