รัฐมนตรีสำนักนายกฯ เผยสถานการณ์เขมรรบไทยสมรภูมิสุรินทร์-บุรีรัมย์ นิ่งแล้ว สั่ง 42 ศูนย์อพยพให้ชาวบ้านกลับถิ่น พร้อมประสาน ตชด.ดูแลประชาชนใกล้ชิด เร่งสร้างหลุมหลบภัย 4 จว. เผยล่าสุดทหารตายรวม 8 เจ็บ 131 พลเรือนตาย 4 รับยังไม่มีหลักประกันเพื่อนบ้านเลิกระราน ประสาน รมว.อุตฯ คุยโรงงานอ้อยขยายเวลาซื้อ คาด กต.เสนอ ครม.ตั้งทีมสู้ศาลโลก
วันนี้ (2 พ.ค.) ที่รัฐสภา นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ติดตามดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนระหว่างทหารไทย-กัมพูชา เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับหน่วยความมั่นคงในพื้นที่และผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และสุรินทร์ พบว่าสถานการณ์ตอนนี้นิ่งแล้ว จึงได้ให้ประชาชนที่อพยพในศูนย์อพยพ ทั้ง 42 ศูนย์ รวมผู้อพยพกว่า 4.8 หมื่นคน ทยอยกลับภูมิลำเนาแล้ว นอกจากนั้นได้ให้นโยบายไปยังผู้ว่าราชการทั้ง 2 จังหวัดให้ประสานตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจในพื้นที่ให้ดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่หมู่บ้านที่พบว่าเป็นพื้นที่กระสุนตกอยู่เป็นประจำ เช่นที่ บ้านหนองคันนา ในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และให้เร่งสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.ศีรสะเกษ จ.อุบลราชธานี จ.สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ตนได้สั่งการให้เร่งสร้างหลุมหลบภัยเพิ่มเติมจำนวน 169 แห่งในพื้นที่ จ.สุรินทร์ แบ่งเป็น อ.กาบเชิง จำนวน 131 แห่ง และ อ.พนมดงรัก 38 แห่ง ให้แล้วเสร็จภายในปลายสัปดาห์นี้
นายองอาจยังกล่าวอีกว่า สำหรับรายงานผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ล่าสุดมีทหารเสียชีวิตแล้ว 8 นาย บาดเจ็บ 131 นาย ส่วนพลเรือน พบว่าเสียชีวิต 4 ราย แบ่งเป็น ซึ่งเป็นการเสียชีวิตจากเหตุปะทะ 1 ราย และเสียชีวิตจากโรคประจำตัวระหว่างมีการปะทะจำนวน 3 ราย
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากที่ประชาชนเริ่มกลับเข้าพื้นที่จะมีหลักประกันใดว่าฝั่งกัมพูชาจะไม่ยิงอาวุธและสร้างความเสียหายให้กับพลเรือนไทยอีก นายองอาจกล่าวว่า คงไม่มีหลักประกันใดๆที่จะรับรองว่าฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยิงอีก โดยเฉพาะจากฝ่ายกัมพูชา แต่เหตุที่ให้ประชาชนกลับพื้นที่นั้น เนื่องจากในการหารือเพื่อประเมินสถานการณ์พบว่า เหตุปะทะทั้ง 10 วันที่ผ่านมา พบว่าใน 5 วันหลังนั้นเป็นการปะทะตามแนวชายแดนระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายมั่นคงเท่านั้น และฝ่ายกัมพูชาไม่ได้มีการเคลื่อนไหวกำลังพลแบบผิดปกติ หน่วยงานในพื้นที่จึงเห็นร่วมกันว่าสามารถโยกย้ายประชาชนกลับพื้นที่ได้แล้ว
เมื่อถามถึงการดูแลด้านการทำมาหากินของประชาชน นายองอาจกล่าวว่า ตอนนี้พบปัญหากับเกษตรกรชาวไร่อ้อยใน จ.ศรีสะเกษ ที่ในช่วงมีปะทะนั้นโรงงานหีบอ้อยปิดไม่รับซื้อ ตนจึงได้ประสานไปยังนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม ให้ประสานโรงงานหีบอ้อยให้ขยายเวลาการรับซื้อ
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการตั้งทีมทนายเพื่อต่อสู้คดีที่รัฐบาลกัมพูชายื่นเรื่องปราสาทพระวิหารต่อศาลโลก นายองอาจกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดูแล โดยตนคาดว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 3 พ.ค. ทางกระทรวงการต่างประเทศอาจเสนอเป็นวาระเรื่องแจ้งเพื่อทราบเท่านั้น