ครอบครัวภูมิใจทหารกล้าบุรีรัมย์พลีชีพปะทะเขมรป้องอธิปไตยไทย

บุรีรัมย์ - ครอบครัวญาติพี่น้องเศร้า แต่ภาคภูมิใจ “จ.ส.อ.บุญรัตน์” ทหารกล้าบุรีรัมย์พลีชีพปกป้องอธิปไตยชาติไทย จากเหตุปะทะทหารเขมรที่ชายแดนสุรินทร์ ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านเกิด กำหนดพระราชทานเพลิงศพ 28 เม.ย.นี้ ด้าน “ภรรยา” เผยลางเหตุปะทะ สามีโทร.หากลางดึก บอกฝากดูแลลูก และรักมาก ก่อนทราบข่าวสามีถูกยิงเสียชีวิตตอนเช้า วอนรัฐดูแลครอบครัวและการศึกษาลูกทั้ง 2 คน ส่วนลูกชายอยากเป็นทหารรับใช้ชาติเหมือนพ่อ

วันนี้ (24 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศพทหารกล้า จ.ส.อ.บุญรัตน์ สุขจิตร์ อายุ 50 ปี ทหารสังกัด ร.23 พัน 4 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกบุรีรัมย์ ปฏิบัติราชการกรมทหารพรานที่ 26 ที่พลีชีพเพื่อชาติขณะปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตย จากเหตุปะทะกันระหว่างกองกำลังทหารไทยกับฝ่ายกัมพูชาที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา และสามารถนำศพออกจากพื้นที่ได้เมื่อวันที่ 23 เม.ย.นั้น ได้ถูกส่งกลับถึงภูมิลำเนา จ.บุรีรัมย์ แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (23 เม.ย.)

ล่าสุด ขณะนี้ครอบครัวและญาติพี่น้องได้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ จ.ส.อ.บุญรัตน์ สุขจิตร์ อยู่ที่ วัดกลางอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวญาติ และเพื่อนทหาร โดยมีกำหนดประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ ส่วนการปูนบำเหน็จและเลื่อนชั้นยศขึ้นอยู่ที่ทางกองทัพจะพิจารณาตามระเบียบกำหนด

นางศิริชนม์ สุขจิตร์ อายุ 44 ปี ภรรยา จ.ส.อ.บุญรัตน์ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับการเสียชีวิตของสามี แต่ภาคภูมิใจที่สามีได้สละชีพเพื่อปกป้องชาติบ้านเมือง และอยากให้ทางราชการช่วยเหลือครอบครัว โดยเฉพาะส่งเสียบุตรชายบุตรสาวทั้ง 2 คน ให้เรียนจบในระดับอุดมศึกษา และอยากให้เข้ารับราชการเหมือนพ่อ เนื่องจากขณะนี้ตนเป็นเพียงแม่บ้านขาดที่พึ่ง เพราะได้สูญเสียเสาหลักในครอบครัวไปแล้ว

นางศิริชนม์ กล่าวต่อว่า สามีโทรศัพท์มาหาเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 21 เม.ย. บอกว่า คิดถึงตนและลูกๆ มาก ได้กำชับให้ดูแลลูกๆ อย่างดี พร้อมบอกว่าพรุ่งนี้เช้าอาจเกิดเหตุการณ์ปะทะกันขึ้น ก่อนวางสายสามี บอกว่า “ฉันรักเธอนะ” จากนั้นก็วางสายโทรศัพท์ไปและมาทราบข่าวอีกครั้งตอนเช้าว่า สามีถูกยิงเสียชีวิต

ด้าน น.ส.ธัญลักษณ์ สุขจิตร์ อายุ 23 ปี บุตรสาวของ จ.ส.อ.บุญรัตน์ ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ กล่าวว่า ตกใจกับเหตุการณ์สูญเสียพ่อในครั้งนี้มาก เพราะพ่อเพิ่งมาหาเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ไม่คิดว่าจะเป็นการเจอหน้าพ่อครั้งสุดท้าย แต่ก็ภาคภูมิใจที่พ่อตายในหน้าที่รับใช้ชาติ ที่ผ่านมาไม่เคยบอกรักพ่อเลยจึงอยากบอกพ่อว่า “หนูรักพ่อมาก”

ขณะที่ นายสันติภาพ สุขจิตร์ อายุ 18 ปี บุตรชายของ จ.ส.อ.บุญรัตน์ ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม กล่าวว่า แม้จะเสียใจ แต่ตนก็ภาคภูมิใจที่พ่อตายเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติไทยจึงอยากจะเป็นทหารเหมือนพ่อ