กาฬสินธุ์ - บริษัทขุดเจาะปิโตรเลียมเตรียมขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมบนบกในพื้นที่อำเภอท่าคันโท หนองกุงศรี ยางตลาดและอำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ รวม 5 หลุม ซึ่งคาดว่าจะพบก๊าชธรรมชาติมากกว่าน้ำมันเชื้อเพลิง
วันนี้ (3 พ.ค.)นายทรงพล จำปาพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ชี้แจงโครงการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมบนบก แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L27/43 ซึ่งจะมีการเจาะสำรวจจำนวน 5 หลุม ประกอบด้วย ในพื้นที่อำเภอท่าคันโท อำเภอหนองกุงศรี 3 หลุม อำเภอยางตลาด 1 หลุม อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จำนวน 1 หลุม ซึ่งก่อนการขุดเจาะสำรวจจะต้องมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อน
โดยทางบริษัทผู้รับผิดชอบจะดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ตำบลดงมูล ตำบลโคกเครือ อำเภอหนองกุงศรี , ตำบลกรุงเก่า ตำบลนาตาล ตำบลกุดจิก อำเภอท่าคันโท, ตำบลนาเชือก ตำบลบัวบาน อำเภอยางตลาด และตำบลลำคลอง ตำบลหนองสอ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ รวมทั้งสิ้นประมาณ 4,000 ครัวเรือน ให้แล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2554 นี้ และจะดำเนินการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ได้ในปลายปี 2554 นี้ ซึ่งการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมบนบก แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L27/43
ขณะที่ผู้แทนบริษัทแอฟิโก้ (โคราช)จำกัด กล่าวว่า น่าจะพบก๊าชธรรมชาติมากกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่แนวโน้มจะส่งผลดีกับพื้นที่ของจังหวัดและประชาชนในพื้นที่มากขึ้น
ด้านนายจุมพล เดชดำนิล พลังงานจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในพื้นที่จ.กาฬสินธุ์ ได้มีการขุดสำรวจไปแล้ว 2 แห่ง ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน เทเทค เป็นผู้ได้รับสัมปทาน โดยจุดแรกอยู่ในพื้นที่ ต.นามะเขือ อ.สหัสขันธ์ แต่ไม่พบแก๊สธรรมชาติใด ๆ ขณะที่จุดที่ 2 คือ บ้านนาคอกควาย ต.หนองสอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งได้มีการขุดเจาะสำรวจ ห่างจากหมู่บ้าน 840 เมตร มีการขุดเจาะสำรวจไปเมื่อเดือนม.ค.
ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลวิเคราะห์ปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ไหลเวียนอยู่ในชั้นใต้ดิน ที่หากมีปริมาณเชิงพาณิชย์ได้ก็จะทำให้ชาวกาฬสินธุ์มีแก๊ส ngv ใช้ได้
แต่ที่ผ่านมาในหลุมขุดเจาะแห่งที่ 2 มีปัญหาบ้างเล็กน้อยเกี่ยวกับการขุดเจอแก๊สไข่เน่า ที่สร้างมลพิษทางอากาศกับชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง แต่ขณะนี้กลิ่นแก๊สได้จางหายไปแล้วซึ่งชาวบ้านในพื้นที่เริ่มตื่นตัวขึ้นมากและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ตัวแทนบริษัทสำรวจ เป็นอย่างดี ส่วนพื้นที่ที่กำลังจะมีการขุดเจาะสำรวจจะเร่งทำประชาพิจารณ์เพื่อจะได้ดำเนินการขุดเจาะสำรวจในพื้นที่
ซึ่งการทำประชาพิจารณ์จะต้องแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ก็อยู่ช่วงเดือนพ.ค. แต่เบื้องต้นประชาชนในพื้นที่ได้ตอบรับมาดีไม่มีส่วนคัดค้าน ที่คาดว่าอาจจะเป็นข่าวดีของคนกาฬสินธุ์ ที่ในอนาคตจะเป็นแหล่งพลังงานธรรมชาติใต้ดิน
