สสจ.กาฬสินธุ์ติวเข้มสื่อรับมือโรคหน้าฝน

กาฬสินธุ์-สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ติวเข้มสื่อมวลชน หลังช่วยเผยแพร่ข่าวสารป้องกันโรคที่มากับฤดูฝน พร้อมเดินหน้าสุขศาลาดูแลสุขภาพประชาชนเชิงรุก ตั้งเป้าปี 2555 ครอบคลุมทุกพื้นที่

วันนี้( 19 พ.ค.) นายแพทย์พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาสื่อมวลชนและเครือข่ายประชาสัมพันธ์สาธารณสุข ซึ่งจัดขึ้นเพื่อให้มีการพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและนำข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะวิธีการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ไปเผยแพร่ต่อกับประชาชนให้ได้มีความรู้ ในการดูแลสุขภาพของตนเองอย่างถูกต้อง

โดยมีสื่อมวลชนสาขาหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์เข้าร่วมกว่า 200 คน ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์

นายแพทย์พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการบริด้านสาธารณสุขในพื้นที่ต่างๆส่วนใหญ่ดำเนินการในเชิงรับ หรือปลายเหตุ คือ เมื่อเจ็บป่วยแล้วค่อยดูแลรักษา แต่ต่อไปสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์จะบริการและดูแลสุขภาพประชาชนในเชิงรุกมากขึ้น คือ แก้ไข้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยการป้องกันไม่ให้ประชาชนเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งการทำงานเชิงรุกสื่อมวลชนนั้นมีบทบาทที่สำคัญอย่างมาก

ทั้งนี้ เพราะเป็นผู้ที่จะต้องนำข้อมูล ข่าวสาร ทั้งวิธีการป้องกัน วิธีการดูแลสุขภาพตัวเองและคนรอบข้างไปเผยแพร่กับประชาชน ซึ่งจะทำให้การล้มป่วยและความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆจะลดลง เนื่องจากมีการป้องกันไว้ล่วงหน้าแล้ว

นายแพทย์พิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงนี้กำลังจะเข้าสู่ฤดูฝน บางพื้นที่มีฝนตกและมีน้ำท่วม ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนมักที่ป่วยเป็นโรคที่มากับน้ำท่วม โดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจ ไข้หวัด ปวดบวม โรคทางเดินอาหาร อุจระร่วง อหิวาตกโรค อาหารเป็นพิษ โรคฉี่หนู โรคน้ำกัดเท้า โรคตาแดง และไข้เลือดออกจำนวนมาก ต้องเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลเฉลี่ยวันละหลายร้อยราย

จึงได้กำชับบุคลากรสาธารณสุขในสังกัดและอสม.ที่มีอยู่กว่า 60,000 คน เฝ้าระวังพร้อมทั้งออกให้ความรู้ชาวบ้านในการป้องกันอย่างต่อเนื่อง

นายแพทย์พิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ปัจจุบันการเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลเกิดความแออัด ล่าช้า และเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เนื่องจากผู้ป่วยมีจำนวนมาก ดังนั้นสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์จึงได้จัดตั้งสุขศาลาขึ้น เพื่อทำหน้าที่คอยดูแล ถ่ายทอดความรู้การป้องกันและดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี

โดยให้อสม.ที่ได้รับการฝึกอบรมประจำอยู่สุขศาลาทำหน้าที่รักษาหรือตรวจโรคที่ไม่ร้ายแรงในเบื้องต้นได้ แนะนำการดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย ก่อนที่จะเข้าไปรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งจะสามารถลดค่าใช้จ่ายและความแออัดลงได้ โดยปัจจุบันได้มีสุขศาลาเกิดขึ้นแล้วกว่า 1,000 แห่ง และภายในปี 2555 จะจัดตั้งขึ้นให้ครบครอบคลุมทุกหมู่บ้านในจังหวัดกาฬสินธุ์