บุรีรัมย์ - พ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กนักเรียนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน จ.บุรีรัมย์ หวาดผวากระสุนปืนใหญ่เขมร หวั่นบุตรหลานเป็นอันตรายช่วงเปิดภาคเรียนในสัปดาห์หน้า หากเกิดการปะทะเดือดอีก หลังรัฐบาล 2 ฝ่ายเจรจาเหลวและพบทหารเขมรเสริมกำลังประชิดชายแดน ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นอีก วอนรัฐเร่งสร้างหลุมหลบภัยให้เพียงพอในทุกหมู่บ้านและโรงเรียน
วันนี้ ( 12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาพ่อแม่ ผู้ปกครอง และเด็กนักเรียน ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ บ้านสายโท 10 และ บ้านสายโท 12 ใต้ ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ยังมีความหวาดผวา ในเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยกับฝ่ายกัมพูชา เมื่อช่วง 22 เม.ย.-2 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในสัปดาห์หน้าซึ่งเป็นช่วงเปิดภาคเรียนใหม่เกรงว่า บุตรหลานจะได้รับอันตรายหากเกิดเหตุการณ์ปะทะขึ้นซ้ำอีก หลังรัฐบาลทั้งสองประเทศไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดอย่างในขณะนี้
รวมทั้งทราบข่าวว่าฝ่ายทหารกัมพูชาได้มีการเสริมกำลังเข้ามาประชิดชายแดน ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดการปะทะรุนแรงอีกครั้ง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อเด็กนักเรียน และชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐ เร่งเข้าก่อสร้างหลุมหลบภัยที่ได้มาตรฐานในหมู่บ้าน และโรงเรียนตามพื้นที่แนวชายแดนให้ครบทุกโรงเรียน เพื่อให้มีความปลอดภัยมากขึ้นเพราะขณะนี้โรงเรียน และหมู่บ้านหลายแห่งยังไม่มีหลุมหลบภัยที่ได้มาตรฐาน
นางลำไย ณพล อายุ 55 ปี ผู้ปกครองนักเรียนบ้านสายโท 10 ใต้ บอกว่า เหตุการณ์สู้รบที่เพิ่งเกิดขึ้นยังสร้างความหวาดผวาให้ชาวบ้าน โดยเฉพาะในช่วงเปิดภาคเรียน เกรงจะเกิดมีการปะทะของกองกำลังทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้นอีก ซึ่งจะทำให้เป็นอันตรายต่อบุตรหลาน เพราะการปะทะที่ผ่านมามีลูกกระสุนปืนใหญ่เข้ามาตกในหมู่บ้านถึง 9 ลูก ทำให้ชาวบ้านทั้งหมดต้องอพยพบุตรหลานไปพักพิงอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราว
“ขอให้ทางภาครัฐ ได้เร่งจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการก่อสร้างหลุมหลบภัยที่มีมาตรฐานภายในโรงเรียน และหมู่บ้าน อย่างเร่งด่วน เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านและเด็กนักเรียน” นางลำไย กล่าว
ขณะที่ ด.ช.สุรทัศน์ มุนิล อายุ 8 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.2 โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ดีใจที่จะได้ไปโรงเรียนและเล่นกับเพื่อนๆ แต่ยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ปะทะกันที่เกิดขึ้น เพราะโรงเรียนอยู่ติดแนวชายแดนและมีลูกปืนใหญ่ยิงตกมาใกล้โรงเรียนด้วย เมื่อก่อนในโรงเรียนเคยมีหลุมหลบภัย แต่ได้ปรับสภาพเป็นสวนไปแล้ว จึงอยากให้ทางราชการเข้ามาทำหลุมหลบภัยขึ้นในโรงเรียน เพื่อความปลอดภัยของพวกเรา แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาทำให้เลย