สุรินทร์ - ทหารเขมรไม่หยุดเปิดปะทะอีกกลางดึกที่ “ปราสาทตาควาย” ชายแดนสุรินทร์ ทหารไทยเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 3 นาย ขณะชาวบ้านหมู่บ้านชายแดนแตกตื่นตกใจหอบลูกหลาน จูงคนแก่วิ่งหนีตายเข้าหลุมหลบภัยวุ่น และเผ่นออกจากหมู่บ้านเข้าไปอยู่ศูนย์อพยพชั่วคราวกันอื้อ หลังเพิ่งกลับเข้าบ้านเรือนได้ไม่ทันข้ามคืน
วันนี้ (3 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 22.00 น.ได้มีเสียงปืน ค. และปืนเล็กประจำกายของทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารไทย ดังขึ้นประมาณ 15-16 นัด ใกล้บริเวณปราสาทตาควาย บ.ไทยนิยมพัฒนา ต.บักได อ.พนมดงรัก จากนั้นจึงมีเสียงปืนจากการยิงต่อสู้กันประปราย จนถึงเวลา 24.00 น. เสียงปืนจึงเงียบลง
ผลจากการปะทะครั้งนี้มีทหารไทยเสียชีวิต 1 นาย คือ พลทหาร ธวัชชัย บุญมั่ง สังกัด ร.8 พัน.2 ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่บริเวณรักแร้ทะลุปอด และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 นาย ประกอบด้วย อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) สันติ จันทะเค้ สังกัดร้อยทหารพรานที่ 2602, ส.อ.ศิริวิชญ วิเศษชาติ สังกัด ร.8 พัน.2 และพลทหาร อำพล ญาติปลื้ม สังกัด ร.8 พัน.2 ทั้งหมดถูกส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดทหารบกสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์
ส่งให้ผลประชาชนตามหมู่บ้านชายแดนใกล้จุดปะทะ เช่น บ้านไทยนิยมพัฒนา ต.บักได อยู่ห่างจากปราสาทตาควาย เพียง 3 กิโลเมตร (กม.) รวมทั้งบ้านอุโลก และอีกหลายหมู่บ้านในพื้นที่ ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทตาควาย ราว 6 กม. ที่เพิ่งกลับเข้าเรือนไม่ได้กี่ชั่วโมง ต่างแตกตื่นตกใจพากันหอบลูกหลาน จูงคนชราวิ่งหนีตายเข้าหลุมหลบภัยและท่อระบายน้ำกันวุ่นวายจ้าละหวั่น และมีประชาชนจำนวนมากเดินทางออกจากบ้านพักเข้ามาหลบกระสุนปืนยังพื้นที่ปลอดภัยที่ทางราชการกำหนดไว้ ในตัว ต.บักได อ.พนมดงรัก
นอกจากนี้ยังมีประชาชนเคลื่อนย้ายออกจากหมู่บ้านชายแดนพื้นที่ ต.บักได อ.พนมดงรัก ใกล้จุดปะทะกลับเข้าไปอยู่ยังศูนย์อพยพชั่วคราวที่ เทศบาลนิคมปราสาท อ.ปราสาท เพื่อความปลอดภัยแล้วไม่ต่ำกว่า 500 คน หลังจากเพิ่งเดินทางออกจากศูนย์อพยพกลับเข้าบ้านเรือนเมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) ยังไม่ทันข้ามคืน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทหารไทยที่จุดเตรียมการรับทหารบาดเจ็บจากแนวหน้าบริเวณปากทางขึ้นปราสาทตาควาย ต.บักได ได้ปิดไฟส่องสว่างหลังทันทีหลังได้รับสัญญาณจากแนวหน้าก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ปะทะกันขึ้นราว 1 ชั่วโมง พร้อมบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีอะไรแน่นอนสำหรับทหารกัมพูชา แต่หากมีการรุกล้ำอธิปไตยไทยเข้ามาเราพร้อมตอบโต้อย่างเต็มที่ทันที
ขณะที่ศูนย์อำนวยการอพยพ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้วิทยุแจ้งการเคลื่อนย้ายประชาชนตามแผนอพยพอย่างเร่งด่วน เพราะเกรงว่าเหตุการณ์จะบานปลายเหมือนการปะทะในช่วงแรก
นายมา บุญสร้าง อายุ 84 ปี บ้านเลขที่ 36 ม.16 บ้านไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก ซึ่งหลบเข้าไปอยู่ในท่อระบายน้ำเพื่อความปลอดภัย กล่าวว่า ตนอยู่ที่บ้านตลอดไม่ได้อพยพไปไหนเพราะพิการขาเดินไม่สะดวก วันนี้เป็นวันแรกที่ภรรยากลับจากศูนย์อพยพมาอยู่บ้านและ กำลังรับประทานกันอย่างพร้อมหน้าเป็นครั้งแรก สักพักได้มีเสียงระเบิดและเสียงปืนจากการปะทะกันของทหารทั้ง 2 ฝ่ายดังขึ้นเป็นระลอก ทำให้ตกใจและต้องวิ่งหลบกระสุนปืนอีกครั้ง หากวันนี้ (3 พ.ค.) มีการปะทะอีก ภรรยาและลูกหลานคงต้องอพยพไปอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวอีกครั้ง