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าหากมีการขุดเจาะสำรวจ จะทำให้ภาคแรงงานและอุตสาหกรรมของจังหวัดโตขึ้นและน่าจะมีเงินสะพัดสูงจากตัวเลขหลักสิบล้านเป็นร้อยล้านได้ในอนาคต
วันนี้ (3 พ.ค.)นายทรงพล จำปาพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ชี้แจงโครงการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมบนบก แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L27/43 ซึ่งจะมีการเจาะสำรวจจำนวน 5 หลุม ประกอบด้วย ในพื้นที่อำเภอท่าคันโท อำเภอหนองกุงศรี 3 หลุม อำเภอยางตลาด 1 หลุม อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จำนวน 1 หลุม ซึ่งก่อนการขุดเจาะสำรวจจะต้องมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อน
โดยทางบริษัทผู้รับผิดชอบจะดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ตำบลดงมูล ตำบลโคกเครือ อำเภอหนองกุงศรี , ตำบลกรุงเก่า ตำบลนาตาล ตำบลกุดจิก อำเภอท่าคันโท, ตำบลนาเชือก ตำบลบัวบาน อำเภอยางตลาด และตำบลลำคลอง ตำบลหนองสอ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ รวมทั้งสิ้นประมาณ 4,000 ครัวเรือน ให้แล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2554 นี้ และจะดำเนินการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ได้ในปลายปี 2554 นี้ ซึ่งการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมบนบก แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L27/43
ขณะที่ผู้แทนบริษัทแอฟิโก้ (โคราช)จำกัด กล่าวว่า น่าจะพบก๊าชธรรมชาติมากกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่แนวโน้มจะส่งผลดีกับพื้นที่ของจังหวัดและประชาชนในพื้นที่มากขึ้น
ด้านนายจุมพล เดชดำนิล พลังงานจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในพื้นที่จ.กาฬสินธุ์ ได้มีการขุดสำรวจไปแล้ว 2 แห่ง ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน เทเทค เป็นผู้ได้รับสัมปทาน โดยจุดแรกอยู่ในพื้นที่ ต.นามะเขือ อ.สหัสขันธ์ แต่ไม่พบแก๊สธรรมชาติใด ๆ ขณะที่จุดที่ 2 คือ บ้านนาคอกควาย ต.หนองสอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งได้มีการขุดเจาะสำรวจ ห่างจากหมู่บ้าน 840 เมตร มีการขุดเจาะสำรวจไปเมื่อเดือนม.ค.
ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลวิเคราะห์ปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ไหลเวียนอยู่ในชั้นใต้ดิน ที่หากมีปริมาณเชิงพาณิชย์ได้ก็จะทำให้ชาวกาฬสินธุ์มีแก๊ส ngv ใช้ได้
แต่ที่ผ่านมาในหลุมขุดเจาะแห่งที่ 2 มีปัญหาบ้างเล็กน้อยเกี่ยวกับการขุดเจอแก๊สไข่เน่า ที่สร้างมลพิษทางอากาศกับชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง แต่ขณะนี้กลิ่นแก๊สได้จางหายไปแล้วซึ่งชาวบ้านในพื้นที่เริ่มตื่นตัวขึ้นมากและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ตัวแทนบริษัทสำรวจ เป็นอย่างดี ส่วนพื้นที่ที่กำลังจะมีการขุดเจาะสำรวจจะเร่งทำประชาพิจารณ์เพื่อจะได้ดำเนินการขุดเจาะสำรวจในพื้นที่
ซึ่งการทำประชาพิจารณ์จะต้องแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ก็อยู่ช่วงเดือนพ.ค. แต่เบื้องต้นประชาชนในพื้นที่ได้ตอบรับมาดีไม่มีส่วนคัดค้าน ที่คาดว่าอาจจะเป็นข่าวดีของคนกาฬสินธุ์ ที่ในอนาคตจะเป็นแหล่งพลังงานธรรมชาติใต้ดิน
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าหากมีการขุดเจาะสำรวจ จะทำให้ภาคแรงงานและอุตสาหกรรมของจังหวัดโตขึ้นและน่าจะมีเงินสะพัดสูงจากตัวเลขหลักสิบล้านเป็นร้อยล้านได้ในอนาคต