บุรีรัมย์ - ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ขออนุมัติงบฉุกเฉินจากกรมบัญชีกลางกว่า 18 ล้าน ก่อสร้างหลุมหลบภัยในหมู่บ้านเสี่ยงภัย 2 อำเภอ แนวชายแดนไทย-กัมพูชา รวม 182 แห่ง เพื่อป้องกันอันตรายจากเหตุปะทะ จากปัจจุบันมาเพียงหลุมหลบภัยที่สร้างทำขึ้นเองไม่ปลอดภัย คาดได้รับอนุมัติเร่งก่อสร้างเร็วๆ นี้
วันนี้ (5 พ.ค.) นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยกับฝ่ายกัมพูชา ที่บริเวณชายแดนอ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และได้มีลูกกระสุนปืนใหญ่ และ ลุกจรวด BM-21 ตกเข้ามาในพื้นที่หมู่บ้านของอำเภอบ้านกรวดหลายสิบลูก ทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บและบ้านพังเสียหายหลายหลัง จนต้องมีการอพยพชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวชายแดน ไปลี้ภัยที่ศูนย์อพยพที่จัดเตรียมไว้รองรับจำนวน 9 ศูนย์ มากกว่า 9,000 คน เป็นเวลานานถึง 11 วัน
ล่าสุด ทางจังหวัดบุรีรัมย์ได้ทำเรื่องเสนอไปยังกรมบัญชีกลางและรัฐบาล เพื่อขออนุมัติใช้งบทดลองราชการกรณีฉุกเฉินที่มีสำรองอยู่ 50 ล้านบาท มาดำเนินการก่อสร้างหลุมหลบภัยที่ได้มาตรฐาน ภายในหมู่บ้านเสี่ยงภัยตามแนวชายแดน ในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย เพราะขณะนี้ในหมู่บ้านมีเพียงหลุมหลบภัยที่ชาวบ้านทำขึ้นเอง ซึ่งไม่มีความแข็งแรงเพียงพอที่จะป้องกันอันตรายจากการสู้รบได้
โดย อ.บ้านกรวด มีเป้าหมายจะดำเนินการก่อสร้าง 162 แห่ง ส่วน อ.ละหานทรายจะก่อสร้าง 20 แห่ง รวมทั้งหมด 182 แห่ง ใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวมกว่า 18 ล้านบาท เพื่อสร้างความปลอดภัยและป้องกันอันตรายจากกระสุนปืนใหญ่หรืออาวุธหนักต่างๆ หากเกิดเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาขึ้นอีก ซึ่งคาดว่าจะได้รับการพิจารณาอนุมัติและเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในเร็วๆ นี้
“ถึงแม้สถานการณ์การสู้รบด้านชายแดน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จะเริ่มคลี่คลายลงแล้ว แต่ขณะนี้ก็ยังให้ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) คอยดูรักษาความปลอดภัย และลาดตระเวนดูความสงบเรียบร้อยในหมู่บ้านเสี่ยงภัยตามแนวชายแดนอยู่อีกสักระยะประมาณ 5-7 วัน หากไม่มีการสู้รบหรือไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงใดเกิดขึ้น ก็จะสั่งให้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ดังกล่าวต่อไป” นายธานี กล่าว