บุรีรัมย์ -บุรีรัมย์เปิดเทอมวันแรก ครู ผู้ปกครอง นร.โรงเรียนชายแดนยังผวา แม้เสียงปืนจะเงียบลงแต่หวั่นปะทะซ้ำ เร่งซ้อมเข้าหลุมหลบภัย
เมื่อเวลา 10.00 น.(18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเปิดภาคเรียนวันแรก ที่โรงเรียนบ้านโคกกะชาย ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นโรงเรียนเสี่ยงภัยที่ตั้งอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพียง 3.50 กิโลเมตรเท่านั้น และเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับฝ่ายกัมพูชา เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ที่มีลูกระสุนปืนใหญ่ BM-21 ตกเข้ามาในหมู่บ้าน วัด และในโรงเรียนกว่า 30 ลูก
แรงอัดจากกระสุนปืนใหญ่ ทำให้กระจกโรงเรียนแตกเสียหาย ยังสร้างความหวาดผวาให้กับครู ผู้ปกครอง และเด็กนักเรียนในโรงเรียนดังกล่าว เนื่องจากยังไม่มั่นใจในสถนการณ์ เพราะทั้งสองฝ่ายยังมีการตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน หวั่นจะเกิดการปะทะระหว่างกองกำลังทั้งสองฝ่ายซ้ำอีก ถึงแม้จะช่วงนี้เสียงปืนจะเงียบลงแล้วก็ตาม แต่การเจรจาของทั้งสองฝ่ายยังไม่เป็นผล
พร้อมกันนี้ คณะครูยังได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง และเด็กนักเรียน ได้รับทราบถึงสถานการณ์ชายแดน เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกมากนัก
ขณะที่โรงเรียนก็ได้มีการซักซ้อมให้เด็กนักเรียนวิ่งลงหลุมหลบภัย ที่มีอยู่ภายในโรงเรียน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุการณ์ปะทะขึ้นซ้ำอีก
อย่างไรก็ตาม หลุมหลบภัยที่มีอยู่จำนวน 6 หลุม มีสภาพเก่า ชำรุด ไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร และไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน จึงร้องขอให้ทางภาครัฐเร่งจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการซ่อมแซมและก่อสร้างหลุมหลบภัยภายในโรงเรียนให้ได้มาตรฐานและเพียงพอกับจำนวนนักเรียนด้วย เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดจากเหตุปะทะดังกล่าว
ทางด้าน นายพิทยา รัตนกาญจน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโคกกะชาย ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด ยอมรับว่า ทั้งครู ผู้ปกครอง และเด็กนักเรียน ยังมีความหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย เพราะทั้งสองฝ่ายยังมีการตรึงกำลังตามแนวชายแดน อีกทั้งโรงเรียนตั้งอยู่ห่างจากชายแดนไม่ถึง 4 กิโลเมตร ยังอยู่ในวิถีกระสุนหากมีการปะทะเกิดขึ้น ประกอบกับหลุมหลบภัยที่มีอยู่ภายในโรงเรียนจำนวน 6 หลุม ก็มีสภาพเก่า ชำรุด ไม่ได้มาตรฐาน และเมื่อครั้งที่เกิดเหตุการณ์สู้รบ เมื่อปี 2528 โรงเรียนก็เคยใช้หลุมดังกล่าวหลบภัย ต่อมาหลังจากนั้นไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น โรงเรียนจึงได้ปรับสภาพพื้นที่เป็นสวนหย่อม และสวนจัดประสบการณ์อนุบาล และยังไม่ได้มีการปรับปรุงใหม่
ผอ.โรงเรียนโคกกะชาย ยังกล่าวอีกว่า หลุมหลบภัยที่มีอยู่ 6 หลุม ไม่เพียงพอกับจำนวนครู และนักเรียนที่มีมากกว่า 260 คน จึงอยากเรียกร้องให้ทางจังหวัด อำเภอ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการก่อสร้างหลุมหลบภัยที่ได้มาตรฐาน และให้เพียงพอกับจำนวนนักเรียน โดยจะต้องสร้างเพิ่มอีก 6 หลุม ส่วนกระจกที่แตกเสียหายจากแรงอัดของกระสุนปืนใหญ่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดงบซ่อมแซม