ประจวบคีรีขันธ์ - ททท.3 สำนักงานภาคกลาง จับมือโปรโมตเส้นทางท่องเที่ยวเลียบอ่าวไทย กรุงเทพฯ-สมุทรสาคร-สมุทรสงคราม-เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ ภายใต้ชื่อโครงการ The Charming of The Royal Coast” หรือ มนต์เสน่ห์ ทะเล วัง ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยในปี 2554 จะมุ่งส่งเสริมเน้นแหล่งท่องเที่ยว ที่ติดอันดับ UNSEEN 3 ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สุดแห่งความมหัศจรรย์ของแต่ละจังหวัด
เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ตลาดจักจั่น ซิเคด้ามาร์เก็ต อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับ ททท.เพชรบุรี และ ททท.สมุทรสงคราม โดยมี นายสมชาย ชมภูน้อย ผอ.ททท.ภูมิภาคภาคกลาง, นางปิ่นนาถ เจริญผล ผอ.ททท.สนง.ประจวบคีรีขันธ์, นางสาวอังคณา พุ่มผกา ผอ.ททท.สนง.สมุทรสงคราม และ นางดวงใจ คุ้มสอาด ผช.ผอ.ททท.สนง.เพชรบุรี จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงโครงการ The Charming of The Royal Coast” หรือ มนต์เสน่ห์ ทะเล วัง เพื่อร่วมกันเชิญชวนนักท่องเที่ยวเดินทางไปสัมผัสมนต์เสน่ห์ความงดงามของแหล่งท่องเที่ยวริมอ่าวไทย ใกล้กรุงเทพฯ 4 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรีและ ประจวบคีรีขันธ์
นายสมชาย ชมพูน้อย ผอ.ททท.ภูมิภาคกลาง กล่าวว่าสำหรับเส้นทางท่องเที่ยวเลียบอ่าวไทย ภายใต้ชื่อโครงการ “The Charming of The Royal Coast” หรือ “มนต์เสน่ห์ ทะเล วัง ”นี้ ถือเป็นกิจกรรมเพื่อการกระตุ้นและส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าว โดยเน้นชูจุดขายในด้านความเป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเล ที่มีประวัติความเป็นมาเกี่ยวข้องกับ พระมหากษัตริย์หลายพระองค์ อีกทั้งหาดทรายชายทะเลในบริเวณนี้ มีทั้งหาดทรายที่สวยงามดึงดูดใจ และหาดโคลนที่มีวิถีชีวิตและระบบนิเวศให้เรียนรู้
นอกจากนั้น ยังมีพระราชวัง/พระราชนิเวศน์ ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของพระเจ้าอยู่หัวหลายพระองค์ จนในวันนี้ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามและทรงคุณค่า รวมถึงยังมีความโดดเด่นสวยงามในด้านวัดวาอารามที่เปี่ยมด้วยพุทธศิลป์ประดับประดาที่น่าชม ทั้งยังมีแหล่งเรียนรู้ดูงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากมาย การเปิดตัวเส้นทางท่องเที่ยวนี้เพื่อเป็นการเปิดมุมมองทางการท่องเที่ยวให้หลากหลายขึ้น สร้างทางเลือกท่องเที่ยวในเส้นทางที่อาจคุ้นเคยดี
แต่ยังมีอีกหลายแห่งที่ไม่เคยไปชม จนกล่าวได้ว่ามีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นอันซีน (Unseen-3) อีกหลายแห่ง อาทิ พระพุทธรูปสวมแว่นตาดำที่วัดโกรกกรากและรูปปั้นนักบุญอันนา หมุนได้รอบตัว 360 องศา ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่สมุทรสาคร ,พระพุทธไสยาสน์ 9 นิ้ว แห่งวัดเขายี่สารและตลาดร่มหุบสุดทึ่ง!! ที่สมุทรสงคราม, ดอกเกลือบริสุทธิ์ที่มากประโยชน์ อ.บ้านแหลม และ พระธาตุลงลิฟต์ ที่วัดเพชรพลี จ.เพชรบุรี
ด้าน นางปิ่นนาถ เจริญผล ผอ.ททท.ประจวบฯ กล่าวว่า นอกจากนั้น ในพื้นที่ จ.ประจวบฯ ซึ่งกล่าวขานกันว่า เป็นเมืองที่มีความงามเรียกกันว่า”มหัศจรรย์แห่งเมืองสามอ่าว” ก็ยังมีจุดขายท่องเที่ยวอีกหลายอำเภอทั้ง ตลาดนัดจักจั่นตลาดสุดฮิปกลางสวนสวย ที่เขาตะเกียบ หัวหิน ตลาดเพลินวานที่ย้อนยุค รวมไปถึงป้ายสถานีรถไฟหัวหิน ซึ่งถือเป็นมุมถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนหัวหิน
นอกจากนั้น ยังมีพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ ถือเป็นมหัศจรรย์แห่งเลข 5 หมายถึงสร้างในปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 50 พรรษา ส่วนเลข 9 หมายถึงสร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และยังเป็นเจดีย์ 9 ยอด มีความสวยงามอย่างยิ่งด้านบนมองเห็นทัศนียภาพของชายหาดบ้านกรูด อ.บางสะพาน ถ้ำพระยานคร ที่อุทยานฯเขาสามร้อยยอด ภายในมีพลับพลาที่ประทับของ รัชกาลที่ 5 หรือจะเป็นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ซึ่งขณะนี้ได้รับการขนานนามว่า”ซาฟารีแห่งเมืองไทย”เพราะเป็นจุดที่มีทั้งช้างป่า กระทิง วัวแดง ออกมาหากินในแปลงทุ่งหญ้าในพื้นที่อุทยานฯกุยบุรี
และที่ถือเป็นอัลซีนของที่นี่ ก็คือ การได้เห็นครอบครัวช้างป่าออกมาเล่นน้ำในบ่อน้ำในพื้นที่อุทยานฯกุยบุรี ซึ่งเป็นภาพที่ตื่นตาและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะอยากที่จะหาชมในพื้นที่อื่นๆ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้าไปชมเป็นจำนวนมาก และหากใครไปแล้วต้องถ่ายภาพกับป้ายขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ซึ่งในแต่ละสัปดาห์ในช่วงเย็นซึ่งล้วนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่หลายคนยังไม่เคยไปชม หรือเพียงผ่านไปยังไม่เคยแวะเที่ยว
นอกจากนี้ ททท.ยังได้ร่วมกันผลิตคู่มือออกมาเชิญชวนชาวกรุงให้ออกมาเที่ยว พร้อมทั้งจัดโรดโชว์ไปชวนคนเหนือมาสัมผัสเส้นทางดังกล่าวนี้ด้วย นักท่องเที่ยวที่สนใจติดต่อขอรับคู่มือเส้นทางท่องเที่ยวนี้ได้จาก ททท.สำนักงานใหญ่ และสำนักงาน ททท.ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ โทร.032-513885, ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม โทร.034-752846 , ททท.สำนักงานเพชรบุรี โทร.032-471005-6 หรือติดตามได้ที่ www.เที่ยวภาคกลาง.com
