เชียงราย - ชาวสวนลิ้นจี่เมืองเชียงรายยิ้มรับราคาผลผลิตพุ่งจากปีกลายกว่าเท่าตัว ล่าสุดขน “ฮงฮวย” วางแผงงานในงานวันเกษตรปลอดภัยและอาหารชนเผ่าประจำปี ได้ราคาต่ำสุด 50 บาท/กก. แต่ถ้าส่งขายนอกพื้นที่ราคาพุ่งถึงโลละ 120 บาท พร้อมตั้งความหวัง “ลิ้นจี่จักรพรรดิ” ที่จะเริ่มออกเดือนหน้าทำราคาทะลุ 150 บาท/กก.
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า ขณะนี้ลิ้นจี่ ผลไม้เศรษฐกิจสำคัญของเชียงราย ได้เริ่มถูกนำออกท้องตลาดแล้ว โดยเฉพาะพันธุ์ฮงฮวย ที่จะให้ผลผลิตก่อนพันธุ์อื่น ขณะที่พันธุ์จักรพรรดิ และอื่น ๆ จะเริ่มให้ผลผลิตในต้นเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป และปีนี้ถือว่าลิ้นจี่มีราคาแพงกว่าทุกปีอย่างมาก
พันธุ์ฮงฮวย ที่ถูกนำมาวางจำหน่ายภายในงานวันเกษตรปลอดภัยและอาหารชนเผ่าประจำปี 2554 ในขณะนี้ ณ สนาม รด.เชิงสะพานแม่ฟ้าหลวง ริมฝั่งแม่น้ำกก อ.เมือง จ.เชียงราย มีราคาต่ำสุดกิโลกรัมละกว่า 50 บาท และถ้าเป็นเกรดดีขึ้นก็จะเพิ่มเป็น 60-80 บาท แตกต่างจากปีก่อนๆ ที่มีราคามาตรฐานอยู่ที่กิโลกรัมละเพียง 25-30 บาท จนเกิดปัญหาล้นตลาดหรือต้องมีโครงการช่วยเร่งระบายผลผลิตไปสู่จังหวัดต่างๆ
นายสุเทพ ทิพย์รัตน์ เกษตร จ.เชียงราย เปิดเผยว่า เชียงรายมีการปลูกผลผลิตลิ้นจี่รวมกันทั้งหมดประมาณ 30,000 ไร่ ซึ่งลดลงจากเดิมที่มีกว่า 50,000 ไร่ เพราะเกษตรกรจำนวนมากหันไปปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดอื่นๆ เช่น ยางพารา ฯลฯ แทน จึงทำให้ผลผลิตลดลง ประกอบกับในปีนี้เกิดสภาพอากาศแปรปรวนอย่างหนัก ทั้งร้อน หนาวและพายุ จึงทำให้ดอกติดผลลดลงกว่าปีก่อนถึง 20% และให้ผลช้ากว่าเดิมกว่า 1 เดือน ด้วยเหตุนี้ผลผลิตที่ออกมาจึงมีน้อยเพียงประมาณ 11,000 ตันเท่านั้นส่งผลให้ราคาผลผลิตพุ่งสูงขึ้นดังกล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่าในปีนี้เกษตรกรที่สามารถรักษาผลผลิตจนออกสู่ตลาดได้จึงสามารถจำหน่ายผลผลิตลิ้นจี่ได้ในราคาที่แพง ทั้งตลาดใน-ต่างประเทศ แต่ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ได้รับงบประมาณในการดูแลเรื่องราคาและผลผลิตให้กับเกษตรกรใน จ.เชียงราย จำนวนประมาณ 40 ล้านบาท โดยเป็นโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำผ่านสหกรณ์และวิสาหกิจชุมชนต่างๆ เพื่อเตรียมนำไปรับซื้อผลผลิตกรณีที่ยังมีเกษตรกรประสบปัญหาราคาตกต่ำอยู่
นายสุเทพ กล่าวอีกว่าโครงการดังกล่าวถือว่า ได้จัดเตรียมดำเนินการมาตั้งแต่ก่อนที่ผลผลิตจะออกสู่ตลาด ดังนั้น แม้ว่าผลผลิตในปีนี้จะมีน้อยและราคาแพงแต่ก็ยังคงโครงการเอาไว้อยู่ โดยอาจจะเกือบไม่มีการกู้ยืมเพื่อนำไปดำเนินการดังกล่าวเลยก็ได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าปีนี้ผลผลิตลิ้นจี่ของเกษตรกรถือว่าดีมากเพราะมีจำนวนน้อยและเป็นกลุ่มที่มีการดูแลรักษาไว้อย่างดี
ด้านนางกาดแก้ว วงศ์แหวน เจ้าของสวนลิ้นจี่จันทร์สม อ.แม่จัน กล่าวว่า ปีนี้ราคาผลผลิตดีโดยจำหน่ายพันธุ์ฮงฮวยขั้นต่ำกิโลกรัมละ 50 บาท แต่เมื่อนำไปวางตามตลาดทั่วไปในจังหวัดจะสูงถึง 70-80 บาท และหากนำส่งออกไปต่างจังหวัดจะสูงถึงกิโลกรัมละ 120-150 บาท ส่วนพันธุ์จักรพรรดิที่มีผลขนาดใหญ่จะออกสู่ตลาดราวต้นเดือนหน้า คาดว่าจะมีราคาตั้งแต่กิโลกรัมละ 150 บาทขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือภัยธรรมชาติโดยเฉพาะสภาพอากาศแปรปรวน จึงทำให้เกษตรกรหลายรายเลิกปลูกและหันไปปลูกพืชชนิดอื่นแทน ส่วนรายที่เหลืออยู่ก็ยังต้องดิ้นรน เพราะแม้จะมีราคาแพงแต่ก็ต้องพยายามรักษาผลผลิต ให้รอดพ้นผ่านวิกฤตอากาศแปรปรวนมาให้ได้ ซึ่งส่งผลทำให้มีต้นทุนสูงนั่นเอง.