วันนี้ (3 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 22.00 น.ได้มีเสียงปืน ค. และปืนเล็กประจำกายของทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารไทย ดังขึ้นประมาณ 15-16 นัด ใกล้บริเวณปราสาทตาควาย บ.ไทยนิยมพัฒนา ต.บักได อ.พนมดงรัก จากนั้นจึงมีเสียงปืนจากการยิงต่อสู้กันประปราย จนถึงเวลา 24.00 น. เสียงปืนจึงเงียบลง
ผลจากการปะทะครั้งนี้มีทหารไทยเสียชีวิต 1 นาย คือ พลทหาร ธวัชชัย บุญมั่ง สังกัด ร.8 พัน.2 ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่บริเวณรักแร้ทะลุปอด และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 นาย ประกอบด้วย อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) สันติ จันทะเค้ สังกัดร้อยทหารพรานที่ 2602, ส.อ.ศิริวิชญ วิเศษชาติ สังกัด ร.8 พัน.2 และพลทหาร อำพล ญาติปลื้ม สังกัด ร.8 พัน.2 ทั้งหมดถูกส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดทหารบกสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์
ส่งให้ผลประชาชนตามหมู่บ้านชายแดนใกล้จุดปะทะ เช่น บ้านไทยนิยมพัฒนา ต.บักได อยู่ห่างจากปราสาทตาควาย เพียง 3 กิโลเมตร (กม.) รวมทั้งบ้านอุโลก และอีกหลายหมู่บ้านในพื้นที่ ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทตาควาย ราว 6 กม. ที่เพิ่งกลับเข้าเรือนไม่ได้กี่ชั่วโมง ต่างแตกตื่นตกใจพากันหอบลูกหลาน จูงคนชราวิ่งหนีตายเข้าหลุมหลบภัยและท่อระบายน้ำกันวุ่นวายจ้าละหวั่น และมีประชาชนจำนวนมากเดินทางออกจากบ้านพักเข้ามาหลบกระสุนปืนยังพื้นที่ปลอดภัยที่ทางราชการกำหนดไว้ ในตัว ต.บักได อ.พนมดงรัก
นอกจากนี้ยังมีประชาชนเคลื่อนย้ายออกจากหมู่บ้านชายแดนพื้นที่ ต.บักได อ.พนมดงรัก ใกล้จุดปะทะกลับเข้าไปอยู่ยังศูนย์อพยพชั่วคราวที่ เทศบาลนิคมปราสาท อ.ปราสาท เพื่อความปลอดภัยแล้วไม่ต่ำกว่า 500 คน หลังจากเพิ่งเดินทางออกจากศูนย์อพยพกลับเข้าบ้านเรือนเมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) ยังไม่ทันข้ามคืน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทหารไทยที่จุดเตรียมการรับทหารบาดเจ็บจากแนวหน้าบริเวณปากทางขึ้นปราสาทตาควาย ต.บักได ได้ปิดไฟส่องสว่างหลังทันทีหลังได้รับสัญญาณจากแนวหน้าก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ปะทะกันขึ้นราว 1 ชั่วโมง พร้อมบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีอะไรแน่นอนสำหรับทหารกัมพูชา แต่หากมีการรุกล้ำอธิปไตยไทยเข้ามาเราพร้อมตอบโต้อย่างเต็มที่ทันที
ขณะที่ศูนย์อำนวยการอพยพ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้วิทยุแจ้งการเคลื่อนย้ายประชาชนตามแผนอพยพอย่างเร่งด่วน เพราะเกรงว่าเหตุการณ์จะบานปลายเหมือนการปะทะในช่วงแรก
นายมา บุญสร้าง อายุ 84 ปี บ้านเลขที่ 36 ม.16 บ้านไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก ซึ่งหลบเข้าไปอยู่ในท่อระบายน้ำเพื่อความปลอดภัย กล่าวว่า ตนอยู่ที่บ้านตลอดไม่ได้อพยพไปไหนเพราะพิการขาเดินไม่สะดวก วันนี้เป็นวันแรกที่ภรรยากลับจากศูนย์อพยพมาอยู่บ้านและ กำลังรับประทานกันอย่างพร้อมหน้าเป็นครั้งแรก สักพักได้มีเสียงระเบิดและเสียงปืนจากการปะทะกันของทหารทั้ง 2 ฝ่ายดังขึ้นเป็นระลอก ทำให้ตกใจและต้องวิ่งหลบกระสุนปืนอีกครั้ง หากวันนี้ (3 พ.ค.) มีการปะทะอีก ภรรยาและลูกหลานคงต้องอพยพไปอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวอีกครั้ง
