ยกเลยเป็นพื้นที่พิเศษการท่องเที่ยวยั่งยืน ชี้ส่งผลดีเพิ่มความสามารถแข่งขันระยะยาว

เลย - พ่อเมืองเลยปลื้ม หลัง อพท.ประกาศให้จังหวัดเลยเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เตรียมจัดตั้งสำนักงาน ทำร่างแผนแม่บท ก่อนส่งต่อให้ ครม.อนุมัติจัดสรรงบฯ ด้านผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนกว่า 98.43% เห็นด้วย มั่นใจเกิดประโยชน์พลิกโฉมการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพมาตรฐานระดับสากล ทั้งเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้านตลาดท่องเที่ยวระยะยาว

วันนี้ (2 พ.ค.54) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเลย นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า จังหวัดเลยได้รับการประกาศเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จากนั้นองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) จะจัดตั้งสำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ที่จังหวัดเลย เพื่อร่างแผนแม่บทร่วมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชนและประชาชนชาวจังหวัดเลย เสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบและจัดงบประมาณดำเนินการ

หลังจากคณะกรรมาธิการท่องเที่ยวและกีฬา สภาผู้แทนราษฎรได้ร่วมกับผู้แทนอพท. มาศึกษาสำรวจพื้นที่ท่องเที่ยวพร้อมจัดประชุมสัมมนาร่วมกับผู้แทนภาคีการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง โดย อพท.ได้ประมวลผลจากการศึกษาและการประชุมสัมมนาดังกล่าว

การจัดทำกรอบแนวคิดการบูรณาการโครงข่ายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จังหวัดเลย ผลักดันให้เป็นพื้นที่พิเศษอย่างยั่งยืน โดยใช้แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเลยเป็นแรงดึงดูด ได้แก่ 3 กลุ่มพื้นที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยว ได้แก่ กลุ่มที่ 1 อ.ด่านซ้าย , อ.ภูเรือ และอ.นาแห้ว กลุ่มที่ 2 อ.ท่าลี่ อ.เชียงคาน และอำเภอเมืองเลย สุดท้ายกลุ่มที่ 3 อ.ภูกระดึง อ.หนองหิน และ อ.ภูหลวง

โดยจังหวัดเลยได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวน 5,143 ตัวอย่าง เกี่ยวกับการประกาศพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนปรากฏว่า มีผู้เห็นด้วย 5,062 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 98.43 ไม่เห็นด้วย 49 ตัวอย่าง และไม่แสดงความคิดเห็น 32 ตัวอย่าง

การประกาศพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญ ในการเสริมสร้างการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของจังหวัดเลย เพื่อพลิกโฉมการท่องเที่ยวจังหวัดให้มีคุณภาพมาตรฐานระดับสากล และเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันตลาดท่องเที่ยวในระยะยาว