xs
xsm
sm
md
lg

ศาลปกครองสูงสุดสั่งระงับแล้ว-โรงงานขยะ 700 ล้าน อบจ.ลำปาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ลำปาง - ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาสั่งระงับโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอย อบจ.ลำปาง มูลค่าเกือบ 700 ล้านบาท แล้ว

นายบุญสม ชมพูมิ่ง ประธานกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสุขภาพจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (18 เม.ย.) ตนพร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านในเขตตำบลบ้านเป้า ตำบลต้นธงชัย รวม 8 คน ได้เข้ารับฟังคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่ชาวบ้านในตำบลบ้านเป้า ตำบลต้นธงชัยได้ยื่นฟ้องศาลปกครอง เมื่อปี 2553 ให้ระงับโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจร ของ อบจ.ลำปาง ที่ว่าจ้างเอกชนเข้าทำการก่อสร้างด้วยวงเงินงบประมาณเกือบ 700 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาได้เริ่มปรับพื้นที่และก่อสร้างไปบางส่วน ในพื้นที่ตำบลต้นธงชัย

แต่ทาง อบจ.ลำปาง ต้องชะลอการก่อสร้าง เนื่องจากคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นได้กำหนดมาตรการหรือวิธีคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาโดยให้ระงับโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอย ไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ล่าสุด วานนี้ (18 เม.ย.) ศาลปกครองชั้นต้น ได้อ่านคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ที่ให้ยืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น ที่ระบุว่า แม้ อบจ.ลำปาง จะมีหน้าที่ในการจัดเก็บขยะ โดยโครงการก่อสร้างขยะมูลฝอยมีมูลค่า 695,800,000 บาท เป็นเงินภาษีของประชาชน หากโครงการดังกล่าวยังดำเนินต่อไปจนแล้วเสร็จ แล้วต่อมาศาลมีคำวินิจฉัยว่าการกระทำของผู้ถูกฟ้องไม่ชอบด้วยกฎหมาย ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายที่มากกว่า ประกอบกับขณะนี้โครงการก่อสร้างดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ ดังนั้น การระงับโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอย จึงย่อมไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของผู้ถูกฟ้องคดีแต่อย่างใด ศาลปกครองสูงสุด จึงเห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาศาลชั้นต้น

นายบุญสม กล่าวว่า การตัดสินของศาลปกครองครั้งนี้ ถือว่ายุติธรรมกับชาวบ้านมาก เพราะหากยังให้ อบจ.ลำปาง ดำเนินการต่อ ชาวบ้านก็คงได้รับผลกระทบ และที่สำคัญพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นพื้นที่สาธารณะที่ชาวบ้านสามารถเข้าใช้ประโยชน์ร่วมกัน แต่ อบจ.ลำปาง ได้ดำเนินการอย่างไม่ถูกต้องมาตั้งแต่แรก ซึ่งชาวบ้านรอคำสั่งของศาลปกครองมานานแล้ว และวันนี้ก็พอใจกับการตัดสิน

และต่อไปชาวบ้านก็คงต้องคอยดูแลเพื่อไม่ให้ อบจ.ลำปาง เข้าไปดำเนินการก่อสร้างบ่อกำจัดต่ออีก จนกว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นของส่วนกลางได้เรียบร้อยก่อน ชาวบ้านจึงจะได้ประชุมกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรกับพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันก็ไม่เหลือป่าไม้อีกแล้ว




กำลังโหลดความคิดเห็น